ศาลฎีกาฯออกหมายจับ 2 จำเลยคดีขายข้าวจีทูจีไม่มาศาล
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองออกหมายจับนายวีรวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายสุธี เชื่อมไธสง หลังไม่เดินทางมาสอบคำให้การในการพิจารณาคดีนัดแรก กรณีอัยการสูงสุดยื่นฟ้อง นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมพวกรวม 21 คน ในคดีทุจริตโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี)
วันนี้ (29 มิ.ย.2558) ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้นัดพิจารณาคดีทุจริตโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ ซึ่งอัยการสูงสุดได้ยื่นฟ้องนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมพวกรวม 21 คน ซึ่งมีทั้งนักการเมือง ข้าราชการ และเอกชน โดยการสอบคำให้การนัดแรก จำเลยทุกคนต้องเดินทางมาศาล แต่นายวีรวุฒิ วัจนพุกกะ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จำเลยที่ 3 และนายสุธี เชื่อมไธสง จำเลยที่ 16 ไม่มาศาล
ศาลฎีกาฯ จึงให้ออกหมายจับจำเลยทั้ง 2 คน เพราะมีพฤติการณ์และเหตุให้สงสัยว่าจะหลบหนี และจำหน่ายคดีจำเลยทั้ง 2 คนไว้ชั่วคราว ขณะที่นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ และจำเลยที่เหลือปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ซึ่งศาลฎีกาฯ อนุญาตให้ยื่นคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรเพิ่มเติม ภายในวันที่ 31 ส.ค.นี้
สำหรับคดีนี้อัยการสูงสุดได้ยื่นฟ้องนายบุญทรงพร้อมพวก ตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา ฐานกระทำผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ หรือฮั้วประมูล พ.ศ.2542 เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อจัดการ หรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจโดยทุจริตสร้างความเสียหายแก่รัฐ เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ และพระราชบัญญัติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) กรณีทุจริตโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ ซึ่งการยื่นฟ้องของอัยการสูงสุดยังขอให้ศาลสั่งปรับจำเลยทั้งหมดเป็นเงินกว่า 35,000 ล้านบาท ซึ่งค่าปรับนี้เป็นการคิดคำนวณจากมูลค่าครึ่งหนึ่งตามสัญญาระบายข้าว 50,000 ตัน ที่พบว่ามีการกระทำผิดสัญญารวม 4 ใน 8 ฉบับด้วย