หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ตามกำหนดการ จะทราบชื่อของ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร) อย่างเป็นทางการ คนที่ 14 ในวันพรุ่งนี้ (25 ส.ค.) และหากไม่พลิกโผ “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล จะมีรหัสเรียกขาน “พิทักษ์1” ผงาดเป็นเบอร์ 1 ของกรมปทุมวัน ในตำแหน่ง ผบ.ตร.คนที่ 14
พลิกประวัติ หนุ่มเมืองเพชรบุรี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เกิดเมื่อปี 2507 จบชั้นมัธยมศึกษาโรงเรียนโยธินบูรณะ ปริญญาตรีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หรือเป็น “สิงห์แดง” รุ่น 38 และจบปริญญาโท ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยศรีปทุม
ก่อนจะก้าวข้ามาสวมเครื่องแบบสีกากี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เคยเป็นพนักงานบริษัทน้ำมันมาก่อนที่จะเปลี่ยนเส้นทางชีวิต ตามความฝันในวัยเยาว์ โดยเข้าหลักสูตรการฝึกอบรมผู้มีวุฒิ ทางด้านนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์รัฐประศาสนศาสตร์ เพื่อบรรจุแต่งตั้งเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร หรือ กอต. รุ่นที่ 4
เส้นทางสีกากีเด่น ไม่แพ้ชาวรั้วสามพราน
เส้นทางสีกากี เริ่มต้นขึ้นในปี 2540 ตำแหน่ง รองสารวัตร แผนก 3 กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม
จากนั้นก็เติบโต ก้าวหน้าในหน้าที่มาอย่างต่อเนื่องและเป็นผู้บังคับการคนแรก ของกองบังคับการถวายความปลอดภัยและปฏิบัติการพิเศษ
เป็นรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และขยับขึ้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตามลำดับ โดยรับผิดชอบงานปราบปราม
โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มอบหมายให้ดูแล ศูนย์อาชญากรรมพิเศษ หลายส่วน ให้เป็นหัวหน้าศูนย์ปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา (ศปลป.ตร.), ศูนย์บริหารงานป้องกันปราบปราม (ศปป.ตร.), ศูนย์ปราบปรามการลักลอบตัดไม้ ทำลายป่า ทรัพยากรธรรมชาติ (ศปทส.ตร.), ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ (ศปจร.ตร.), ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทาง (ศปข.ตร.)
สมยานาม “โรโบคอปสายบุญ”
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เป็นหนึ่งในผู้ที่ปกครองผู้ใต้บังคับบัญชา โดยมุ่งเน้นพัฒนาศักยภาพหน่วยและใส่ใจสวัสดิการชีวิตของผู้ใต้บังคับบัญชา ในสมัยที่นั่ง ผู้กำกับการ “คอมมานโด” เรียกว่า พลิกฟื้นบทบาท ภาพลักษณ์ และศักยภาพหน่วยได้อย่างยอดเยี่ยม
ทั้งยังให้ความสำคัญจัดฝึกอบรมหลักสูตรต่าง ๆ เพื่อให้ความรู้และพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถให้ตำรวจสายปราบปราม–หน่วยปฎิบัติการพิเศษ ในการเข้าระงับเหตุการณ์ต่าง ๆ อาทิ หลักสูตร “แอคทีฟ ชูตเตอร์” , โครงการฝึกอบรมพัฒนาศักยภาพการใช้อาวุธปืน สำหรับข้าราชการตำรวจ ทำหน้าที่ครูฝึกต้นแบบ (Training For Trainer)
นอกจากนี้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ยังมุ่งเน้นการทำบุญ บริจาคและกิจกรรมสร้างขวัญ กำลังใจให้ผู้ใต้บังคับบัญชาอยู่เสมอ จนเกิดการเรียกขานกันว่า “โรโบคอปสายบุญ” บ้างก็เรียก “มือปราบสายธรรมะ”
ในสายตาสื่อมวลชน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เป็นผู้ที่มีบุคลิก
“สุขุม สุภาพ แต่หนักแน่น สังเกตได้จากการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน มักตอบด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล แต่เต็มไปด้วยมวลความหนักแน่น ชัดเจนและเด็ดขาด”
เป็นที่น่าจับตาว่า เมื่อตำแหน่ง “พิทักษ์1” มาถึงมือ รองฯ ต่อ จะปกครองสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไปในทิศทางใด ในช่วงเวลา 1 ปี ตามที่เหลือของอายุเกษียณราชการ
ประชุม ก.ตร. 25 ส.ค.นี้ มีวาระแต่งตั้ง ผบ.ตร.
ในวันศุกร์ที่ 25 ส.ค.2566 เวลา 09.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) จะเดินทางมาเป็นประธานฯ ประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 9/2566
โดยมีวาระการประชุม 4 วาระ ซึ่งในวาระที่ 3 เป็นเรื่อง เสนอเพื่อพิจารณา ประกอบด้วย 3 เรื่อง คือ
เรื่องที่ 1 การขยายระยะเวลาการพิจารณาอุทธรณ์
เรื่องที่ 2 หลักเกณฑ์และวิธีเลือกตำแหน่งเพื่อบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตรที่มิใช่ตำแหน่งประเภทวิชาชีพเฉพาะให้ดำรงตำแหน่งและปฎิบัติหน้าที่ในส่วนราชการ
และเรื่องที่ 3 การคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ
ประกอบด้วย เรื่องที่ 3.1 การคัดเลือกตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งขาติ (ผบ.ตร.) คนที่ 14
เรื่องที่ 3.2 การคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่ง รอง ผบ.ตร.และ จตช.ลงมาถึง ผบก. และวาระที่ 4 เรื่องอื่น ๆ
ตามวาระนี้ จะเท่ากับว่าจะทราบชื่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนที่ 14 อย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้
เว้นแต่นายกรัฐมนตรีจะเห็นว่า วาระใดยังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนก็สามารถเลื่อนออกไปเป็นวาระการประชุม ก.ตร. ในครั้งถัดไปได้ เพราะยังอยู่ในกรอบเวลาที่กำหนด อีกทั้งยังเป็นช่วงรอยต่อของรัฐบาล
รายงานพิเศษ : กิตติพร บุญอุ้ม ผู้สื่อข่าวอาชญากรรม
อ่านข่าวอื่น ๆ