วันนี้ (18 ส.ค.2566) นายพงษ์เทพ อายุ 23 ปี คนขับรถกระบะ และญาติ พร้อมนายรัชพล ศิริสาคร ที่ปรึกษาทางด้านกฎหมาย เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง เพื่อให้ปากคำเกี่ยวกับอุบัติเหตุขับชนท้ายรถโรลส์-รอยซ์ เมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา บนทางหลวงมอเตอร์เวย์หมายเลข 7 โดยตำรวจได้พาเจ้าของรถกระบะไปชี้จุดความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถโรลส์-รอยซ์ เพื่อมาประกอบสำนวน
ขณะเดียวกันทนายความของเจ้าของรถโรลส์- รอยซ์ เดินทางมาพร้อมกับตัวเเทนจากบริษัทประกันภัยรถยนต์ เพื่อเข้าพบพนักงานสอบสวนและคนขับรถกระบะ เพื่อเจรจาในเรื่องของการชดใช้ค่าเสียหาย
เจ้าของกระบะ พร้อมที่ปรึกษากฎหมาย เข้าให้ปากคำคดีชนท้ายรถหรู
การสอบสวนใช้เวลานานเกือบ 2 ชั่วโมง นายพงษ์เทพ คนขับรถกระบะออกมาจากห้องสอบสวนทันที โดยเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า รู้สึกเครียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากหลักฐานที่มีในขณะนี้ ตัวเองจึงยอมรับผิด ส่วนเรื่องการชดใช้ค่าเสียหายต้องไกล่เกลี่ยกับทางคู่กรณีอีกครั้งว่าจะสามารถช่วยเหลือได้บ้างหรือไม่ และฝากถึงประชาชนที่ขับรถตามหลังในขณะช่วงเกิดเหตุ หากมีกล้องหน้ารถที่บันทึกภาพไว้ได้ขอให้นำมามอบให้กับตำรวจ หรือตนเอง เพื่อพิสูจน์หาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม
น.ส.ชนิดา น้าสาวของนายพงษ์เทพ เป็นตัวแทนกล่าวขอโทษและยอมรับผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในวันนี้มาเสียค่าปรับ 1,000 บาท ในฐานความผิดข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย ซึ่งฝ่ายบริษัทประกันภัยของผู้เสียหายจะแจ้งว่าต้องชดใช้เท่าใด แต่ต้องรอการประเมินราคาอีก 2-3 วัน เบื้องต้นจะขายซากรถกระบะเพื่อออาเงินไปชดใช้ และเจรจาว่าจะสามารถผ่อนจ่ายรายเดือนเท่าใด
เจ้าของกระบะชี้จุดเสียหายรถคู่กรณี
ทั้งนี้ นายพงษ์เทพมีทรัพย์สินเป็นรถกระบะดังเพียงรถคันเดียว ไม่ได้มีทรัพย์สินอื่นแต่อย่างใด
ด้านนายอนิรุจน์ คงทรัพย์ ทนายความเจ้าของรถโรลส์-รอยซ์ เปิดเผยว่า จากการประเมินราคาค่าซ่อมเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 2,000,000 บาท แต่ยังไม่สามารถบอกตัวเลขที่แน่ชัดได้ เพราะอยู่ระหว่างการประเมินของบริษัทประกัน ส่วนเรื่องของการช่วยเหลือค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ทางสาวชาวจีนที่เป็นเจ้าของรถขอทราบตัวเลขค่าเสียหายจากบริษัทประกันก่อนว่าจะช่วยเหลือได้เท่าใด
ทนายความเจ้าของรถโรลส์-รอยซ์ ประเมินค่าเสียหายเบื้องต้น 2 ล้านบาท
ส่วนประเด็นมีข้อสงสัยว่า ฝ่ายเจ้าของรถโรลส์ รอยส์ เป็นทุนจีนสีเทาหรือไม่ นายอนิรุจน์ ชี้แจงว่า ตัวเธอเองและสามีเคยมาเที่ยวประเทศไทยแล้วเกิดหลงรัก จึงตัดสินใจย้ายมาอยู่และทำธุรกิจที่ประเทศไทยทั้งครอบครัวมานานถึง 7 ปีแล้ว มีธุรกิจร้านอาหารหลายสาขาในประเทศไทย ส่วนสามีทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ประเทศจีน จึงมีฐานะร่ำรวยอยู่ก่อนแล้ว ยืนยันว่ามีรายได้จากอาชีพสุจริต ไม่ได้เป็นทุนจีนสีเทา
ส่วนภาพจากกล้องบนมอเตอร์เวย์ ตำรวจระบุว่า มุมกล้องที่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุที่สุด ไม่สามารถจับภาพขณะเกิดเหตุได้ เนื่องจากเป็นมุมอับ ส่วนมุมกล้องอื่น ๆ ก็เป็นภาพระยะไกลที่เห็นลักษณะการเกิดเหตุไม่ชัดเจน แต่จากภาพรวมของสภาพการจราจรในขณะนั้น พบว่า มีการจราจรที่เคลื่อนตัวค่อนข้างช้า เนื่องจากเป็นช่วงขึ้นสะพานข้ามคลอง และรถหลายคันขับตามกันมา หากรถคันหน้าเบรกหรือชะลอก็อาจทำให้เบรกไม่ทันได้ ซึ่งทางคนขับรถกระบะ ได้ให้การกับตำรวจว่า พยายามจะเบรกแล้ว แต่ไม่ทัน จึงได้พยายามหักหลบออกทางซ้าย แต่ก็ไม่พ้น
นายรัชพล ศิริสาคร ที่ปรึกษาทางด้านกฎหมาย ฝากเตือนถึงกลุ่มคนที่ขับรถกระบะแต่งซิ่งให้ระวังในการขับขี่ เพราะหากเกิดอุบัติเหตุแล้วอาจต้องชดใช้ค่าเสียหายเอง ถึงแม้จะมีประกันคุ้มครองอยู่ก็ตาม เพราะทางบริษัทประกันอาจยกเหตุผลเรื่องสภาพของรถยนต์ที่ถูกดัดแปลงไม่เป็นไปตามที่จดแจ้ง มาใช้เพื่อไม่รับประกันความเสียหายได้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง