เมื่อวันที่ 25 ก.ย.2566 ศูนย์ข้อมูลหิมะและน้ำแข็งแห่งชาติสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำแข็งในทะเลโดยรอบแอนตาร์กติกา ลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงฤดูหนาวปี 2023
นักวิทยาศาสตร์บันทึกข้อมููลขนาดพื้นที่ที่มีน้ำแข็งปกคลุมสูงสุดได้เมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา ครอบคลุม 16.956 ล้านตารางกิโลเมตร ซึ่งน้อยที่สุดนับตั้งแต่เริ่มเก็บสถิติเมื่อปี 1979 และน้อยกว่าสถิติต่ำสุดครั้งก่อนเมื่อปี 1986 ถึงประมาณ 1 ล้านตารางกิโลเมตร
จากตัวเลขน้ำแข็งที่ลดลงมาก นักวิทยาศาสตร์จึงเน้นย้ำว่านี่ไม่ใช่แค่ปีที่ปริมาณน้ำแข็งลดลงต่ำสุดจนทำสถิติ แต่เป็นสถิติแบบสุดขั้ว ซึ่งตัวเลขดังกล่าวยังเป็นข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้นและยังอยู่ระหว่างการวิเคราะห์ข้อมูลโดยละเอียด
นักวิจัยกังวลว่าความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น จะส่งผลร้ายแรงต่อสัตว์ที่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าว โดยเฉพาะเพนกวิน ซึ่งต้องอาศัย ขยายพันธุ์และเลี้ยงลูกเล็กๆ บนผืนน้ำแข็ง ขณะที่ผลอีกอย่างหนึ่งคือการลดลงของปริมาณน้ำแข็ง ทำให้พื้นที่สีขาวซึ่งจะช่วยสะท้อนความร้อนจากแสงอาทิตย์ลดลง และอาจทำให้อุณหภูมิโลกเพิ่มสูงขึ้นอีกทางหนึ่ง
ฤดูกาลในซีกโลกใต้จะพลิกกลับเป็นตรงกันข้ามกับซีกโลกเหนือ ช่วงที่หนาวที่สุดจะเป็นราวเดือน ก.ย. ที่มักมีน้ำแข็งมากที่สุด จากนั้นน้ำแข็งจะค่อยๆ ละลายต่อเนื่องไปถึงราวเดือน ก.พ.-มี.ค. ก่อนสิ้นสุดฤดูร้อน
แม้ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนจะยังไม่ฟันธงว่าการลดลงของน้ำแข็งแถบขั้วโลกใต้ เกี่ยวข้องโดยตรงกับภาวะโลกร้อนหรือไม่ แต่การศึกษาที่ตีพิมพ์เมื่อต้นเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ในวารสาร Communications Earth and Environment ชี้ว่า อุณหภูมิของน้ำในมหาสมุทรอุ่นขึ้น โดยมีการปล่อยแก๊สเรือนกระจกของมนุษย์เป็นปัจจัยสำคัญ ถือเป็นองค์ประกอบที่ทำให้ปริมาณน้ำแข็งในทะเลลดลงต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2016
ช่วงทศวรรษที่ผ่านมา จุดที่กระทบหนักจากโลกร้อนคือขั้วโลกเหนือ ที่พบน้ำแข็งละลายอย่างรวดเร็วกว่าถึง 4 เท่าเมื่อเทียบค่าเฉลี่ยทั่วโลก แต่รายงานนี้อาจเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าในที่สุดผลกระทบจากภาวะโลกร้อนก็คืบคลานไปถึงขั้วโลกใต้แล้ว
อ่านข่าวอื่นๆ
ทะเลจีนใต้ระอุ "ฟิลิปปินส์" รื้อแนวกั้นลอยน้ำของจีนในพื้นที่พิพาท