หลังจากที่ทีมฟุตบอลชายทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ที่กัมพูชา เป็นทีมเดียวที่ยังไม่ได้รับเงินรางวัลจากการคว้าเหรียญเงิน เนื่องจากเหตุการณ์ความรุนแรงของทีมงานสตาฟโค้ชและนักฟุตบอลบางคนที่เกิดขึ้นในนัดชิงชนะเลิศ กับ อินโดนีเซีย จนทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง
ตามหลักเกณฑ์การคว้าเหรียญเงินซีเกมส์ นักกีฬาจะได้คนละ 1.5 แสนบาท , ผู้ฝึกสอนรับร้อยละ 10 ส่วนสมาคมกีฬา ได้ร้อยละ 30 จากจำนวนเงินที่นักกีฬาได้รับ รวมแล้วกว่า 4 ล้านบาท ซึ่งทางการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ส่งหนังสือถึงสมาคมกีฬาฟุตบอลให้พิจารณาเพิ่มโทษนักกีฬาที่ก่อเหตุ
ล่าสุด พาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคม ยืนยันว่า ทางสมาคมได้ใช้บทลงโทษที่เหมาะสมและเด็ดขาดแล้ว ตามข้อบังคับที่เขียนเอาไว้ ไม่สามารถลงโทษเพิ่มเติมได้เพราะโทษจะเกินกว่าข้อบังคับที่กำหนดไว้
อย่างไรก็ตาม บทลงโทษที่จะเพิ่มได้ คือ บทลงโทษจากเอเอฟซี ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาและจะแจ้งผลการลงโทษมาที่สมาคมฯ ซึ่งเป็นทางเดียวที่เจ้าหน้าที่และนักกีฬาที่ก่อเหตุจะได้รับโทษเพิ่ม
สำหรับโทษที่คณะกรรมการสืบสวนสอบสวนจรรยา คือ ประสบโชค โชคเหมาะ ผู้ฝึกสอนผู้รักษาประตู, นายมายีด หมัดอะด้ำ เจ้าหน้าที่ทีม, นายภัทราวุธ วงษ์ศรีเผือก เจ้าหน้าที่ทีม ห้ามยุ่งเกี่ยวทีมชาติ 1 ปี
ส่วน 2 นักเตะ ที่เกี่ยวข้อง สภณวิชญ์ รักญาติ และ ธีรภักดิ์ เปรื่องนา แบนจากทีมชาติคนละ 6 เดือน ซึ่งทีมงานสตาฟโค้ช และนักกีฬาที่ก่อเหตุมีโอกาสสูงที่จะไม่ได้เงินรางวัลส่วนนี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ส.ฟุตบอลฯ ขีดเส้น 15 วัน ตัดสินโทษเหตุวุ่นวายนัดชิงซีเกมส์