บ้านเช่าในหมู่บ้านเด่น ต.นาคอเรือ อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ที่เคยทรุดโทรม ปัจจุบันได้รับการปรับปรุง ซ่อมแซมฝาบ้าน ติดตั้งระบบไฟส่องสว่าง และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ เพื่อใช้เป็นที่พักของครูจิตอาสาโรงเรียนบ้านเด่นวิทยา
โรงเรียนบ้านเด่นวิทยา ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่กว่า 100 กิโลเมตร อยู่ในเขตน้ำท่วมเหนือทะเลสาบดอยเต่า ประสบปัญหาครูขาดแคลน คณะกรรมการสถานศึกษาจึงจัดงานทอดผ้าป่าสามัคคีระดมทุน แต่เงินที่ได้ เพียงพอแค่เช่าที่พัก และจัดหาอาหารวันละ 3 มื้อ จึงไม่มีเงินตอบแทนให้ครูที่อาสามาสอนตลอดทั้งปีการศึกษา
ธนพร จันทร์แดง อดีตข้าราชการสำนักงานอัยการ ในวัย 36 ปี เป็นหนึ่งในครูจิตอาสา 2 คน ของโรงเรียนบ้านเด่นวิทยา เธอจบการศึกษาระดับปริญญาโท คณะนิติศาสตร์
ความใฝ่ฝัน คือ การเป็นผู้พิพากษา จึงตัดสินใจลาออกจากราชการเพื่ออ่านหนังสือสอบอย่างเต็มที่ โดยใช้เวลาว่างหันมาเป็นครูจิตอาสาสอนหนังสือในโรงเรียนห่างไกล ทั้งที่ จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.เชียงใหม่
ล่าสุดทราบว่า โรงเรียนบ้านเด่นวิทยากำลังขาดครู เธอจึงอาสามาช่วยสอน แม้จะไม่ได้ค่าตอบแทนใดๆ มีเพียงที่พัก และอาหาร แต่ก็เต็มใจมาสอน เนื่องจากเห็นถึงข้อจำกัดของโรงเรียนขนาดเล็ก โดยเฉพาะในเรื่องงบประมาณ และเมื่อได้ลองมาใช้ชีวิตเป็นครูก็รู้สึกชอบ เพราะเด็กๆ น่ารัก และได้ฝึกฝนตัวเอง
กลุ่มครูจิตอาสา รวมตัวเป็นเครือข่ายอยู่ในกลุ่มสื่อสังคมออนไลน์ มีสมาชิกหลักหมื่นคน กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ บางส่วนลาออกจากงานประจำ และต้องการทำงานด้านอาสาสมัคร โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
กฤต แก้วแพงพันธุ์ อดีตผู้บริหารบริษัทเอกชน อายุ 55 ปี เรียนจบบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต หรือ M.B.A.จาก มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิส หรือ UCLA ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นครูจิตอาสาอีก 1 คน ของโรงเรียนบ้านเด่นวิทยา โดยคณะกรรมการสถานศึกษาจัดห้องพักภายวัดบ้านเด่นเป็นที่พักให้ แต่ช่วงแรกยังต้องนอนภายในศาลาวัดชั่วคราวเพื่อรอการปรับปรุงห้องพัก
กฤต เล่าว่า ตระเวนทำหน้าที่ครูจิตอาสาในหลายจังหวัด ทั้งที่ จ.พิจิตร อุทัยธานี เชียงราย เพื่อให้ความรู้เป็นวิทยาทาน และได้รับรู้ปัญหาการศึกษาของเด็กๆ ในชุมชนห่างไกล โดยเฉพาะวิชาภาษาอังกฤษ เด็กหลายคนตอบไม่ได้ว่าภาษาอังกฤษมีพยัญชนะกี่ตัว สาเหตุเพราะขาดแคลนครูที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ
แม้จะเป็นครูจิตอาสาตัวเล็กๆ แต่ขอพูดแทนคุณครูในถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศว่า กระทรวงศึกษาธิการ ควรจัดสรรงบประมาณแแก่ทุกโรงเรียนให้เพียงพอ ไม่ว่าโรงเรียนนั้นๆ จะมีจำนวนนักเรียนน้อยขนาดไหน ก็ควรจัดสรรให้เขาได้มีความรู้เทียบเคียงกับโรงเรียนใหญ่ๆ หรือโรงเรียนในเมือง ทั้งในเรื่องอุปกรณ์ และ บุคลากรทางการศึกษา
ศิริพรรณ ไชยา ผอ.ร.ร.บ้านเด่นวิทยา บอกว่า ปีนี้โรงเรียนบ้านเด่นวิทยา มีเด็กนักเรียน 44 คน โรงเรียนจึงได้รับอัตราตำแหน่งครูสายการสอน 6 คน แต่ในความเป็นจริง มีข้าราชการครู 4 คน อยู่ระหว่างรอบรรจุ 2 คน การจัดการเรียนการสอนจึงอาศัย ครูอัตราจ้าง 1 คน ครูจิตอาสาอีก 2 คน และ พนักงานพี่เลี้ยงเด็กพิการ รวมทั้งลูกจ้างพี่เลี้ยงเด็กพิการอีก 2 คน โรงเรียนจึงสามารถจัดครูสอนครบชั้นตั้งแต่อนุบาลถึง ป.6
แต่ในเดือนกันยายนนี้ ครูอีก 1 คน ก็กำลังจะเกษียณอายุ ทำให้โรงเรียน ต้องเตรียมหาทุน และเปิดรับสมัครครูจิตอาสา เพิ่มอีก 1 คน และหากปีหน้า จำนวนเด็กนักเรียนมีน้อยกว่า 41 คน อัตราตำแหน่งครูของโรงเรียนจะเหลือเพียง 4 คน และหากครูเกษียณอายุออกไปโรงเรียนก็จะไม่ได้อัตราตำแหน่งมาทดแทน
ศ.สมพงษ์ จิตระดับ ที่ปรึกษาคณะทำงานช่วยเหลือเด็กเยาวชนในภาวะวิกฤตทางการศึกษา ระบุว่า ปัญหาครูขาดแคลนของโรงเรียนขนาดเล็ก ถือเป็นวิกฤตปัญหาซ้ำซาก ที่ไม่เคยได้รับการแก้ไข และถูกซ้ำเติมด้วยระเบียบกฎเกณฑ์ ที่เอื้อให้มีการยุบรวมโรงเรียน ส่งผลให้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษารุนแรงขึ้น
โรงเรียนขนาดเล็กมีแต่จะเล็กลง ด้อยคุณภาพ และขาดแคลนทุกอย่าง โดยโอกาสที่กำลังจะมีรัฐบาลใหม่ จึงเชื่อว่าปัญหานี้จะได้รับการแก้ไข ทั้งระเบียบราชการ และงบประมาณ จะได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น เพื่อแก้ปัญหานี้ ที่เกิดขึ้นซ้ำซากมาแล้วหลายปี