เขาเป็นคนทำงานแบบบ้าดีเดือด ทำทุกอย่างไม่กลัวใคร
ข้อมูลจากแหล่งข่าวใกล้ชิด บิ๊กเต่า-พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) รักษาราชการผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (ผบก.ทล.) บอกกับไทยพีบีเอสออนไลน์
"ผู้การเต่า" นรต.รุ่น 45 ใฝ่ฝันอยากเป็นตำรวจเพราะเห็นการทำงานของพ่อ ที่เป็นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ที่ต้องประสานงานกับตำรวจมาตั้งแต่เด็ก หลังจากเรียนจบ เริ่มรับราชการเป็นตำรวจตระเวนชายแดน กองร้อย ตชด.144 จ.เพชรบุรี ตำแหน่ง หัวหน้าชุดยาเสพติด ตชด.ภาค 1 จากนั้นขึ้นเป็น ผู้กองสังกัดกองบังคับการปราบปราม, สารวัตรสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7, สารวัตรปราบปราม สภ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี, รอง ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา
จากนั้นเลื่อนเข้าสายนครบาลขึ้นตำแหน่ง ผกก.สืบสวนสอบสวนนครบาล 2, ผกก.4 บก.ป., รอง ผบก.ป., รอง ผบก.ทล. จนติดยศ พล.ต.ต. ในตำแหน่งผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.)
ใหญ่แค่ไหน ทำผิดก็จับหมด
สมัยเริ่มต้นเป็นตำรวจตระเวนชายแดนที่เพชรบุรี เมื่อเห็นว่ามีผู้กระทำผิด ทั้งเรื่องบุกรุกป่า เรื่องยาเสพติด ก็พาลูกน้องออกไปจับกุมทำคดีต่างๆ ในที่สุดก็ทำให้กองร้อย ตชด.144 มีผลงานมากที่สุดใน บช.ตชด. ขณะนั้น
ไม่ว่าในพื้นที่จะมีอิทธิพล นามสกุลยิ่งใหญ่ที่เขาไม่กล้าจับกัน คงไม่ต้องพูดนามสกุลอะไรดังๆ ผมจับหมด จับจนมีคำเตือนต้องระวังตัว
พล.ต.ต.จรูญเกียรติให้สัมภาษณ์ไว้กับทีมข่าวอาชญากรรม แนวหน้า
ย้ายมากองปราบฯ ก็เป็นมือปราบยาเสพติด ยังใช้หลักการทำงานตอนอยู่ ตชด. จับหมดไม่ว่าใคร นักการเมือง อาชญากรระดับไหน ก็ไม่เกรงกลัวอิทธิพล อำนาจมืด ตลอดเส้นทางสายสืบสวนของ "ผู้กองเต่า" ที่ทำคดีดังมามากมาย ทำให้ "ผู้การเต่า" เป็นไอดอลฐานะยอดนักสืบแก่รุ่นน้องตำรวจกองปราบฯ
เปลี่ยนเสือกระดาษด้วยพลังเต่า
พล.ต.ต.จรูญเกียรติให้สัมภาษณ์กับ มติชน สุดสัปดาห์ ว่า หลังเข้ารับตำแหน่งใน ปปป. ก็ได้กำลังใจจาก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก. ในขณะนั้น ว่าช่วยเปลี่ยน ปปป. ให้เป็นเสือตัวจริงหน่อย บวกกับสไตล์การทำงานที่ ขอวางตัวเองเป็นที่พึ่งประชาชน ความยุติธรรมไม่ต้องร้องขอ
ช่วง 1 ปีที่ผ่านมา หลายคดีดังภายใต้การกำกับดูแลของ "บิ๊กเต่า" จึงทำให้ชื่อเสียงของ ปปป. ที่เป็นเหมือนเสือกระดาษกลายเป็นเสือตัวจริงที่น่ายำเกรง
ช่วงปลายปี 65 ข้ามต้นปี 66 ที่ ผบก.ปปป. นำทีมจับกุมนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ทส. กรณีเรียกรับเงินโยกย้ายตำแหน่งจากผู้ใต้บังคับบัญชาในหน่วยงาน แม้ในเวลาต่อมา ผู้การ ปปป. จะถูกนายรัชฎา ฟ้องกลับฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และอีก 3 ข้อกล่าวหา แต่สุดท้ายศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางยกฟ้อง บิ๊กเต่าและทีมไร้มลทิน
