ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

วงจรปิดมัด! ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมอู่ทอง ต่อหน้าภรรยาป่วยติดเตียง

อาชญากรรม
30 ส.ค. 66
17:25
443
Logo Thai PBS
วงจรปิดมัด! ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมอู่ทอง ต่อหน้าภรรยาป่วยติดเตียง
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ภาพวงจรปิด หลักฐานมัดคดีฆาตกรรมชาย วัย 73 ปีเสียชีวิตต่อหน้าภรรยา ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง หลังจากเข้ามาลักทรัพย์ พบประวัติโชกโชน ติดยาเสพติด และเคยก่อเหตุที่ร้านค้าแห่งนี้ 3 ครั้ง

วันนี้ (30 ส.ค.2566) ทีมข่าวไทยพีบีเอส ลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุฆาตกรรมชายอายุ 73 ปี เสียชีวิต ก่อนที่จะลักทรัพย์รถยนต์กระบะ และรถจักร ยานยนต์ 2 คันไป ในขณะที่ภายในบ้านยังมีภรรยาอายุ 70 ปี ที่นอนป่วยติดเตียงอยู่ด้วย แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งตำรวจจับกุม นายเกรียงไกร วงค์บุตร ผู้ต้องหามาดำเนินคดีได้แล้ว  

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด จะเห็นผู้ก่อเหตุปีนขึ้นมาจากหลังบ้าน โดยผ่านจุดที่เจ้าของบ้านเลี้ยงไก่ชนเอาไว้ และถือไม้ พร้อมกับเดินหาสิ่งของที่อยู่ด้านหลังบ้าน ก่อนที่จะถอดบานเกล็ดหน้าต่างเข้าไปภายในบ้าน และก่อเหตุใดเวลาประมาณ 02.00 น.ของวันที่ 28 ส.ค.นี้ จากนั้นพบว่ามีการถอดปลั๊กกล้องวงจรปิด ทำให้กล้องไม่สามารถบันทึกภาพขณะที่รถถูกขับออกไปได้

วงจรปิดหลักฐานมัดตัวผู้ก่อเหตุฆาตกรรมชายวัย 73 ปีเสียชีวิต

วงจรปิดหลักฐานมัดตัวผู้ก่อเหตุฆาตกรรมชายวัย 73 ปีเสียชีวิต

วงจรปิดหลักฐานมัดตัวผู้ก่อเหตุฆาตกรรมชายวัย 73 ปีเสียชีวิต

ทีมข่าวได้ตรวจสอบบริเวณด้านหลังบ้านของผู้เสียชีวิต พบเป็นที่ดินโล่ง และหลังบ้านมีต้นไม้ใหญ่ 3 ต้น ปลูกอยู่ติดกับกำแพงบ้าน ที่มีการล้อมรั้วลวดหนามไว้ด้านบน บางช่วงเป็นสังกะสีสลับกับอิฐบล๊อก ซึ่งคาดว่าบริเวณด้านหลังบ้านเป็นจุดที่ผู้ต้องหาปีนเข้าไปในบ้าน

ขณะที่บริเวณหน้าบ้านของผู้เสียชีวิต ขณะนี้ตำรวจได้ปิดกั้นเป็นพื้นที่ห้ามเข้า เพื่อไว้รอตรวจสอบพยานหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งบ้านหลังนี้ได้เปิดเป็นร้านขายของชำในหมู่บ้าน และตอนเช้าก็จะขับรถกระบะไปขายที่หน้าโรงเรียนในละแวกนี้

เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ บอกว่า ผู้เสียชีวิตเป็นคนอัธยาศัยดี วันที่เกิดเหตุก็ไม่พบสิ่งผิดปกติหน้าบ้าน และเห็นว่ารถกระบะไม่อยู่ ก็นึกว่าพาภรรยาที่ป่วยไปหาหมอที่โรงพยาบาล จึงไม่คิดว่าเกิดเหตุภายในบ้าน แต่มารู้ข่าวอีกทีคือช่วงสายวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา ในช่วงที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบภายในบ้าน

