วันนี้(10 ต.ค.2566) นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์สินค้าด้อยคุณภาพที่มีราคาถูกจากประเทศเพื่อนบ้านทะลักเข้ามาในประเทศไทย ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทยในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม รวมถึงความปลอดภัยของประชาชน
นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
กระทรวงฯไม่ได้นิ่งนอนใจติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และได้มอบหมายให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ สมอ. เร่งช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว
ให้เข้มงวดในการตรวจสอบสินค้านำเข้าที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของประชาชนอย่างเคร่งครัด ตรวจสอบมาตรฐานของสินค้านำเข้าที่ เพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าเข้าประเทศ
ด้าน นายวันชัย พนมชัย รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวเพิ่มเติมว่า สมอ. จะเข้มงวดในทุกช่องทางเพื่อสกัดกั้นสินค้าไม่ได้มาตรฐานเข้ามาในราชอาณาจักร
นายวันชัย พนมชัย รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม รักษาการแทนเลขาธิการสมอ.
โดยเฉพาะสินค้าที่อยู่ในข่ายการควบคุมของ สมอ. จำนวน 143 รายการ ที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด หากมีสินค้านำเข้าที่ใช้พิกัดและรหัสสถิติที่เชื่อมโยงไว้ ผู้นำเข้าจะต้องยื่นข้อมูลการนำเข้าผ่านระบบ NSW และได้รับใบอนุญาตก่อนรับมอบสินค้าจากกรมศุลกากร เพื่อป้องกันการนำสินค้าไม่ได้มาตรฐานเข้ามาจำหน่ายในประเทศ
นายวันชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ยังตรวจสอบการนำเข้าสินค้าที่ผ่านพิธีการทางศุลกากรผ่านระบบ e-Tracking เพื่อตรวจสอบความผิดปกติของการนำเข้า และตรวจสอบการลักลอบนำเข้าสินค้าที่ผิดกฎหมาย รวมถึงมีการตรวจติดตามผู้รับใบอนุญาตผ่านระบบ e-Surveillance ซึ่งเป็นการนำระบบมาช่วยอำนวยความสะดวกในการแจ้งข้อมูลของผู้ได้รับอนุญาต
เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจ คุมการขายสินค้าในท้องตลาดและออนไลน์ทุกแพลตฟอร์มจะนำระบบ e-Market surveillance มาใช้เพื่อติดตามสถานที่จำหน่ายทั่วประเทศ
นอกจากนี้ยังได้กำชับทีมนักรบไซเบอร์ ทำหน้าที่ตรวจสอบการจำหน่ายสินค้าทางโทรทัศน์ และ Platform Online ต่างๆ เพื่อเฝ้าระวังสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานอีกด้วย
สินค้าด้อยคุณภาพราคาถูกที่ทะลักเข้ามาในไทยส่งผลกระทบต่อ ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมและความปลอดภัยของประชาชน สมอ. จะเพิ่มความเข้มในการตรวจและติดตามสินค้าไม่ได้มาตรฐานในทุกช่องทาง
อย่างไรก็ตามหากผู้ผลิตและผู้นำเข้าฝ่าฝืนกฎหมาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกินสองล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงผู้จำหน่ายหากขายสินค้าไม่ได้มาตรฐานมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดย สมอ. จะดำเนินการกับผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืนกฎหมายอย่างถึงที่สุด เพื่อให้ประชาชนได้ใช้สินค้าได้อย่างปลอดภัย
อ่านข่าวอื่นๆ:
ไทยครองแชมป์ส่งออก “สินค้าสร้างสรรค์”2 ปีซ้อน
16-30 ต.ค.นี้ เปิดรับสมัครชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ ผู้เลี้ยงหมู-ไก่ไข่