วันนี้ (11 ก.ย.2566) เมื่อเวลา 17.38 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงหลังจากผ่านมาเกือบ 8 ชั่วโมง ในการแถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก ว่า ขอขอบคุณทุกความเห็นที่ สส.และสว.ที่ให้คำแนะนำมอบให้กับรัฐบาลในวันนี้ ซึ่งการดำเนินนโยบายจะยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง และประชาชนของรัฐบาลนี้ครอบคลุมทุกกลุ่ม ทั้งคนเมือง คนต่างจังหวัดทุกฐานะอย่างเท่าเทียม
ยืนยันในการปรับแก้รัฐธรรมนูญ จะไม่แก้หมวด 1 และหมวด 2 ว่าด้วยพระมหากษัตริย์
ส่วนการพักหนี้ของเกษตรกรทำมาแล้ว 13 ครั้ง ยอมรับว่าการพักหนี้ไม่ใช่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และจะทำให้รายได้เกษตรกรเพิ่มขึ้น 3 เท่าภายใน 3 ปีควบคู่กับการพักหนี้ให้เกษตรกรลืมตาอ้าปากได้ ยืนยันว่าการพักหนี้หนนี้จะทำประโยชชน์มากกว่าการพักหนี้ในอดีต 9 ปีก่อน
อ่านข่าว "สว.กิตติศักดิ์" ยังติดใจงบฯนโยบายเงินดิจิทัล ถามทำไมไม่แจกเงินสด
คงพื้นที่รัศมี 4 กม.ดิจิทัลวอลเล็ต
นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า ส่วนเงินดิจิทัลวอลเล็ตเรื่องเงื่อนไขการใช้เงินในรัศมี 4 กม.นั้น ตระหนักดีกว่าในชนบทอาจมีร้านค้าไม่เพียงพอ รัฐบาลจะนำไปปรับความเหมาะสม ซึ่งกำหนดระยะเวลาการใช้ 6 เดือนเพื่อต้องการกระตุ้นศรษฐกิจระยะสั้น จึงให้ความสำคัญ
ส่วนที่บางคนบอกว่าอยากให้ยกเลิกการใช้รัศมี 4 กม.นั้นยังเชื่อว่าเศรษฐกิจภูมิภาค ดังนั้นที่มีถิ่นฐานที่ไหนควรกลับไปใช้ตามบัตรประชาชนได้ทัน ดังนั้นเรื่อง 4 กม.ตามบัตรประชาชนขอคงไว้ ยกเว้นบางพื้นที่
ส่วนนโยบายเรื่องการท่องเที่ยว นายเศรษฐา กล่าวว่า ได้ยกเว้นการขอวีซ่าของบางประเทศ เนื่องจากการท่องเที่ยวจะกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นตั้งเป้ารายได้เข้าประเทศ 3 ล้านล้านบาทต่อปี
ขณะที่การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจะทำให้เศรษฐกิจโตเฉลี่ยปีละ 5% ตลอด 4ปีค่าแรงขึ้นได้ 600 บาทวัน และปริญญา 25,000 บาท
นอกจากนี้ยังยืนยันที่จะแก้ไขปัญหาปากท้องด้วยการค่าลดค่าครองชีพจากเรื่องพลังงาน รัฐบาลเชื่อว่าจะช่วยลดได้ รวมทั้งยังคงเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ยังคงไว้เช่นเดิม
ส่วนเรื่องปัญหาทุจริต รัฐบาลให้ความสำคัฐโปร่งใสจะใช้ระบบดิจิทัลมาใช้ให้มากขึ้น โดยจะให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องมาอธิบายถึงรายละเอียดในแต่ละเรื่อง
อ่านข่าว "ศิริกัญญา" อัดนโยบาย "เศรษฐา" ไม่ตรงปก เทียบ GPS หลงทาง
ยันไม่แตะเงินกองทุนวายุภักดิ์
ขณะที่นายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ยืนยันว่านโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ใช่นโยบายเพื่อให้ได้มา ซึ่งคะแนนเสียงเลือกตั้ง แต่มองว่าภาวะเศรษฐกิจต้องมี นโยบายกระตุ้น หลักคิดสำคัญ กระตุ้นไปยังชุมชนทั่วภูมิภาคอย่างทั่วถึง ด้วยกลไกบล็อกเชน เพื่อกำหนดกรอบใช้จ่ายเงินที่ในกระเป๋าดิจิทัลได้
ส่วนแหล่งที่มาของงบ ได้พูดคุยหลากหลาย ขอให้ระวังในการอภิปรายและเสนอความเห็น อย่าชี้นำเพราะกระบวนการที่อภิปรายในสภาฯ อาจกระทบความเชื่อมั่น ความเชื่อถือกรอบวินัยการเงินการคลัง
รัฐบาลยึดมั่นกรอบวินัย จะไม่แตะงบในส่วนของกองทุนวายุภักดิ์ บำเหน็จบำนาญ ข้าราชการ กองทุนสำรองระหว่างประเทศ หรือกองทุนประกันตนไม่แม้แต่จะคิด
นายจุลพันธ์ กล่าวอีกว่า กระบวนการนั้นขอเวลาตรวจรายละเอียดและเดินหน้าโครงการ ซึ่งจะมีความชัดเจนทั้งงบประมาณ กรอบงบประมาณและการใช้คืนงบประมาณ ไม่กระทบหนี้สาธารณะ ไม่กู้เพิ่มแน่นอน
นอกจากนี้ไม่เลือกปฏิบัติว่าทุนใหญ่หรือร้านสะดวกซื้อเข้าร่วมไม่ได้ เป็นสิทธิของประชาชนในการเลือกกิจกรรม แต่รัฐมีนโยบายเพื่อจูงใจให้การใช้เกิดประโยชน์
อ่านข่าว