วันนี้ (14 ต.ค.2566) น.ส.บุณยวีย์ ไขว้พันธ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า จากกรณีชาวบ้านร้องเรียนว่ามีแรงงานต่างชาติกว่า 1,000 คน ที่พักอาศัยอยู่ในแคมป์ สร้างปัญหาเดือดร้อนรำคาญให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ต.หนองน้ำส้ม อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา โดยไม่มีระบบสาธารณสุข และปล่อยน้ำเสียลงทิ้งบ่อน้ำธรรมชาติจนใช้อุปโภคบริโภคไม่ได้ อีกทั้งยังก่อเหตุทะเลาะวิวาทและลักขโมยข้าวของพืชผลทางการเกษตรในพื้นที่หลายครั้ง
เบื้องต้นได้มอบหมายสำนักงานจัดหางาน จ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ สาธารณสุขอำเภออุทัย และเจ้าหน้าที่แรงงานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่ตรวจสอบ เมื่อเวลา 06.20 น. ของวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา เมื่อไปถึงแคมป์ดังกล่าว พบแรงงานลักษณะท่าทางคล้ายคนต่างชาติเจ้าหน้าที่ฯ จึงได้เข้าแสดงตัวเป็นเจ้าพนักงาน และทำการตรวจสอบหนังสือเดินทางหรือเอกสารที่ใช้แทนหนังสือเดินทางและเอกสารที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่สามารถนำมาแสดงต่อเจ้าพนักงานได้ จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.อุทัย เพื่อสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมาย
ผลการสอบสวน ปรากฏว่าแรงงานต่างชาติ 347 คน ประกอบด้วยสัญชาติเมียนมา 69 คน และสัญชาติกัมพูชา 278 คน ทั้งหมดยอมรับว่าเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยผ่านทางช่องทางธรรมชาติ ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารที่ใช้แทนหนังสือเดินทาง และไม่มีใบอนุญาตทำงาน จึงดำเนินคดีในข้อหาเป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 81 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และจะได้ขยายผลถึงนายจ้างสถานประกอบการที่จ้างแรงงานต่างด้าวเพื่อดำเนินคดีตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติมต่อไป
น.ส.บุณยวีย์ กล่าวว่า กรมการจัดหางาน ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ปูพรมตรวจสอบการทำงานของแรงงานต่างชาติและสถานประกอบการอย่างเคร่งครัด เพื่อตรวจสอบ ควบคุม และดำเนินคดีแรงงานที่ทำงานผิดกฎหมาย พร้อมประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้นายจ้างสถานประกอบการ และแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้อง