ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

จับตา "กัมพูชา" ฝ่ายค้านหวัง "ฮุน มาเนต" สร้างความเปลี่ยนแปลง

ต่างประเทศ
24 ก.ค. 66
07:29
615
Logo Thai PBS
จับตา "กัมพูชา" ฝ่ายค้านหวัง "ฮุน มาเนต" สร้างความเปลี่ยนแปลง
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ภาพรวมเลือกตั้งกัมพูชามีผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกผู้นำ 8.2 ล้านคน ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ถูกจับตามองเพราะเป็นเวทีสำคัญเปิดตัวว่าที่ผู้นำคนใหม่ ขณะที่พรรคฝ่ายค้านหวัง "ฮุน มาเนต" สร้างความเปลี่ยนแปลง

วันนี้ (24 ก.ค.2566) ผู้สื่อข่าวรายงานภาพรวมการเลือกตั้งทั่วไปของกัมพูชา เมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา ตลอดทั้งวันเป็นไปอย่างราบรื่น แม้ว่าจะมีฝนตกในช่วงใกล้ปิดหีบและตลอดคืนที่ผ่านมา จะส่งผลกระทบกับการนับคะแนนอยู่บ้างก็ตาม

กกต.กัมพูชา ระบุว่า มีผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งในครั้งนี้มากกว่า 8,200,000 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 84.58 ของผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งมากกว่า 9,700,000 คนทั่วประเทศ ซึ่งตัวเลขนี้สูงกว่าการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2018 และการเลือกตั้งท้องถิ่นเมื่อปี 2022

ส่วนผลการนับคะแนนเบื้องต้น ชี้ว่า พรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล มีคะแนนนำคู่แข่งอีก 17 พรรคการเมืองที่ลงชิงชัยในครั้งนี้ โดยผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการจะประกาศในเดือน ส.ค. ซึ่งนักวิเคราะห์เห็นตรงกันว่า ซีพีพีน่าจะกวาดที่นั่งทั้ง 125 ที่นั่งไปได้อีกเช่นเคย เหมือนกับการเลือกตั้งเมื่อ 5 ปีที่แล้ว หลังจากการเลือกตั้งรอบนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 ที่จัดขึ้นแบบปราศจากฝ่ายค้านหลัก

กง โมนิกา รักษาการเลขาธิการพรรค Candlelight หรือ พรรคแสงเทียน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลักที่ถูกตัดสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งไปก่อนหน้านี้ เปิดเผยกับทีมข่าวไทยพีบีเอส ว่า ฝ่ายค้านหวังให้พรรครัฐบาลยอมเปิดทางให้มีการพูดคุยกันระหว่าง 2 ฝ่ายและหาทางร่วมมือกันเพื่อพัฒนาประเทศ

กง โมนิกา รักษาการเลขาธิการพรรค Candlelight

กง โมนิกา รักษาการเลขาธิการพรรค Candlelight

กง โมนิกา รักษาการเลขาธิการพรรค Candlelight

นอกจากนี้ยังแสดงความหวังว่า ลูกหลานของชนชั้นนำในรัฐบาลที่กำลังก้าวขึ้นมาสืบทอดอำนาจต่อจากคนในครอบครัว อาจสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ เพราะแต่ละคนล้วนได้รับการศึกษาดีและใช้ชีวิตในโลกตะวันตกมาก่อน แต่การเปลี่ยนแปลงนั้นอาจจะยังไม่สามารถเกิดขึ้นได้ใน 2-3 ปีนับจากนี้

ทั้งนี้ "ฮุน มาเนต" บุตรชายคนโตของสมเด็จฮุน เซน และว่าที่ผู้นำคนต่อไปของกัมพูชา เรียนจบโรงเรียนเตรียมทหารที่เวสต์ พอยต์ รวมทั้งปริญญาโทและปริญญาเอกจากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังทั้งในสหรัฐฯ และอังกฤษ จุดนี้ทำให้หลายคนมองว่า ฮุน มาเนต อาจจะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ แต่โจทย์ใหญ่คือ เขาจะก้าวออกมาจากใต้เงาของพ่อที่ครองอำนาจมาเกือบ 4 ทศวรรษได้หรือไม่

และก่อนหน้านี้ สมเด็จฮุน เซน เปิดเผยกับสื่อจีนว่า ฮุน มาเนต สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ใน 3-4 สัปดาห์นับจากนี้ ขึ้นอยู่กับความสามารถในการบริหารประเทศ ซึ่งการประกาศดังกล่าวถือเป็นการตอกย้ำชัดเจนถึงบทบาททางการเมืองของ ฮุน มาเนต ที่น่าจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"No Comment" ฮุน มาเนต ตอบสื่อถามเรื่องนั่งเก้าอี้นายกฯ กัมพูชา

จาก "ฮุน เซน" ส่งต่ออำนาจ 4 ทศวรรษกุมกัมพูชาสู่ "ฮุน มาเนต"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง