ความคืบหน้าคดีฆาตกรรมเด็กวัย 2 ขวบโบกปูนในพื้นที่จ.กำแพงเพชร จนนำมาสู่การขยายผลนายส่องศักดิ์ หรือเอ็ม และภรรยาของนายเอ็ม จนพบว่าเคยก่อเหตุฆาตกรรมลูกมาแล้ว 4 ศพ
วันนี้ (22 ก.ย.2566) นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ "กันจอมพลัง" พานายสังวรณ์ ลุงของเด็กหญิง อายุ 4 ขวบ ผู้เลี้ยงเด็กวัย 4 ขวบมาตั้งแต่เกิด เดินทางมาที่ สน.บางเขน เพื่อเข้าพบ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาตำรวจนครบาล และพล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม กรณีพบว่าเด็กถูกนำไปทำให้พิการเพื่อไปโพสต์ขอบริจาคในสื่อออนไลน์
พยานปากสำคัญให้ข้อมูลเอ็ม-เจาฎา อาจทรมานลูกรับบริจาค
นายสังวรณ์ ลุงของเด็กก็ยืนยันว่า หลังจากที่น้องคลอดออกมาได้ 1 สัปดาห์ แม่ของนางสุนัน และตัวเองช่วยกันเลี้ยงดูมาโดยตลอดระยะเวลา 2 ปี ก่อน นายเอ็ม และนางสุนันท์ พ่อเเละเเม่เด็ก มารับตัวเด็กไปดูแลตอนอายุ 2 ขวบ
โดยส่วนตัวแล้วไม่อยากให้เด็กไปอยู่กับทั้งคู่ เพราะไม่มั่นใจว่าจะดูแลลูกได้ดีหรือไม่ แต่บังเอิญว่าตอนที่มารับหลานไปนั้น ตัวเองไม่ได้อยู่บ้าน ซึ่งขณะที่เลี้ยงดู ยืนยันว่าร่างกายน้องปกติทุกอย่าง ไม่ได้มีความผิดปกติหรือความพิการแต่อย่างใด
อ่านข่าว DNA กระดูกเด็ก 2 ศพตรงกับ "เอ็มฆาตกรรมลูก"
จนกระทั่งได้เห็นสภาพของหลานปัจจุบันรับไม่ได้จากสิ่งที่เห็นว่าน้องถูกโพสต์บริจาค ว่าเป็นเด็กพิการ ปากแหว่งเพดานโหว่ ซึ่งโดยส่วนตัวเชื่อว่าทั้งคู่ต้องมีส่วนร่วมในการทำร้ายลูกให้พิการอย่างแน่นอน จึงเดินทางมาให้ข้อมูลกับตำรวจ
นายสังวรณ์ บอกอีกว่า นายเอ็มนั้น มีพฤติกรรมความรุนแรง เนื่องจากเเม่ของนางสุนันยังเคยเห็นว่า นายเอ็ม จับนางสุนัน ซึ่งเป็นภรรยา จับมัดมือผูกติดกับกับขื่อบ้านแล้วเอาไม้ตี
อ่านข่าว พ่อสารภาพฆ่าลูก 2 ขวบ ฝังโบกปูนที่บ้านกำแพงเพชร
พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาตำรวจนครบาล
ขณะที่กันจอมพลัง กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดมานั้นเด็กปกติทุกอย่าง แต่วันที่เข้าไปช่วยเหลือและไปเจอนั้น สภาพที่เห็นคือน้องร่างกายผิดปกติ ปากแหว่งและตาบอดทั้งสองข้าง นอกจากนี้ยังมีการเปิดรับบริจาคด้วย จึงตั้งข้อสงสัยว่าการที่เปิดรับบริจาคนั้น เป็นการจงใจให้เด็กพิการเพื่อเอาเด็กมาหากินหรือไม่
ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าตกใจมาก ส่วนตัวอยากให้ถูกดำเนินคดีในเรื่องของการค้ามนุษย์
อ่านข่าวพบ "กระดูก" เพิ่มเติม รอตรวจสอบโยงคดีพ่อฆ่าลูก
ออกหมายจับ "เจษฎา" ร่วมฆ่าลูก
พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาตำรวจนครบาล เผยว่า หลังจากแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจยืนยัน ผลตรวจดีเอ็นเอ ร่างทารก 2 รายที่ถูกนำมาทิ้งในพื้นที่ เขตบางซื่อ เมื่อปี 2556 และ 2557 ผลตรวจดีเอ็นเอนายส่องศักดิ์ และ น.ส.เจษฎา ผู้เป็นพ่อแม่ตรงกัน สอดคล้องกับคำรับสารภาพที่ทั้งคู่ระบุว่าได้นำเด็กไปทิ้งในจุดดังกล่าวจริง
สอดคล้องกับสาเหตุการตายของเด็กทั้ง 2 ที่ยืนยันว่าถูกทำให้เสียชีวิต พบกะโหลกศีรษะแตก และเลือดคั่งในสมอง ส่วนอีกคนระบบหายใจล้มเหลว ในส่วนนี้ได้ปรึกษากับคณะพนักงานสอบสวนแล้วว่าจะดำเนินคดีกับน.ส.เจษฎา ทุกข้อหาที่เกี่ยวข้องทั้งหมด จะนำผลตรวจดีเอ็นเอ อย่างเป็นทางการในช่วงบ่ายวันนี้มาประกอบในสำนวนด้วย เพื่อขอออกหมายจับภายในวันนี้
