วันนี้ (7 พ.ย.66) พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI แถลงผลการดำเนินคดีพิเศษกรณีพนักงานอัยการแนะนำให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการพนัน และความผิดมูลฐานอื่น ซึ่งเป็นคดีที่ทำการสอบสวนต่อเนื่องเกี่ยวกันกับคดีพิเศษ "คดีชบา ภาค 1" ซึ่งได้ดำเนินคดีกับเจ้าของสโมสรฟุตบอล และเจ้าของร้านอาหารชื่อดังไปแล้วก่อนหน้านี้
ต่อมาอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้สั่งการให้กองคดียาเสพติด ทำการสืบสวน สอบสวน ขยายผลไปยังกลุ่มบุคคลที่มีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงจากนางชบา ว่ามีพฤติการณ์เข้าข่ายการกระทำความผิดกฎหมายฐานใดหรือไม่
คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดียาเสพติด ได้รวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานพบว่า นายภาคภูมิ มีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงจากบัญชีม้าที่ใช้ในเครือข่ายของนางชบา
โดยตั้งแต่ปี 2560 ถึงปัจจุบัน พบว่ามีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกันกว่า 83 บัญชีเงินฝากธนาคาร บางบัญชีมีเงินหมุนเวียนกว่า 1,000 ล้านบาท นายภาคภูมิ มีพฤติการณ์เป็นบุคคลใกล้ชิดเจ้าของเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ที่สุดของประเทศรายหนึ่ง ทำหน้าที่เป็นผู้บริหารจัดการรายได้จากเอเจนท์เว็บไซต์พนัน ที่รับไปทำการตลาดอีกทอดหนึ่ง ซึ่งต้องจ่ายค่าดำเนินการให้กับเจ้าของเครือข่ายของเว็บพนันออนไลน์หลักที่ชื่อว่า UFA
แผนภูมิเส้นทางการเงินขบวนการเว็บพนันออนไลน์
การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายองค์ประกอบความผิดฐานฟอกเงิน ศาลอาญาได้อนุมัติออกหมายเมื่อวันที่ 28 ต.ค.2566 ในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน
คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดียาเสพติด ได้สืบสวนเพื่อติดตามจับกุม จนพิสูจน์ทราบว่ นายภาคภูมิ ได้เดินทางออกนอกประเทศและจะเดินทางกลับเข้ามาในประเทศทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในวันเสาร์ที่ 4 พ.ย.2566 เวลาประมาณ 23.00 น. จึงได้ประสานให้ชุดปฏิบัติการของศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทำการจับกุมนายภาคภูมิ นำส่งคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดียาเสพติดเพื่อดำเนินคดีและต่อมาได้นำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังต่อศาลอาญา โดยคัดค้านการประกันตัว ซึ่งศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว
คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ทำการสอบสวนขยายผลไปยังเครือข่ายรายอื่นๆ โดยได้อายัดบัญชีธนาคารไว้แล้วจำนวน 83 บัญชี ซึ่งส่วนใหญ่มีบุคคลต่างด้าวเป็นเจ้าของบัญชี
ขอเตือนไปยังนายจ้างที่มีบุคคลต่างด้าวเป็นลูกจ้าง เพราะปัจจุบันธนาคารได้กำหนดให้นายจ้างต้องรับรองการเปิดบัญชีธนาคารของลูกจ้างต่างด้าว ให้ทำการตรวจสอบสอดส่องไม่ให้ลูกจ้างนำบัญชีที่เปิดไปขายหรือให้กลุ่มอาชญากรใช้ ซึ่งหากสืบสวนพบนายจ้างอาจมีความผิดร่วมกับลูกจ้างในฐานเป็นตัวการร่วมหรือผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดได้
อ่านข่าวอื่น :
ปนเปื้อน เดอะซีรีส์ EP.2 หลุมฝังกลบ "ชุมชนหนองพะวา" ยุติธรรมไม่มีจริง
หลอกไปทิ้งบนภูเขา “แรงงานไทยในไต้หวัน” แจ้งความเอาผิดนายหน้า