นักท่องเที่ยวจีนลดลงจริงหรือไม่ วันนี้ (2 ก.ย.2566) ทีมข่าวไทยพีบีเอส ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณพระบรมมหาราชวัง สนามหลวง และ วัดพระแก้ว พบว่ายังคงได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่มาท่องเที่ยวเป็นกรุ๊ปทัวร์ บรรยากาศดูเหมือนจะกลับมาคึกคักหลังโควิด แต่ปัจจุบันนักท่องเที่ยวซบเซาลง และไม่เป็นไปตามคาด พูดคุยกับไกด์นำเที่ยว ให้ข้อมูลว่า ส่วนหนึ่งเป็นช่วงที่โรงเรียนเปิดเทอมและอยู่ในช่วงโลว์ซีซั่น
ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่าตั้งแต่เดือน ม.ค.-ส.ค. มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยไม่ถึง 2,000,000 คน จากเป้า 5,000,000-7,000,000 คน ในปี 2566 หนึ่งในมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวคือมาตรการยกเลิกวีซาท่องเที่ยว
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ที่ผ่านมาได้หารือกับหน่วยงานความมั่นคงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อผลักดันมาตรการยกเลิกวีซานักท่องเที่ยวจีน กระตุ้นตลาดท่องเที่ยวไตรมาสสุดท้าย ยืนยันว่า เป็นการยกเลิกวีซา และ ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมวีซา แต่เป็นเพียงชั่วคราว คาดว่าจะเริ่มได้ 1 ต.ค.นี้
เปิดสาเหตุนักท่องเที่ยวจีนไม่เป็นไปตามเป้า
มีข้อมูลที่น่าสนใจจากบริษัทนำเที่ยว ว่าส่วนหนึ่งที่นักท่องเที่ยวจีนลดลงไม่เป็นไปตามเป้าเกิดจาก สภาวะเศรษฐกิจจีนไม่ดี เติบโตไม่ได้ตามเป้า ชาวจีนจึงรอบคอบในการใช้เงิน อีกทั้งมีข่าวเกี่ยวกับความไม่ปลอดภัยของชาวจีนบางกลุ่ม ที่ถูกตกเป็นเป้าก่อเหตุอาชญกรรมในไทย โดยกลุ่มชาวจีนสีเทา ทั้งการเรียกค่าไถ่ และทำร้ายร่างกาย และมีการเผยแพร่เฟคนิวส์ในจีน จึงทำให้ชาวจีนเกิดความกังวล และจีนยังเปิดเส้นทางท่องเที่ยวภายในประเทศที่ราคาต่ำกว่าไทย จึงเป็นสาเหตุที่ชาวจีนจำนวนไม่น้อยเลือกเดินทางไปประเทศอื่น และท่องเที่ยวในประเทศ
และถึงแม้ว่ายกเลิกวีซา จะทำให้เข้าไทยไม่ยุ่งยาก แต่ในทางกลับกันก็เป็นการเปิดช่องให้ชาวจีนบางกลุ่มเข้ามาใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการก่ออาชญกรรมข้ามชาติ ซึ่งรัฐบาลจะต้องหามาตรการป้องกัน คัดกรองที่เข้มงวดควบคู่ไปด้วย
อ่านข่าวเพิ่ม :
โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง คณะรัฐมนตรี "เศรษฐา" นายกฯ ควบ "รมว.คลัง"