กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล (Hubble Space Telescope) พบการระเบิดแปลกประหลาดที่ไม่เคยเจอมาก่อนเรียกว่า “Luminous Fast Blue Optical Transient (LFBOT)” ซึ่งปกติจะเกิดในกาแล็กซีบริเวณที่มีดาวฤกษ์เกิดใหม่เป็นจำนวนมาก แต่ในครั้งนี้ LFBOT เกิดขึ้นห่างจากกาแล็กซีอย่างมาก นับเป็นอะไรที่นักดาราศาสตร์ไม่เคยพบเห็นมาก่อน
LFBOT 1
Luminous Fast Blue Optical Transient หรือ LFBOT เป็นการกำเนิดของแสงสว่างจ้าสีฟ้าอย่างรวดเร็วคล้ายซูเปอร์โนวาหรือ Gamma-ray Burst (GRB) โดย LFBOT นั้นเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ทางดาราศาสตร์ที่สว่างที่สุดเทียบเคียงกับการระเบิดของดาวอย่างซูเปอร์โนวา
LFBOT ถูกค้นพบเป็นครั้งแรกในปี 2018 นับแต่นั้นมานักดาราศาสตร์ตรวจพบ LFBOT ใหม่ปีละหนึ่งครั้งเท่านั้นเนื่องจากมีเพียงกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลที่สามารถค้นหาแหล่งที่มาของ LFBOT ได้อย่างแม่นยำ
LFBOT 2
LFBOT เป็นปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ที่นักดาราศาสตร์ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับมันไม่มาก เนื่องจากการค้นพบครั้งแรกเพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน และด้วยจำนวนของ LFBOT ต่อปี ยิ่งทำให้การศึกษา LFBOT นั้นทำได้ยากมากขึ้น
ภายหลังการค้นพบตำแหน่งที่เกิด LFBOT ขึ้นด้วยกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล นักดาราศาสตร์มักจะใช้กล้องโทรทรรศน์อวกาศตัวอื่น ๆ ในช่วงคลื่นแสงต่าง ๆ มาศึกษา LFBOT เช่น ช่วงคลื่นเอกซเรย์ (X-ray) ไปจนถึงช่วงคลื่นวิทยุ
AT2023fhn
กล้องฮับเบิลค้นพบ LFBOT รหัส “AT2023fhn” เมื่อไม่นานมานี้ มีชื่อเล่นว่า “Finch” โดยนักดาราศาสตร์รู้ว่ามันคือ LFBOT เพราะว่า LFBOT ใช้เวลาในการสลายหายไปไหนไม่กี่วัน ไม่เหมือนกับซูเปอร์โนวาที่ใช้เวลาเป็นเดือนกว่าที่แสงจะหายไป
อย่างไรก็ตาม กล้องฮับเบิลพบว่า “Finch” นั้นเกิดระหว่างกาแล็กซีสองแห่ง โดยห่างจากกาแล็กซีแรกประมาณ 50,000 ปีแสง และกาแล็กซีที่สองประมาณ 15,000 ปีแสง ซึ่งผิดไปจากการสำรวจก่อนหน้าหลาย ๆ ครั้ง ที่ LFBOT จะเกิดอยู่ในกาแล็กซีบริเวณที่มีดาวฤกษ์เกิดใหม่เป็นจำนวนมากเสมอ จึงถือเป็นการสำรวจที่นักดาราศาสตร์ไม่เคยพบเจอมาก่อน
นักดาราศาสตร์มั่นใจว่า “Finch” ไม่น่าใช่ซูเปอร์โนวา เพราะดาวที่มีมวลมากพอที่จะระเบิดออกเป็นซูเปอร์โนวานั้นมีอายุขัยสั้นมาก และไม่น่าจะมีความสามารถในการหลุดออกมาจากกาแล็กซีที่ระยะทางมากเช่นนี้
ข้อมูลการสำรวจจากกล้องโทรทรรศน์อื่น ๆ อย่างกล้องจันทรายาน (Chandrayaan) เครือข่ายกล้องโทรทรรศน์ขนาดใหญ่ (Very Large Array) พบว่า “Finch” มีอุณหภูมิมากถึง 20,000 องศาเซลเซียส ร่วมกับข้อมูลความสว่าง และข้อมูลจากกล้องโทรทรรศน์วิทยุ นักดาราศาสตร์สรุปว่า “Finch” น่าจะเป็น “LFBOT” จริง ๆ
Kilonova
แน่นอนว่านักดาราศาสตร์จะต้องหาทฤษฎีมาอธิบายการเกิด LFBOT ในครั้งนี้ซึ่งผิดจากสมมุติฐานก่อนหน้านี้ที่กล่าวไว้ว่า LFBOT นั้นเกิดภายในกาแล็กซีเท่านั้น
นักวิจัยตั้งสมมุติฐานไว้ว่า “Finch” เกิดจากการชนกันของดาวนิวตรอน 2 ดวงนอกระบบกาแล็กซี โดยการชนกันของดาวนิวตรอนแล้วระเบิดเรียกว่า “Kilonova” ซึ่งมีความรุนแรงกว่าซูเปอร์โนวาธรรมดาถึง 1,000 เท่า นอกจากนี้ หากดาวนิวตรอนดวงใดดวงหนึ่งมีความเป็นแม่เหล็กยิ่งยวด ความรุนแรงของการระเบิดก็จะยิ่งรุนแรงขึ้นไปอีก
นักดาราศาสตร์จึงยังจะต้องศึกษา LFBOT ต่อไปว่ามันคืออะไรกันแน่ และเกิดขึ้นในสถานการณ์ใด
ที่มาภาพ: NASA
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech