วันนี้ (14 ต.ค.2566) นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากการต้อนรับแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากประเทศอิสราเอลชุดแรก เมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา กรมสุขภาพจิตได้ร่วมปฏิบัติการดูแลจิตใจ ผู้ได้รับผลกระทบทั้ง 15 คนทันที ซึ่งจากข้อมูลของจำนวนแรงงานไทยในประเทศอิสราเอลปัจจุบันมีจำนวนถึง 25,887 คน ประชาชนที่เป็นครอบครัวและญาติในหลายพื้นที่จึงมีความเครียดและกังวลอย่างมาก เพราะตอนนี้มีเพียงบางส่วนเท่านั้นที่ได้เดินทางกลับสู่อ้อมกอดของครอบครัว
ทางกรมสุขภาพจิตได้แบ่งประเภทกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ จำแนกออกเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย
- กลุ่ม A ผู้บาดเจ็บ/ตัวประกัน/ผู้สูญหาย รวมถึงญาติของผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับผลกระทบข้างต้น
- กลุ่ม B แรงงานไทยในพื้นที่เสี่ยงสูงหรือปานกลาง รวมถึงญาติของกลุ่มดังกล่าว
- กลุ่ม C ประชาชนทั่วไปที่รับทราบเหตุการณ์ และผู้ปฏิบัติงานกลุ่มต่าง ๆ
อ่านข่าว : สธ.เยียวยาใจแรงงานไทยหนีสงครามอิสราเอลอีก 3 เดือน
3 แนวทางดูแลจิตใจแรงงานไทย
ทั้งนี้กรมสุขภาพจิตได้มีการกำหนดแนวทางการดูแลจิตใจแรงงานไทยในสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลในแต่ละกลุ่มออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่
- ระยะวิกฤต (Impact Phase) ครอบคลุมช่วงระยะเวลา 24 ชั่วโมง ถึง 72 ชั่วโมง ซึ่งปฏิกิริยาทางใจที่จะแสดงออกในระยะนี้จะประกอบด้วย การช็อค โกรธ เศร้า เสียใจและวิตกกังวล ในช่วงระยะวิกฤติจะใช้แนวทางในการ ช่วยเหลือโดยวิธีการปฐมพยาบาลทางใจ (Psychological First Aid)
- ระยะปรับตัว (Post-Impact Phase) ครอบคลุมช่วง 2 - 4 สัปดาห์ ซึ่งปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นจะพบว่ามีอาการเศร้า เสียใจ มีการกังวลกับผลกระทบจากเหตุการณ์ โดยแนวทางในการช่วยเหลือของระยะนี้จะประกอบด้วย การใช้วัคซีนใจในชุมชนเพื่อค้นหาแหล่งสนับสนุนในการช่วยปรับตัว
- ระยะฟื้นฟู (Recovery Phase) ซึ่งจะเริ่มหลังจากเกิดเหตุการณ์ 1 เดือนเป็นต้นไป ระยะนี้ปฏิกิริยาทางใจที่พบบางรายอาจจะเริ่มปรับตัวได้กับวิถีชีวิตใหม่ได้แล้ว หรือบางรายอาจแย่ลงหากยังอยู่ในพื้นที่ความไม่สงบ ซึ่งแนวทางในการช่วยเหลือของระยะนี้จะใช้วิธี การจิตบำบัด หรือสังคมบำบัดเพื่อฟื้นฟูดูแลต่อเนื่องภายในชุมชน
อ่านข่าว : อบอุ่น! กลับสู่อ้อมกอดครอบครัว 15 แรงงานไทยหนีสงคราม
ผลดูแลจิตใจ มีภาะวะเครียดสูง 2 คน - นอนไม่หลับ 7 คน
