กทม.ให้เอกชนชี้แจงแนวทางแก้ปัญหา "แอชตัน อโศก" ใน 30 วัน - ยันไม่เอื้อเอกชน

วันนี้ (3 ส.ค.2566) จากกรณีศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 27 ก.ค.66 โดยสั่งเพิกถอนใบรับแจ้งเกี่ยวกับการก่อสร้างอาคารโครงการคอนโดมิเนียม แอชตัน อโศก ทุกฉบับโดยให้มีผลย้อนหลังถึงวันที่ออกหนังสือดังกล่าว

ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น.นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ นายธวัชชัย นภาศักดิ์ศรี ผอ.สำนักการโยธา ร่วมแถลงแนวทางที่ กทม.จะดำเนินการ

คอนโดแอชตัน อโศก มีทั้งหมด 51 ชั้นมูลค่าราว 6,481 ล้านบาท มีลูกบ้านเข้าอยู่อาศัย โอนโฉนดไปแล้ว 580 ครัวเรือน คนไทย 483 ราย ต่างชาติอีก 142 คน

นายวิศณุ ระบุว่า โครงการดังกล่าวมีปัญหาเกี่ยวกับบริเวณทางเข้า-ออก คอนโดมิเนียม ซึ่งเป็นพื้นที่ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ซึ่งได้มอบหมายให้สำนักการโยธา ออกหนังสือแจ้ง ถึง บ.อนันดา เจ้าของโครงการคอนโดมิเนียม แอชตัน อโศก เพื่อเพิกถอนใบอนุญาต ตาม ม.41 ของ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 หลังจากได้หนังสือแล้วทางบริษัท สามารถดำเนินการแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ถูกต้องได้ ภายในระยะวลาไม่น้อยกว่า 30 วัน มาตรา 39 ทวิ ของกฎหมายควบคุมอาคาร

โครงการดังกล่าวมีปัญหาเกี่ยวกับบริเวณทางเข้า-ออก คอนโดมิเนียม ซึ่งเป็นพื้นที่ของ รฟม. ซึ่งขณะนี้มอบหมายให้สำนักการโยธา ออกหนังสือแจ้ง ถึง บ.อนันดา เจ้าของโครงการคอนโดมิเนียม แอชตัน อโศก

ส่วนประเด็นที่มีปัญหาอยู่ในขณะนี้ คือ ทางเข้า-ออก ที่ต้องมีไม่น้อยกว่า 12 ม.นั้น เป็นหน้าที่ของเอกชนที่ต้องดำเนินการหาทางและทำทางเข้า -ออก อย่างถูกตามกฎหมาย

อ่านข่าว กทม.เปิดแนวทาง "แอชตัน อโศก" ไม่ต้องรื้อถอน-ขอใบแจ้งก่อสร้างใหม่ได้ 

นายวิศณุ ยังชี้แจงเกี่ยวกับประเภทใบอนุญาตก่อสร้าง ระหว่าง "ใบรับแจ้งก่อสร้าง" และ "ใบอนุญาตก่อสร้าง" ซึ่งทั้ง 2 ใบอนุญาต มีความคล้ายกันเป็นใบอนุญาตเกี่ยวกับการก่อสร้าง

แต่โครงการแอชตัน อโศก ได้ยื่นขอตอนเริ่มดำเนินโครงการ คือ ประเภท "ใบรับแจ้งก่อสร้าง" ซึ่งใบอนุญาตประเภทดังกล่าวจะใช้กับโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ แต่ต้องมี วิศกร, สถาปนิกควบคุมตามหลักวิชาชีพและการควบคุมการก่อสร้าง เป็นใบอนุญาต ที่สามารถยื่นขอตามมาตรา 39 ทวิฯ แล้วก่อสร้างได้เลย โดยไม่ต้องรอ กทม.อนุญาต

คณะผู้บริหาร กทม.ชี้แจงกรณี กรณีคอนโดมิเนียม แอชตัน อโศก

ส่วนอีกประเภท คือ งานก่อสร้างทั่วไป คือ "ใบอนุญาตก่อสร้าง" ที่ต้องมีรายละเอียดเต็มรูปแบบ มีรูปแบบการก่อสร้างเรียบร้อยมาก่อนแล้วจึงยื่นขอ ทาง กทม.จึงจะพิจารณาอนุญาต

โครงการแอชตัน ยื่นขอแบบแรก คือ ใบรับแจ้งก่อสร้าง ตาม ม.39 ทวิ แต่ใน ม.39 ทวิ ระบุว่า กทม.ต้องใช้เวลาพิจารณา 120 วัน และถ้ามีข้อทักท้วงก็จะต้องทักท้วงไปด้วย ซึ่งโครงการแอชตัน มีประเด็นที่เกี่ยวกับที่ดินที่ใช้ทางเข้า-ออก อยู่เดิมแล้ว ทำให้ กทม.ได้มีข้อสังเกต เป็นเงื่อนไขทักท้วงไปตั้งแต่ปี 2558 และ 2560 ว่า มีประเด็นนี้ด้วยเกี่ยวกับที่ดินการเข้า-ออก หากเกิดอะไรขึ้นทางผู้ยื่นหรือเจ้าของโครงการต้องรับผิดชอบด้วย เป็นเรื่องที่เอกชนรับทราบเงื่อนไขนี้มาก่อนอยู่แล้ว

