วันนี้ (13 มิ.ย.2566) ทีมข่าวไทยพีบีเอส ลงพื้นที่หมู่ 8 ซอยเลียบคลองเจ็ก ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ก่อสร้างบ้านของสมาชิกสหกรณ์บริการเคหสถานชุมชน ร่วมใจพัฒนาตลาดเก่า จำกัด ในโครงการบ้านมั่นคงของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน องค์การมหาชน (พอช.) พบบ้านสังกะสี ลักษณะคล้ายแคมป์คนงานเรียงกัน ประมาณกว่า 30 หลัง ส่วนใหญ่อยู่ในสภาพผุพัง บางหลังสังกะสีปลิวหลุดหายไป
สอบถามผู้อยู่อาศัยบางส่วน ระบุว่า ถูกไล่รื้อจากที่ดินเอกชนบริเวณตลาดบางบัวทอง จึงรวมกลุ่มจัดตั้งสหกรณ์ออมเงินซื้อที่ดินและขอสินเชื่อกับ พอช. สร้างบ้าน 102 หลัง กระทั่งปี 2565 พบปัญหามีผู้เบิกเงินจากสหกรณ์ออกไป ทำให้สร้างบ้านต่อไม่ได้ ทั้งที่รอคอยความหวังว่าจะได้บ้านหลังใหม่ในปีนี้
ผู้พักอาศัยหลายคนต้องการให้ปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น เพราะรูปแบบเดิมตามที่ตกลงไม่ได้เป็นเช่นนี้ หลายคนทนไม่ไหวต้องย้ายไปอยู่ที่อื่น แต่บางครอบครัวต้องทนอยู่ เพราะไม่มีเงินไปซื้อบ้าน
ขณะที่สมาชิกโครงการฯ เข้าพบ พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสน์ ผู้กำกับการ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี เนื่องจากเมื่อปลายปี 2565 เคยแจ้งความดำเนินคดีกับประธานชุดเก่า
ผู้กำกับการ สภ.บางบัวทอง ยอมรับว่า ขาดแคลนพนักงานสอบสวนและขาดความเชี่ยวชาญ ทำให้คดีล่าช้านาน 6 เดือน ขณะนี้เตรียมเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำ รวมทั้งไล่สอบบุคคลที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นตรวจสอบพบเงินหายไปจากบัญชีประมาณ 2 ล้านบาท
ด้านนายสยาม นนท์คำจันทร์ ผู้ช่วย ผอ.สถาบัน พอช. ชี้แจงว่า บ้านพักสังกะสีดังกล่าวเป็นบ้านพักชั่วคราวระหว่างรอบ้านใหม่เท่านั้น และตั้งแต่ปี 2563 สหกรณ์ประสบปัญหาบริหารจัดการภายใน ไม่สามารถปิดงบบัญชีได้และมีเงินสดขาดบัญชี มีสมาชิกลาออก แต่ไม่ได้รับเงินคืน
ผู้ช่วย ผอ.สถาบัน พอช. กล่าวอีกว่า สหกรณ์ฯ ได้รับการอนุมัติสินเชื่อเพื่อซื้อที่ดินจาก พอช. เป็นเงิน 13 ล้านบาท และได้รับการอนุมัติงบพัฒนาระบบสาธารณูปโภค, งบอุดหนุนการพัฒนาที่อยู่อาศัย, งบปรับปรุงชุมชน รวมเป็นเงินกว่า 20 ล้านบาท โดยสหกรณ์ฯ ได้ซื้อที่ดินจากเอกชน เนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ เพื่อเตรียมก่อสร้างบ้านแฝดราคาหลังละ 392,000 บาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไม่ตรงปก! ชาวบ้านนนทบุรีร้องส่งเงินซื้อบ้านหลักแสน ได้บ้านสังกะสี