วันนี้ (30 พ.ค.2566) พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ได้รับหนังสือสั่งการแต่งตั้งให้ตรวจสอบกรณีสติกเกอร์รถบรรทุกจาก พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ หลังมีการร้องเรียนจากนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เป็นผู้ออกมาเปิดโปงข้อมูลดังกล่าว
พล.ต.อ.วิสนุ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้จเรตำรวจทั่วประเทศลงพื้นที่เพื่อรวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐานต่าง ๆ และต้องเชิญนายวิโรจน์ และนายกสมาพันธ์รถบรรทุกแห่งประเทศไทย รวมทั้งตำรวจทางหลวงที่ถูกพาดพิงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการรับส่วยเข้ามาให้ข้อมูลด้วย
กระบวนการตรวจสอบครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่จะมีการเชิญคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนเรื่องตำรวจหรือ ก.ร.ตร. ซึ่งประกอบไปด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน ผู้พิพากษา อัยการ ทนายความ ตำรวจระดับผู้บัญชาการขึ้นไป ผู้แทนระดับจังหวัดของสภาองค์กรชุมชนตำบล และจเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะกรรมการและเลขานุการ รวมทั้งหมด 10 คน มาร่วมพิจารณาเรื่องร้องเรียนดังกล่าว โดยเชื่อมั่นว่าการตรวจสอบจะมีความเข้มข้น และภายหลังจากคณะกรรมการฯ มีมติแล้ว จะมีบทลงโทษที่ชัดเจน และจะส่งเรื่องไปให้กับผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดพิจารณาลงโทษทันที คาดว่าจะทราบผลการตรวจสอบภายใน 15 วัน
ทั้งนี้ แม้นายวิโรจน์จะไม่เดินทางเข้ามาให้ข้อมูลที่ได้เคยเปิดโปงไว้ ทางตำรวจก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยจะนำพยานหลักฐานต่าง ๆ ที่จเรตำรวจได้ลงพื้นที่ทั่วประเทศรวบรวมมาให้กับคณะกรรมการฯ พิจารณาหากพบว่ามีมูลความผิดก็จะดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับตำรวจทุกนายที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
คมนาคม ตั้ง กก.สอบข้อเท็จจริง
ขณะที่กระทรวงคมนาคม สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการติดสินบนเจ้าหน้าที่ด้วยการติดสติกเกอร์บนรถบรรทุก โดยมีรองปลัดกระทรวงคมนาคม หัวหน้ากลุ่มภารกิจการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านทางหลวง เป็นประธาน กรรมการประกอบด้วย ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการขนส่งทางบก ผู้อำนวยการกองกฎหมาย ผู้อำนวยการกองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต สำนักงานปลัด กระทรวงคมนาคม และผู้อำนวยการกองตรวจราชการ สำนักงานปลัดกระทรวงฯ เป็นกรรมการและเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ากรณีดังกล่าวมีมูลเป็นความจริงหรือไม่ เกี่ยวข้องกับหน่วยงานใด โดยให้รวบรวมข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และรายงานผลการตรวจสอบต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ ทราบภายใน 15 วัน นับจากวันที่มีคำสั่งแต่งตั้ง ซึ่งจะประชุมครั้งแรกในวันพรุ่งนี้ (31 พ.ค.2566)
หากรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวพบว่าหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้อง กระทรวงฯ จะดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้น นอกจากนี้ ให้คณะกรรมการมีอำนาจแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานตามความจำเป็น และเหมาะสม สามารถเชิญบุคคลหรือผู้แทนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำ รวมถึงเรียกเอกสาร พยานหลักฐานต่าง ๆ จากบุคคล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบการตรวจสอบได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม รวมถึงจัดทำและเผยแพร่สื่อประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่าง ๆ เพื่อสร้างความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับกรณีการตรวจสอบข้อเท็จจริงครั้งนี้ต่อไปด้วย
ทั้งนี้ กระทรวงฯ ขอยืนยันว่าจะดำเนินการทุกขั้นตอนและตรวจสอบทุกประเด็นด้วยความโปร่งใส เป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อให้ประชาชนรับทราบข้อเท็จจริงและเชื่อมั่นในการดำเนินการของกระทรวงฯ ต่อไป