นายวิศณุ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับใบอนุญาต ประเภท "ใบรับแจ้งก่อสร้าง" ในมุมหนึ่ง ทำให้โครงการขนาดใหญ่ สามารถก่อสร้างได้รวดเร็ว โดยที่มีวิศวกรและสถาปนิกตามวิชาชีพควบคุมอยู่ตามกฎหมาย เพื่อดูแลงานก่อสร้างให้รอบคอบแต่ก็เป็นความเสี่ยงของผู้ลงทุน หรือเจ้าของโครงการ หากมีอะไรที่ไม่ถูกต้องก็ต้องแก้ไข

โครงการแอชตัน อโศก มีประเด็นที่เกี่ยวกับที่ดินที่ใช้ทางเข้า-ออก อยู่เดิมแล้ว ทำให้ กทม.ได้มีข้อสังเกต เป็นเงื่อนไขทักท้วงไปตั้งแต่ปี 2558 และ 2560

แต่ประเด็นวันนี้ไม่ใช่เรื่องความแข็งแรงมั่นคง ความปลอดภัย แต่เป็นประเด็นการตีความใช้ที่ดินทางเข้า-ออก ตามที่ศาลพิพากษา

อ่านข่าว มูลนิธิผู้บริโภคชี้ลูกบ้าน "แอชตัน อโศก" มีสิทธิยกเลิกสัญญา-ขอคืนเงิน 

ด้านนายชัชชาติ กล่าวว่า ได้ขอให้สำนักการโยธา เร่งออกหนังสือแจ้งถึงเจ้าของโครงการภายในวันพรุ่งนี้ (4 ส.ค.66) พร้อมย้ำว่า เรื่องนี้ไม่มีการเอื้อประโยชน์ใด ๆ ให้เอกชน แต่เป็นการดำเนินการตามคำพิพากษา รวมถึงลูกบ้านไม่ต้องกังวล เพราะไม่มีแนวคิดขณะนี้ว่าต้องทุบอาคารทิ้ง

เรามีเงื่อนไขเขียนชัดเจนไปแล้วก่อนหน้านี้ ให้เอกชนรับทราบในเรื่องนี้ ส่วนภาพรวม คอนโดมิเนียม ใน กทม.มีมากกว่า 1,000 แห่ง ส่วนใหญ่ไม่มีปัญหา และเรื่องนี้ ยืนยันว่า เราไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ใคร เราต้องดูแลทุกคนเท่าเทียมกัน และเราต้องทำตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด เราต้องทำให้ยุติธรรมที่สุดในกรอบกฎหมายที่ให้ไว้ ซึ่งกฎหมายให้แก้ไขได้ ตาม ม.41 ไม่ใช่ผิดปั๊บให้ทุบทิ้ง เราทำตามกฎหมาย ไม่ได้ทำตามความรู้สึก

ส่วนประเด็นที่นายศรีสุวรรณ จรรยา จะมายื่นหนังสือวันพรุ่งนี้นั้น นายชัชชาติ ระบุว่า เป็นเรื่องที่มาสื่อสารกันได้

อ่านข่าว ศรีสุวรรณ ร้อง "ชัชชาติ" เอาผิดเจ้าหน้าที่อนุมัติ "คอนโดฯแอชตัน" 

ส่วนประเด็นข้อสังเกตว่า ทางออกคอนโดฯ ด้านหลัง ทาง ถ.สุขุมวิท 19 ที่มีขนาดไม่ถึง 18 ม. นั้น ล่าสุดนายสุรัช ติระกุล ผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมอาคาร สำนักการโยธา ระบุว่า ต้องไปรังวัดใหม่เพื่อความชัดเจนแต่ที่ผ่านมา เคยมีเอกสารระวางที่ดินขนาดความกว้างถนน 20.5 ม. ซึ่ง กทม.จะไปวัดขนาดถนนในปัจจุบันอีกครั้ง

สรุปคำพิพากษาของศาลปกครอง

อ่านข่าว ศาลปกครองสูงสุด เพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างคอนโดหรู "แอชตัน อโศก" 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการแถลงของผู้บริหาร กทม.ที่ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการ เช้าชิงช้าวันนี้ ได้มีลูกบ้านโครงการคอนโด แอชตัน อโศก ได้เดินมาร่วมรับฟังการแถลงด้วย หลังเสร็จสิ้นการแถลงได้ส่งตัวแทน- โดยนายชัชชาติ ระบุว่า จะดูแลทุกฝ่าย ไม่ต้องกังวล

ลูกบ้านคอนโดแอชตัน อโศก เข้ายื่นหนังสือกับผู้ว่าฯ กทม. เพื่อขอให้ช่วยเหลือ

จากนั้น ตัวแทนลูกบ้าน ได้ตอบคำถามสื่อฯ ยืนยันว่า ที่ผ่านมา เจ้าของโครงการหรือนิติบุคคล ไม่เคยชี้แจง ทำให้ไม่เคยทราบว่า จะมีปัญหาเกี่ยวกับทางเข้า - ออก จนกระทั่งมีคำพิพากษาของศาลปกครองกลางและศาลปกครองสูงสุด ซึ่งช่วงหนึ่งตัวแทนได้กล่าวท่ามกลางน้ำตานองหน้า ถึงความกังวลใจ ที่เกิดขึ้นต่อสถานการณ์ของโครงการนี้ 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 

ศาลปกครองสูงสุด เพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างคอนโดหรู "แอชตัน อโศก"  

มูลนิธิผู้บริโภคชี้ลูกบ้าน "แอชตัน อโศก" มีสิทธิยกเลิกสัญญา-ขอคืนเงิน  

กทม.เปิดแนวทาง "แอชตัน อโศก" ไม่ต้องรื้อถอน-ขอใบแจ้งก่อสร้างใหม่ได้