สภาพหลังบ้านเป็นป่ารก ทำให้ผู้กอเหตุอาศัยความมืดปืนขึ้นรั้ว

สภาพหลังบ้านเป็นป่ารก ทำให้ผู้กอเหตุอาศัยความมืดปืนขึ้นรั้ว

สภาพหลังบ้านเป็นป่ารก ทำให้ผู้กอเหตุอาศัยความมืดปืนขึ้นรั้ว

ขณะที่เพื่อนบ้านอีกคน บอกว่าเคยเห็นผู้ก่อเหตุตั้งแต่เกิด จนถึงอายุประมาณ 7-8 ขวบ จากนั้นก็ไม่ได้เจอกันมากว่า 10 ปี จนกระทั่งทราบว่าถูกจับดำเนินคดีเกี่ยวกับยาเสพติด และมาพบเจออีกครั้งในช่วงนี้ที่อายุ 35 ปีแล้ว และเคยก่อเหตุที่บ้านหลังนี้มาแล้วครั้ง หนึ่งเมื่อวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยขโมยกุญแจบ้านหลังนี้ไปด้วย ก่อนที่จะมาก่อเหตุอีกครั้ง

ส่วนหลังเกิดเหตุ ก็รู้สึกตกใจ หวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเชื่อว่ามีผู้ก่อเหตุมากกว่า 1 คน เพราะไม่สามารถยกรถจักรยานยนต์ขึ้นบนรถกระบะได้

สำหรับบ้านหลังที่เกิดเหตุนี้ ผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่กับภรรยาที่ป่วยติดเตียงอายุ 70 ปี อยู่คนละบ้านกับลูกชาย ซึ่งนายชาตรี กล้าหาญ ลูกชาย เล่าว่า พี่สาวได้โทรศัพท์ไปหาพ่อ ในช่วงเช้าวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา แต่ไม่รับสาย

ก่อเหตุมาแล้ว 3 ครั้ง-ตร.ตามรถกระบะคืน

กระทั่งเข้าไปหาในช่วงเช้าวันที่ 29 ส.ค.จนทราบว่าพ่อถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต มีบาดแผลบนใบหน้าหลายแห่ง ส่วนภรรยาของพ่อ ไม่สามารถสื่อสารได้ นอนอยู่บนเตียง ซึ่งบ้านหลังนี้ ถูกปีนเข้ามาก่อเหตุแล้วรวม 3 ครั้ง จึงมีการติดกล้องวงจรปิด และบันทึกภาพที่เกิดเหตุวันที่ 12 ส.ค.นี้ มีการแจ้งความไว้แล้ว และตำรวจกำลังติดตามตัว กระทั่งเกิดเหตุความสูญเสียขึ้นอีกครั้ง

ตำรวจสามารถยึดรถกระบะได้คืนแล้ว หลังผู้ก่อเหตุนำไปประกาศขาย

ตำรวจสามารถยึดรถกระบะได้คืนแล้ว หลังผู้ก่อเหตุนำไปประกาศขาย

ตำรวจสามารถยึดรถกระบะได้คืนแล้ว หลังผู้ก่อเหตุนำไปประกาศขาย

ศพของผู้เสียชีวิตญาติ ได้นำมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านของลูกชาย โดยจะสวดพระอภิธรรม ก่อนที่จะทำพิธีฌาปนกิจศพวันที่ 3 ก.ย.นี้ ที่วัดหนองตาสาม อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี

ส่วนทรัพย์สินที่ถูกลักทรัพย์ไป ตำรวจได้ติดตามรถกระบะ โดยการล่อซื้อจากผู้ต้องหา เนื่องจากผู้ต้องหาประกาศขายอยู่ และติดตามรถจักรยานยนต์มาได้แล้ว 1 จาก 2 คัน 

พ.ต.อ.ปราโมทย์ โพธิ์พันธ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอู่ทอง กล่าวว่า หลังตามจับผู้ต้องหา รับว่าก่อเหตุเพียงคนเดียว และเมื่อตรวจสอบประวัติพบเพิ่งพ้นโทษมาได้ 4-5 เดือน จากคดียาเสพติด มีที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง มีอาชีพเก็บขยะขาย และวันนี้ตำรวจก็ต้องตัดสินใจยกเลิกการชี้จุดทำแผนเกรงจะเกิดความวุ่นวาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง