หากมาเฟีย (Mafia) หมายถึง ผู้มีอิทธิพลที่ใช้อำนาจข่มขู่ผู้อื่น ให้เกรงกลัว หรือหาผลประโยชน์ เชื่อว่าในเมืองไทยไม่ได้มีเพียง “ชาดา ไทยเศรษฐ์” คนเดียว แต่เหตุที่อดีตเจ้าพ่อลุ่มน้ำสะแกกรัง ถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในผู้มีอิทธิพลของ จ.อุทัยธานี มีหลายปัจจัย
หากพลิกประวัติวัยเด็ก “ชาดา” เกิดในครอบครัวมุสลิมปาทาน อพยพจากปากีสถาน ตั้งรกรากที่ จ.อุทัยธานี ตั้งแต่รุ่นปู่ โดยปู่ของชาดาเป็นพ่อค้าเนื้อรายใหญ่ของอุทัยธานี ขณะที่ “เดชา ไทยเศรษฐ์” บิดา เป็นพ่อค้าซุง แต่หันมาค้าเนื้อ ส่งออกต่างประเทศ และขายเนื้ออยู่ในตลาด จ.อุทัยธานี
ปฐมบท “มาเฟีย” ลุ่มแม่น้ำสะแกกรัง
ปี 2511 เดชา ไทยเศรษฐ์ บิดาถูกยิงเสียชีวิต หลังจากนั้นอีก 7 ปี แม่และ “ชัยยศ” พี่ชายถูกยิงเสียชีวิต เหลือเพียง “ชาดา” กับ “มนัญญา ไทยเศรษฐ์” น้องสาวใช้ชีวิตด้วยกันสองคน
เขาต่อสู้และใช้ชีวิตจนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติในพื้นที่เกิด และก้าวเข้าสู่แวดวงการเมืองในปี 2535 เมื่อลงสมัครสมาชิกสภาเทศบาลเมืองอุทัยธานี
เพียง 3 ปีให้หลัง “ชาดา” ได้รับเลือกให้เป็นนายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี และขยับเข้าสู่เวทีการเมืองระดับชาติกับพรรคถิ่นไทย
ปี 2546 ชาดาเคยถูกจับกุมในข้อหาจ้างวานฆ่า สมเกียรติ จันทร์หิรัญ เลขานุการของ ประแสง มงคลศิริ อดีต สส.พรรคไทยรักไทย แต่สุดท้ายศาลพิพากษายกฟ้องในปี พ.ศ.2548 ต่อมาในปี 2550 ได้รับเลือกตั้งเป็น สส.พรรคชาติไทย และเป็น สส.อีกสมัยเมื่อปี 2554 ในสังกัดพรรคชาติไทยพัฒนา
เคยถูกค้นบ้านพักและได้รับการจับตามองเป็นพิเศษจากคสช.เมื่อปี 2560 และในเวลาต่อมา
ปี 2561 ชาดาย้ายค่ายเข้าสังกัดพรรคภูมิใจไทย ได้รับเลือกเป็น สส.และได้รับเลือกเป็น สส.อีกครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 14 พ.ค.2566
“มือปราบมาเฟียป้ายแดง” กระทรวงคลองหลอด
แม้จะคร่ำหวอดกับวงการเมืองมานาน แต่ “ชาดา” ในวัย 62 ปี ถือเป็นรัฐมนตรีมือใหม่ป้ายแดง ประจำกระทรวงคลองหลอด นั่งในตำแหน่ง รมช.มหาดไทย โดยรับคำสั่งตรงจาก “อนุทิน ชาญวีรกูล” รมว.มหาดไทย ให้กวาดล้างมาเฟียและอิทธิพลท้องถิ่น จัดทำบัญชีรายชื่อมาเฟียท้องถิ่น
จนเรียกเสียงฮือฮาว่า เลือกใช้คนได้ “ถูกฝา” “ถูกตัว” หลังเกิดเหตุ “หน่อง ท่าผา” ลูกน้อง กำนันนก “ประวีณ จันทร์คล้าย” ยิง “สารวัตรแบงค์” พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว อดีต สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล เสียชีวิต
กวาดล้าง “อิทธิพลเก่า” คุมกำเนิดกลุ่มเกิดใหม่
ชาดา ให้สัมภาษณ์กับ “รายการชั่วโมงข่าว” ไทยพีบีเอส ว่า หากจะเริ่มปราบผู้มีอิทธิพล ก็ต้องเริ่มกวาดล้างที่ อุทัยธานี จังหวัดของตัวเองก่อน โดยต้องเรียกมาคุยกัน 70-80 กว่าคน ให้อยู่นิ่งๆ ทำตัวให้สะอาด ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายก อบต. ลูกน้องตนทั้งนั้น และหากมีปัญหาก็เจอกัน
ชาดา กล่าวว่า อิทธิพลมีทั้งด้านดีและด้านไม่ดี ถ้ามีอิทธิพลแล้วไปทำงานเพื่อบ้านเมือง ช่วยเหลือประชาชน อันนี้ยอมรับได้ และยืนยันว่าจะทำงานสร้างระบบตรวจสอบไม่ยอมให้ใครมาท้าทายอำนาจรัฐ
ส่วนการจัดทำบัญชีผู้มีอิทธิพลในจังหวัดที่จัดโซนให้เป็นพื้นที่สีเหลืองและแดง ทำเสร็จแล้ว ทั้งใน จ.อุทัยธานี และอีกหลายจังหวัด เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงอื่นที่เกี่ยวข้อง
ต้องขีดเส้นดูว่า ปัจจุบันมีผู้มีอิทธิพลเท่าไหร่ ต้องนำบัญชีเก่ามาสะสาง ถ้าตายหรือติดคุกก็แล้วไป ถือว่า ทำข้อมูลชุดใหม่ขึ้นมา ทั้งอำเภอและตำรวจต้องตรวจสอบร่วมกัน
ชาดา บอกว่า พร้อมจะเข้ามาทำให้ไม่ให้เกิดของใหม่ เช่น กรณีกำนันนก นายอำเภอต้องมาคุยด้วย ไม่ใช่เล่นตำรวจอย่างเดียว นายอำเภอเคยรายงานเข้ามาบ้างไหม คนแบบนี้ต้องไม่ให้มีอีกแล้ว นายอำเภอและผู้ว่าฯ ต้องทำงานเข้มข้นขึ้น หากยังปล่อยให้มีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ จะต้องมีการคาดโทษกันเกิดขึ้น ถือว่าบกพร่องต่อหน้าที่
นโยบายที่ชัดเจนคือ ต้องจัดการของเก่าใหม่หมดไป ของใหม่ต้องไม่ให้เกิด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครอง ต้องร่วมมือกัน
กูรู “ชาดา”ชี้ อิทธิพลมีดี-เลว
รมว.ชาดา กล่าวว่า ในฐานะที่เคยเป็นผู้มีอิทธิพลพื้นที่จนถูกขึ้นบัญชีมาแล้ว และจัดตัวเองว่าอยู่ในระดับ “กูรู” คนหนึ่ง จากประสบการณ์ตรงมองว่าอิทธิพลมี 2 ด้าน คือ ดีและเลว นับจากนี้ไปจะไม่มีอิทธิพลด้านเลวแล้ว ที่สำคัญคือ จะไม่เกิดเจ้าพ่อขึ้นแล้ว จะไม่มีใครใหญ่เกิดประตูคุก
“อำนาจการจับกุมไม่ได้อยู่ที่ผม แต่ผมทำเต็มที่แน่นอน ถ้าทำไม่ได้ จะไปอยู่ห้วยขาแข้ง ไปอยู่กับช้างป่า ถ้าผมทำไม่ได้ ก็ไม่อยู่เหมือนกัน งานนี้มันถูกฝาถูกตัว เราเริ่มทำแล้ว หลังจากนี้อีก 6 เดือน จะเริ่มเห็นผล ผมไม่ทำให้ประชาชนผิดหวังแน่ แต่ต้องค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป”
ยุคเลเซอร์นำแสง บ้านใหญ่ เครือข่ายต้องเปลี่ยน
ปฏิเสธไม่ได้ว่า เครือข่ายอิทธิพลใหญ่ ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นักการเมืองท้องถิ่น มักจะเข้าซุกอยู่ในปีกบ้านใหญ่การเมือง แต่ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า โลกเปลี่ยน นักการเมืองต้องปรับตัว นักการเมืองไม่ควรลงมายุ่งเกี่ยว เหมือนในอดีต
เวลานี้ไม่ได้แล้ว มันไม่ใช่ยุคจากอนาล็อก มาดิจิทัล แต่วันนี้มันเลเซอร์นำแสง ยิ่งกว่าใยแก้วนำแสงอีก โลกมันเปลี่ยน ก็ต้องปรับเปลี่ยนไปด้วยกัน ไม่เช่นนั้นอยู่ไม่ได้
รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ได้รู้จักกำนันและผู้มีอิทธิพลทั่วประเทศ และไม่ใช่เป็นคนมีอิทธิพล แล้วเป็นคนเลวทั้งหมด บางคนก็เป็นคนดี ไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม หากใครบอกว่าเป็นพวกเรา ก็ต้องหยุด ถ้าไม่หยุดก็ถือว่าไม่ใช่พวกเรา
ชาดา เชื่อว่า วันนี้ถือว่าใหญ่ ได้เป็น รมช.มหาดไทย ไม่ต้องไปอาศัยอะไรกับพวกนี้ เมื่อได้มาอยู่ในจุดที่เคยวิพากษ์วิจารณ์คนอื่น จึงพร้อมทำงานและไม่กลัวอะไร ดังนั้นไม่ว่าผลงานจะออกมาเป็นอย่างไร เชื่อว่า การกระทำที่เกิดจากเจตนาดี ความตั้งใจดีย่อมเกิดผลแน่
อาการดีด เหตุ“มอเตอร์ไซค์”ล้ม ทำกระดูกคอเอียง
หลายครั้งที่ถูกมองว่าอาการกระตุก จากกระดูกคอเอียง เป็นเพราะเสพยา แต่ “ชาดา” ย้ำว่า ตนเองคือ ผู้ป่วยคนหนึ่ง ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซค์ล้ม ส่งผลให้กระดูกคอเอียง และมีอาการปวดกระดูกข้อต่อ จึงต้องให้แพทย์ฉีดยารักษาอาการดังกล่าว
“อาการนี้จะเป็นตอนเครียด หรืออดนอน ผม คือ คนป่วยคนหนึ่ง เอารูปที่ผมหันคอ 4-5 ครั้ง เป็นอาการของคนเสพยา ผมไม่สนใจนะ ถึงวันนี้ผมก็ยังท้าให้ตรวจฉี่ ถ้าไม่ม่วงคุณกินฉี่ผมนะ ผมพูดตรง ๆ บางพรรค การเมืองไม่ต่ำกว่า 20-30 คน ไม่อยากจะพูด มันไม่ดี ผมไม่ทำร้ายนักการเมืองด้วยการชกใต้เข็มขัดแบบนี้ ถือว่าเราเป็นนักการเมืองด้วยกัน”
แม้จะมีข้อครหาต่างๆเกิดขึ้น แต่ “ชาดา” บอกว่า ไม่เคยสนใจ ตอนเป็นนายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานีก็เคยถูกปรามาส แต่ทำงานจนได้รับการยอมรับ ช่วงเป็น สส. ใหม่ๆ เคยถูกใส่ร้ายว่าเป็น พ่อค้ายาบ้า เจ้าพ่อเงินกู้ แต่แล้วกาลเวลาได้พิสูจน์แล้วว่าไม่เป็นความจริง
ชาดา ทิ้งท้ายว่า สามารถผ่านมาได้ทุกตำแหน่ง และมีผลงานให้ประจักษ์ ส่วนผู้มีอิทธิพลที่พฤติกรรมไม่ดี ยอมรับมีหลายรูปแบบ บางคนไม่ได้มีตำแหน่งแต่มีอิทธิพล แต่บางคนมีอิทธิพลมากถึงขั้นแต่งตั้งนักการเมืองได้ ก็จะต้องตรวจสอบไปตามขั้นตอน ขอให้ทุกคนใจเย็นๆ
มาจับตาดูว่า กูรูมาเฟียป้ายแดงแห่งกระทรวงคลองหลอด จะสามารถโค่นกลุ่มอิทธิพลเก่าและคุมกำเนิดกลุ่มอิทธิพลใหม่ ไม่ให้เข้ามามีบทบาทในสังคมได้หรือไม่
อ่านข่าวอื่น :