กลางปี 66 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ต้องรับตำแหน่งเพิ่มอีกคือ รักษาราชการผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (ผบก.ทล.) จากประเด็นที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เปิดโปงเรื่องส่วยสติ๊กเกอร์รถบรรทุก สร้างชื่อเสียเป็นวงกว้าง กระทบตำรวจทางหลวงทั่วประเทศ และภาพพจน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนถึงตอนนี้ถึงไม่มีทีท่าว่าส่วยรถบรรทุกจะถูกจัดการจนสิ้้น แต่บิ๊กเต่าลั่น ต้องจัดระเบียบทางหลวงใหม่ เน้นความถูกต้อง โปร่งใส สร้างชื่อกลับมาให้องค์กรสีกากี
กระทั่งล่าสุด 24 ต.ค.2566 บัญชาการ ปปป. สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. - ป.ป.ช. และชุดปฏิบัติการ "หนุมานกองปราบ" จับกุมนายกเทศมนตรีตำบลตลุกดู่ จ.อุทัยธานี ซึ่งเป็นลูกเขยของ "ชาดา" รมช.มหาดไทย หลังเรียกรับ 600,000 บาท จากผู้รับเหมาที่เข้าประมูลก่อสร้างระบบประปาหมู่บ้านแบบบาดาล 2 โครงการ ภายหลังเข้าจับกุม บิ๊กเต่าก็ต่อสายตรงหา พ่อตานายกเทศมนตรีตำบลตลุกดู่ ด้วยตัวเอง
ท่านเองก็ไม่ได้ว่าหรือขออะไร เข้าใจกระบวนการ ปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย
พร้อมย้ำว่าก่อนหน้านี้เคยเตือนแล้วว่าถ้าใครไม่หยุดก็ดูแลตัวเองกันไป ท่านก็เข้าใจ
อ่าน : จับ "ลูกเขยชาดา" เรียกรับสินบนสร้างประปาหมู่บ้าน 6 แสนบาท
อ่าน : ให้ประกัน 4 แสน "ลูกเขยชาดา" รอฟัง มท.3 แถลงวันนี้
ก่อนจับลูก(เขย) เคยไล่จับพ่อ(ตา) มาก่อน
ย้อนไป 6 ปีก่อน สมัยเป็นผู้กำกับ 4 บก.ป. เมื่อวันที่เมื่อวันที่ 27 พ.ค.60 พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว และทีมงานวางแผนทำตรวจค้นรถ บนทางหลวงหมายเลข 3183 พบว่าขบวนรถของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ กับพวกทั้งหมด 8 คัน เดินทางมางานศพที่บริเวณ อ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี ตร.ทล.ที่ตั้งจุดสกัดจึงเรียกให้หยุดเพื่อทำการตรวจค้น แต่รถคันที่นายชาดานั่งมากลับหลบหนี
นายชาดา ไทยเศรษฐ์
หลังไล่ติดตามจนจับกุมได้ เมื่อค้นในรถก็พบอาวุธปืนหลายกระบอก จึงยึดของกลางหลายรายการไว้ ก่อนส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ครั้งนั้นเป็นการตรวจค้นตามนโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้างเพื่อลดปัญหาอาชญากรรม
ตลอดระยะเวลาที่ ผู้การเต่า เข้ามา ปปป. ก็พยายามปรับปรุงทีมงาน สร้างขวัญกำลังใจ ปรับทัศนคติให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทำงานให้ประชาชนด้วยใจ โดยกล่าวว่าไม่เคยกลัวการถูกโยกย้าย ขอเพียงแค่ทำหน้าที่ให้สมบูรณ์กับการเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์
มีเหตุที่ไหนต้องไปจัดการ ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมาย ต้องหยุด ถ้าไม่หยุดเราจะมาเยี่ยม
อ่าน : "อนุทิน" ลั่นจับ "ลูกเขยชาดา" สะท้อนไร้ผู้มีอิทธิพล