กรณีหญิงสาวอายุ 25 ปี เข้ารับบริการศัลยกรรมเสริมความงาม บริเวณจมูก จากคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งในย่านธัญบุรี จ.ปทุมธานี และเสียชีวิต
วันนี้ (16 มิ.ย.2566) ครอบครัวของหญิงที่เสียชีวิตระหว่างทำศัลยกรรมจมูก ภายในคลินิกแห่งหนึ่ง เข้ารับร่างและนำกลับบำเพ็ญกุศลที่ จ.ร้อยเอ็ด เบื้องต้นคลินิกติดต่อเข้ามาเพื่อแสดงความรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจัดงานศพและค่าเสียหายที่เกิดขึ้น แต่ครอบครัวยังไม่ได้คุยรายละเอียด และรอจัดงานศพให้เรียบร้อยก่อน
ครอบครัวรับศพหญิง 25 ปีเสียชีวิตระหว่างทำศัลยกรรมจมูก
ด้าน พ.ต.อ.อภิชาติ ทองแพ ผู้กำกับการ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ บอกว่า ได้เชิญแพทย์ เจ้าหน้าที่ในวันเกิดเหตุ รวมทั้ง ญาติ มาสอบปากคำเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างรอผลชันสูตรศพจากแพทย์ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด
ขณะนี้ยังไม่ได้ตั้งข้อหาแต่อย่างใด ส่วนจะเป็นการกระทำโดยประมาทหรือไม่ ต้องตรวจสอบอย่างละเอียด และตรวจสอบความถูกต้องของการเปิดคลินิกว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
ตำรวจเชิญผู้เกี่ยวข้องในเหตุการณ์สอบปากคำ
สบส.เปิดไทม์ไลน์ และผลตรวจสอบคลินิก
นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า พนักงานเจ้าหน้าที่ของ สสจ.ปทุมธานี ตรวจสอบข้อมูลคลินิกที่ถูกกล่าวอ้าง พบว่ามีการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00–22.00 น.
เบื้องต้นผู้เกี่ยวข้องกับคลินิก ชี้แจงว่านัดหญิงอายุ 25 ปีได้นัดมาทำศัลยกรรมแก้ไขจมูกที่คลินิก เป็นการผ่าตัดโดยใช้วิธีดมยาสลบ ระหว่างทำการผ่าตัด ผู้ป่วยเริ่มแสดงสัญญาณชีพผิดปกติ และเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้น ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทางคลินิกจึงได้เข้าแจ้งความกับสถานีตำรวจภูธรประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เนื่องจากเกิดการตายผิดธรรมชาติ พร้อมส่งร่างผู้เสียชีวิตไปชันสูตรเพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต
โดยหลังจากได้บันทึกข้อชี้แจงแล้ว พนักงานเจ้าหน้าที่ฯ จึงได้ดำเนินการตรวจสอบมาตรฐานของคลินิกว่ามีการปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรฐานที่พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 และที่แก้ไขเพิ่มเติม กำหนดไว้หรือไม่ เบื้องต้นพบการกระทำในลักษณะที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานสถานพยาบาล ดังนี้
- มีการแสดงเวลาทำการสถานพยาบาล ไม่ตรงกับที่ได้รับอนุญาต
- คลินิกไม่แสดงป้ายสอบถามอัตราค่ารักษาพยาบาล และไม่แสดงคำประกาศสิทธิผู้ป่วย
- เวชระเบียน ไม่เป็นไปตามที่กฎกระทรวงกำหนด
- ไม่มีที่วัดส่วนสูง
- ไม่มีอุปกรณ์นับเม็ดยา และฉลากยาแสดงข้อมูลไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
- ตู้เย็นแช่ยาไม่มีที่วัดอุณหภูมิยา
- ไม่ขออนุมัติโฆษณาสถานพยาบาล
- แพทย์ผู้ให้บริการมิได้ยื่นเรื่องแสดงความจำนงเป็นผู้ปฏิบัติงานในสถานพยาบาล มีการต่อเติมอาคารเพื่อให้บริการห้องผ่าตัดโดยไม่ได้รับอนุญาต
พนักงานเจ้าหน้าที่ฯ จึงได้แจ้งข้อหาการกระทำผิดในเบื้องต้นกับผู้เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง พร้อมส่งข้อมูลที่ได้ให้ผู้เกี่ยวข้องพิจารณาตรวจสอบ เพื่อหาข้อเท็จจริงต่อการเสียชีวิตของหญิงสาวรายดังกล่าว
สบส.แถลงผลตรวจสอบสั่งฟัน 6 ข้อหา สั่งปิดชั่วคราว 30 วัน
แจ้ง 6 ข้อหา-ปิด 30 วัน
ด้านทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรม สบส. กล่าวว่า สำหรับความผิดของคลินิกดังกล่าว ในเบื้องต้นจะมีการดำเนินการตามข้อหาตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 6 ข้อหา
- ไม่จัดให้มีเครื่องมือ เครื่องใช้ ยา และเวชภัณฑ์ที่จำเป็นประจำสถานพยาบาลตามที่กำหนดในกฎกระทรวง มีความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- ไม่จัดให้มีและรายงานหลักฐานเกี่ยวกับผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง มีความผิดตาม พ.ร.บ.บัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- ไม่ควบคุมและดูแลสถานพยาบาลให้สะอาด เรียบร้อย ปลอดภัย และมีลักษณะอันเหมาะสมแก่การเป็นสถานพยาบาล ความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท
- ไม่ขออนุมัติโฆษณาสถานพยาบาลจากผู้อนุญาต มีความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท และให้ปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาทนับแต่วันที่ฝ่าฝืนคำสั่งที่ให้ระงับการโฆษณาหรือประกาศ ทั้งนี้ จนกว่าจะระงับการโฆษณาหรือประกาศดังกล่าว
- ต่อเติมอาคารหรือดัดแปลงอาคารเพื่อใช้ในการประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท
- ในส่วนห้องผ่าตัดที่มีการต่อเติมขึ้นมาเพื่อให้บริการผู้ป่วยโดยมิได้ขออนุญาตนั้น มีความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่งหนังสือสสจ.ตรวจสอบลอบผ่าตัดไม่ได้รับอนุญาต
เบื้องต้น สสจ.ปทุมธานีได้มีการออกคำสั่งปิดคลินิกดังกล่าว เป็นการชั่วคราว 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ห้ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงให้ถูกต้องตามมาตรฐานภายในระยะเวลากำหนด หากคลินิกไม่มีการแก้ไขให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่กำหนดแล้ว ก็อาจจะมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลได้
ทั้งนี้ กรม สบส.จะดำเนินการส่งหนังสือแจ้งเวียนถึง สสจ.ทั่วประเทศ ให้มีการตรวจสอบสถานพยาบาลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน (คลินิก) ในพื้นที่ว่ามีการลักลอบให้บริการห้องผ่าตัดโดยมิได้ขออนุญาตหรือไม่ เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุอันตรายต่อชีวิตของผู้รับบริการเช่นเคสนี้