อ่านข่าว คาดพฤติกรรมผู้ต้องหาฆาตกรรมลูกอาจเชื่อมโยงปมวัยเด็ก
ส่วนกรณีที่มีการนำเด็กมาโพสต์ขอรับบริจาค อ้างว่าเด็กพิการเป็นโรคปากแหว่งเพดานโหว่นั้น พนักงานสอบสวนต้องไปตรวจสอบหาพยานหลักฐานตั้งแต่แรกเริ่มที่เด็กทารกเกิด ที่โรงพยาบาล รวมถึงสอบปากคำญาติพี่น้องทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง แต่จากคำให้การน.ส.เจษฎา ยืนยันว่าในช่วงปี 2564 ถึง 2565 นายเอ็ม เด็กคนดังกล่าว ซึ่งเป็นลูกของน.ส.สุนันมาฝากเลี้ยงไว้
แต่เด็กยังมีร่างกายปกติ แต่ต่อมาเมื่อปี 2566 นายเอ็มนำเด็กกลับมาฝากอีกครั้ง กลับพบว่าเด็กมีสภาพปากแหว่ง แต่ในเอ็ม อ้างว่าเด็กเป็นเชื้อรา น.ส.เจษฎา จึงพยายามหายารักษาด้วยตัวเอง ซึ่งข้อเท็จจริงส่วนนี้ยังคงต้องสืบสวนสอบสวนให้เสร็จสิ้น ส่วนตัวเด็กเองอยู่ในการดูแลของบ้านพักเด็กของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)
ส่วนการดำเนินคดีฐานค้ามนุษย์ก็ต้องดำเนินการไปตามกรอบของกฎหมาย ต้องรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้เรียบร้อยก่อน ที่จะแจ้งข้อกล่าวหาได้ โดยมีทางกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ และเจ้าหน้าที่จากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มาร่วมสอบสอบด้วย
รู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างมาก การที่นำเด็กที่ถูกทำร้าย ออกมาโพสต์บริจาค เด็กเหมือนตายทั้งเป็น เหมือนตกนรกทั้งเป็น
น.ส.เจษฎา ภรรยาคนที่ 2 ของนายเอ็ม ถูกแจ้งข้อเพิ่ม
ชี้เอ็ม-เจษฎา ร่วมกันโพสต์ขอรับบริจาคเงิน
ส่วนหลักฐานในขณะนี้ชัดเจนแล้วว่า นายเอ็ม และน.ส.เจษฎา รู้เห็นและร่วมกันโพสต์ จากการตรวจสอบเส้นทางทางการเงิน พบว่า ในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีเงินเข้าบัญชี 13 รายการ รวมเป็นเงิน 3,558 บาท จากการสืบสวนยังทราบอีกว่าสองสามีภรรยานำเงินเหล่านี้มาใช้จ่ายเลี้ยงดูชีวิตตัวเองและครอบครัว ซึ่งมีเจตนาชัดเจนที่นำรูปของลูกที่พิการนำมาหาเงินผ่านการบริจาค
ส่วนภารกิจการตรวจค้นห้องพักของนายเอ็ม ที่ซอยพหลโยธิน 48 จากการสืบสวนทราบว่าเป็นห้องพักที่อยู่อาศับหลังจากที่มีการนำศพไปฝังดินและโบกปูนทับที่ จ.กำแพงเพชร โดยบ่ายนี้ ตำรวจและหน่วยพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ทำร้ายร่างกายเด็กจนเสียชีวิตว่ายังมีหลงเหลืออยู่หรือไม่
อ่านข่าว "รอง ผบช.น." ยืนยัน 'เอ็ม' ผู้ต้องหาทำร้ายลูกเสียชีวิต สุขภาพจิตปกติ
สำหรับข้อหาที่ดำเนินคดีกับนายเอ็ม คือข้อหาร่วมการทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ,ข้อหาทำลายพยานหลักฐาน และข้อหาซ่อนเร้นทำลาย และอำพรางศพ ตราโทษสูง
ส่วนจะเข้าข่ายข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น หรือมีเจตนาฆ่าหรือไม่ ทางผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นผู้ดูแลเรื่องกรอบข้อกฎหมายทั้งหมด ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าเข้าข่ายหรือไม่ต้องรอพยานหลักฐานต่างๆ นำมา
ทั้งนี้ ตำรวจนำตัว น.ส.เจษฎา ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล เพื่อเทียบเคียง ตามที่กล่าวอ้างว่าถูกนายเอ็มทำร้ายร่างกาย ถูกใช้มีดลนไฟจี้แขนตัวเอว ว่าสอดคล้องต้องกันกับบาดแผลหรือไม่ ซึ่งในส่วนนี้อาจจะมีผลในการประกอบสำนวนคดีด้วย
อ่านข่าว