นพ.พงศ์เกษม กล่าวว่า ผลจากการดูแลจิตใจแรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ โดยได้มีการจัดสรรบุคลากรเพื่อปฏิบัติงานเยียวยา/ช่วยเหลือ จำนวน 15 คน ประกอบด้วยจิตแพทย์ พยาบาลจิตเวช นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ นักวิชาการสาธารณสุขและสหวิชาชีพด้านอื่น ๆ ซึ่งประชาชนที่กลับจากประเทศอิสราเอลวานนี้มีทั้งสิ้น 15 คน โดยจากการประเมินสถานการณ์ทางใจพบว่า มีภาวะเครียดสูง 2 คน และอยู่ในภาวะนอนไม่หลับจำนวน 7 คน
นอกจากนี้ในกลุ่ม B ได้แก่ คนไทยในอิสราเอลและญาติ จำนวน 61 คน พบว่ามีความเครียดทุกคน โดยส่วนแผนการดูแลต่อเนื่องต่อจากนี้ ในกลุ่ม A ได้มีการเตรียมทีม MCATT ส่วนกลางเพื่อประเมินและดูแลจิตใจตั้งแต่ที่สนามบินและจะติดตามอย่างต่อเนื่อง
ในกลุ่ม B มีการเตรียมทีม MCATT ส่วนภูมิภาคประเมินและดูแลจิตใจที่ภูมิลำเนา และกลุ่ม C จะมีการสื่อสารในวงกว้างด้านสุขภาพจิต เช่น แนวทางการดูแลจิตใจตนเองสำหรับแรงงานไทยที่ยังเดินทางกลับมาไม่ได้ และแนวทางการดูแลสำหรับประชาชนทั่วไปที่ได้รับผลกระทบทางจิตใจจากสถานการณ์ความไม่สงบในต่างแดน
อ่านข่าว : สำรวจความเสียหายพื้นที่ 'อิสราเอล - กาซา' หลังเหตุปะทะเกือบ 1 สัปดาห์
คนไทยติดตามข่าวใกล้ชิด แนะวิธีรับมือสภาพจิตใจตนเอง
สำหรับคนไทยที่ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด สามารถดูแลจิตใจด้วยตนเองเบื้องต้นดังนี้
- ดูแลตนเอง รับประทานอาหาร และพักผ่อนให้เพียงพอ
- รู้เท่าทันอารมณ์ตนเอง
- สังเกตอารมณ์ตัวเองอย่างสม่ำเสมอ
- หลีกเลี่ยงการรับข่าวสารที่มากเกินไป ไม่ส่งต่อภาพความรุนแรงต่าง ๆ
- พูดคุยกับคนอื่นเพื่อระบายความรู้สึก เน้นการสร้างความเข้มแข็งทางใจ
ทั้งนี้หากพบความผิดปกติของตนเองหรือคนใกล้ชิด ควรรีบปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตหรือจิตแพทย์ ณ สถานพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อขอรับคำปรึกษาและการบำบัดรักษา หรือโทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ได้ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง
เปิดไลน์ 1323 ดูแลจิตใจคนไทยในอิสราเอล
นอกจากนี้ กรมสุขภาพจิตยังได้เปิดไลน์ "สายด่วนสุขภาพจิต 1323" เพิ่มเติม สำหรับคนไทยในอิสราเอลเพื่อช่วยเหลือคนไทยที่กำลังอาศัยอยู่ในประเทศอิสราเอลและได้รับผลกระทบด้านจิตใจ ให้เข้ามาลงทะเบียน ขอรับความช่วยเหลือด้านสุขภาพจิต โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตติดต่อกลับไปเพื่อให้ความช่วยเหลือ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
หอการค้าไทย ชี้ 'สงครามอิสราเอล' ไม่กระทบการค้า
ปธ.หอการค้าไทยฯเสียใจเหตุไม่สงบอิสราเอล ชี้ไม่กระทบการค้า2ฝ่าย
คนไทยเสียชีวิตแล้ว 24 คน แจ้งขอกลับกว่า 7,000 คน นายกฯ สั่งเร่งช่วยให้เร็วที่สุด
จนท.สถานทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ เร่งย้ายคนไทยเข้าศูนย์พักคอย ก่อนส่งกลับไทย
สถานทูตไทย ณ กรุงราบัต เตือนคนไทยระวังผลกระทบจาก "อิสราเอล-ปาเลสไตน์"