ยิง “สารวัตรทางหลวง” สะท้านทั้งตำรวจและรัฐบาลใหม่

อาชญากรรม
12 ก.ย. 66
10:23
324
Logo Thai PBS
ยิง “สารวัตรทางหลวง” สะท้านทั้งตำรวจและรัฐบาลใหม่
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ถูกแย่งซีนไปไม่น้อย สำหรับการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน เพราะไปตรงกับช่วงเวลาข่าวคราวความคืบหน้า กรณีลูกน้อง “กำนันนก” คนดัง นายประวีณ จันทร์คล้าย ยิงสารวัตรตำรวจทางหลวงเสียชีวิตคางานเลี้ยง

เพราะอยู่ในความสนใจของผู้คนมาตั้งแต่ต้น และยิ่งสืบยิ่งสาว ยิ่งฉาวโฉ่จนชื่อเสียงของตำรวจป่นปี้แทบไม่มีชิ้นดี

ตั้งแต่มีตำรวจไปร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์รายเดือนถึง 25 คน แต่กลับไม่มีปฏิกิริยาหรือแสดงศักยภาพใด ๆ ในการจะช่วยเหลือสารวัตรตำรวจทางหลวง หรือแม้แต่จะช่วยกันปิดล้อมทางหนีของมือปืน โดยอ้างไม่ได้นำอาวุธปืนเข้าไปในงานด้วย ทั้ง ๆ ที่ตำรวจไม่น่าจะถูกสอนให้ใช้ปืนเป็นอย่างเดียว

หลังเกิดเหตุ มีคำถามตามมาว่า เผ่นไปไหนกันหมด จึงเปิดทางให้หลักฐานในที่เกิดเหตุ ไม่ว่าจะเป็นคราบเลือดถูกชำระล้าง จัดฉากจัดโต๊ะงานเลี้ยงใหม่ เซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดถูกโยนทิ้งน้ำ ปืนตำรวจซึ่งยังไม่แน่ว่า เป็นปืนที่ซื้อต่อจากตำรวจ หรืออาศัยชื่อตำรวจซื้อ ถูกนำไปฝังดินหวังทำลาย ทั้งยังทำหน้าที่คุ้มกันเมื่อกำนันหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ

ทั้งที่ตำรวจควรเอาเวลาไปดูแลทุกข์สุขของประชาชนมากกว่า แม้จะอ้างว่าเป็นเวลานอกราชการ หรือจะแวะไปอวยพรวันเกิดประเดี๋ยวเดียว แต่ก็ฟังไม่ขึ้นอยู่ดี ยังไม่นับเรื่องตำรวจทางหลวง ปกติควรต้องเว้นระยะห่าง จากผู้ประกอบการรถบรรทุก เพราะต้องเข้มงวดกวดขัน จึงสุ่มเสี่ยงจะถูกมองว่าคอยช่วยเหลือเกี้ยเซี๊ยะกัน

ยังไม่รวมเรื่องส่วยสติ๊กเกอร์ ที่เกิดขึ้นซ้ำซาก และนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร แกนนำพรรคก้าวไกล เพิ่งจะออกแฉแบบไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมไปหมาดๆ หลังเลือกตั้ง 14 พฤษภาคมที่ผ่านมานี้เอง เท่ากับสะท้อน ไม่สนใจ ไม่ยี่หระ

ยิ่งหากไปดูคลิปอวยพรวันเกิด ที่นำโดยคนในชุดหัวเกรียนคล้ายตำรวจแบบพิเศษจัดเต็ม แถมเพลงแรพเข้ากับยุคสมัยอีกต่างหาก ยิ่งสะท้อนภาพความใกล้ชิดที่ใคร ๆ ต่างตั้งข้อสงสัยว่าเหมาะควรหรือไม่

ถือเป็นสิ่งท้าทายครั้งใหญ่อีกครั้งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.ที่ช่วงหลัง ๆ มีคดีที่ต้องรับผิดชอบมากมาย ครั้งนี้สั่งสอบทั้งวินัยและอาญากราวรูด หลายคนโดนหมายจับ คดีความถูกโยกมาที่ส่วนกลาง ตอนนี้อ้างพยานหลักฐานแน่นหนา มัดตัวกำนันคนดังได้แน่ แต่ต้องรอลุ้นดูในทางปฏิบัติจริง เพราะมือปืนถูกวิสามัญฆาตกรรมไปแล้ว

ที่จริงคดีนี้ ไม่ควรจะจบแค่กำนันนก ควรต้องขยายผลเพิ่มเติมว่ามีคนที่ใหญ่กว่า และมีส่วนช่วยเหลือสนับสนุนหรือไม่ เพราะลำพังกำนันนกคนเดียว แม้จะมีพ่อเป็นผู้กรุยทางให้ แต่ไม่น่าจะสร้างอาณาจักรและธุรกิจได้ใหญ่โตมโหฬารขนาดนี้

มีธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและรถบรรทุก 2 บริษัท 5 ปี ทำรายได้มากถึง 2.6 พันล้านบาท เทียบกับเงินเดือนกำนัน 12,000 บาท บวกเงินพิเศษเดือนละ 2 พันบาท และโดยมั่วไป กำนันผู้ใหญ่บ้านหรือผู้มีอิทธิพล มักเชื่อมโยงเกี่ยวข้องและเป็นหัวคะแนนให้กับนักการเมือง

เรื่องนี้ ยังลามปามกระทบไปถึงรัฐบาลใหม่ของนายเศรษฐา ที่กำลังนำครม.แถลงนโนบายใหญ่ต่อรัฐสภา อีกทั้งนายเศรษฐา ยังจะเป็นประธานก.ตร.หรือประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจโดยตำแหน่ง เว้นแต่จะหมายหมายให้รัฐมนตรีคนอื่น

พอเจอเรื่องใหญ่ ขยายผลเจองานงอกอีกต่างหาก ปฏิเสธไม่ได้ว่า มีผลต่อศรัทธาและความเชื่อมั่นต่อตำรวจแน่นอน

แม้รัฐมนตรีมหาดไทยป้ายแดง นายอนุทิน ชาญวีรกูล จะเทคแอคชั่น มอบหมายให้นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยมหาดไทย จัดทำบัญชีผู้มีอิทธิพลทั่วประเทศ ให้เหตุผลไม่ควรให้คนแบบนี้ไปปกครองชาวบ้าน แถมมีประโยคเด็ดว่า “นี่ขนาดลูกน้องนะ แล้วถ้าลูกพี่จะขนาดไหน”

พูดถึงการปราบปรามผู้มีอิทธิพล จะมีเกิดขึ้นทุกครั้งที่มีการทำรัฐประหาร หรือเมื่อมีการเปลี่ยนรัฐมนตรีมหาดไทย แต่จนแล้วจนรอด ก็ยังไม่มีมรรคผลเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกจากเรื่องนี้ อีกทั้งบางครั้ง การกล่าวหาคนอื่นว่ามีอิทธิพล ก็เคยถูกตอบโต้กลับ เช่น กรณีของนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรมช.มหาดไทย ถูกกล่าวหาจาก ปปช. และเป็นเหตุผลอ้างขอโอนคดีทุจริตรถซ่อมบำรุงจากศาลฯภาค 9 ไปส่วนกลาง นายนิพนธ์ก็ออกมาตอกกลับมาแล้ว

ฉะนั้น การกวาดล้างผู้มีอิทธิพล หรือแม้แต่เบื้องต้น ขึ้นบัญชีผู้มีอิทธิพล จึงไม่ใช่เรื่องง่ายในทางปฏิบัติ และครั้งนี้ก็เช่นกัน

วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา

 อ่านขาวที่เกี่ยวข้อง

"บิ๊กโจ๊ก" พบตำรวจ 28 นาย เอี่ยวงานเลี้ยง "กำนันนก"

เปิดภาพสุดท้าย "ผกก.เบิ้ม" ลงจากแท็กซึ่ปีนรั้วเข้าบ้าน

“สนสามพราน” เพลงสุดท้ายอาลัย “สารวัตรแบงค์”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง