วันนี้ (17 ต.ค.66) พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ลงนามในระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการปฏิบัติตนของข้าราชการตำรวจเมื่อมีเครื่องแบบ พ.ศ.2566 ลงวันที่ 17 ต.ค.2566 มีสาระสำคัญคือ เป็นการปรับปรุงระเบียบการปฏิบัติตนของข้าราชการตำรวจเมื่อแต่งเครื่องแบบ ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ความจำเป็นในการปฏิบัติงานปฏิบัติหน้าที่ อนุมัติทรงผมข้าราชการตำรวจ ให้ผมด้านบนความยาวไม่เกิน 5 เซนติเมตร ด้านข้างและด้านหลัง ความยาวไม่เกิน 1 เซนติเมตร
กรณีข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อความปลอดภัย ที่ผู้บังคับบัญชาตั้งแต่ตำแหน่งผู้บังคับการขึ้นไปกำหนด หรือที่ปฏิบัติหน้าที่การสืบสวนหรือการข่าว หรือการป้องกันปราบปรามยาเสพติด เมื่อแต่งเครื่องแบบ ให้ไว้ผมรองทรงสูงได้ กรณีที่ไม่สามารถไว้ผมรองทรงสูงตามที่กำหนดได้ ให้ผู้บังคับบัญชาตั้งแต่ตำแหน่งผู้กำกับการขึ้นไปเป็นผู้อนุญาต โดยการไว้ผมดังกล่าวจะต้องมีความเหมาะสม สะอาดและเรียบร้อย
ข้าราชการตำรวจหญิง เมื่อแต่งเครื่องแบบ ยังคงไม่ปล่อยให้ผมยาวประบ่าหรือปรกบ่าจนปิดอินทรธนู หากไว้ผมยาวต้องขมวดปลายผมให้เรียบร้อย หากมีความจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ในการขมวดปลายผม ให้ใช้สีดำเพียงสีเดียว หากจำเป็นจะต้องใช้อุปกรณ์ตกแต่งทรงผมประกอบ ควรใช้กิ๊บหรือริบบิ้นขนาดเล็กสีดำเพียงสีเดียว โดยห้ามไว้ผมเปีย ผมแกละ ผมทรงหางม้า หรือทรงอื่นที่ไม่เหมาะสม
สำหรับข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่นายตำรวจราชองครักษ์ และข้าราชการตำรวจที่แต่งตั้งทำหน้าที่ในการถวายความปลอดภัย ให้ปฏิบัติตามที่หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ถือปฏิบัติ ส่วนผู้ที่ทำหน้าที่สืบสวนหาข่าวในการถวายความปลอดภัย หรืออารักขาบุคคลสำคัญ ให้แต่งกายแบบสากลนิยม
ทั้งนี้ ข้าราชการตำรวจทุกคนต้องปฏิบัติตนให้อยู่ในระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัด เมื่อแต่งเครื่องแบบให้แต่งกายเรียบร้อย หลีกเลี่ยงการแสดงกิริยาไม่เหมาะสมในสาธารณะ ตลอดจนไม่แสดงกิริยาวาจาใดๆ ในลักษณะหยาบคาย ดูหมิ่น หรือเหยียดหยามประชาชน โดยให้สำนักงานจเรตำรวจ หรือผู้บังคับบัญชา ตรวจสอบกวดขันการปฏิบัติตามระเบียบนี้อย่างเคร่งครัด เพื่อความเป็นระเบียบวินัยของข้าราชการตำรวจสู่สายตาประชาชน
โฆษก ตร. กล่าวอีกว่า การปรับเปลี่ยนระเบียบ ตร.ว่าด้วยการปฏิบัติตนของข้าราชการตำรวจเมื่อมีเครื่องแบบ พ.ศ.2566 เป็นแนวนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ที่ต่อยอดจากแนวคิดนโยบายของผู้บังคับบัญชาระดับ ผบ.ตร. ในการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับตำรวจผู้ใต้บังคับบัญชาที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ เห็นปัญหารับฟังปัญหาของผู้ปฏิบัติ นำมาปรับประยุกต์และปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมให้เหมาะสมกับการปฏิบัติหน้าที่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง