วันนี้ (16 พ.ย.2566) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุมคณะกรรมการทำงานขับเคลื่อนยุติข้อพิพาทเรื่องที่ดิน ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ที่มีปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธาน ประชุมร่วมกับกรมธนารักษ์ สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงบประมาณ ตัวแทนจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และอธิการบดีและตัวแทนนักศึกษาอุเทนถวาย
นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ ปลัดกระทรวง อว. เปิดเผยว่า การหารือในวันนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปชัดเจน เรื่องนี้ตนเองไม่ได้วางกรอบว่าต้องได้ข้อสรุปเมื่อไร ซึ่งการประชุมวันนี้ได้แนวทางแก้ไขปัญหาออกมาบางส่วน ทั้งการส่งเสริมการศึกษาร่วมกัน และการคงไว้ซึ่งความเป็นประวัติศาสตร์ของอุเทนถวาย
ทั้งนี้ได้มอบให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก นำเรื่องนี้ไปพิจารณาเพื่อเชื่อมระบบการศึกษาไปด้วยกัน และทำให้อุเทนถวายมีพื้นที่การศึกษาของตนเอง สามารถพัฒนาช่างฝีมือ สร้างมูลค่าด้านซอฟต์พาวเวอร์ได้
ปลัดกระทรวง อว. กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องที่ดินไม่ได้มีการพูดถึงเฉพาะเจาะจงในวันนี้ โดยให้เหตุผลว่าเป็นข้อพิพาทที่ศาลตัดสินแล้ว แต่ขอให้ทุกฝ่ายไปทำการบ้านเพื่อนำมาหาข้อสรุปในการประชุมนัดถัดไป
วันเดียวกัน กลุ่มศิษย์เก่าและนักศึกษาอุเทนถวายกว่า 120 คนได้รวมตัวที่กระทรวง อว. เพื่อติดตามความคืบหน้าการประชุมฯ โดยนายเดชา เดชะตุงคะ อุปนายกสมาคมศิษย์เก่าอุเทนถวาย เปิดเผยว่า วันนี้ได้ยื่นข้อเสนอ 2 ทางเลือกในที่ประชุม คือ 1. ให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเข้ามาดูแลอุเทนถวาย ในรูปแบบเป็นหน่วยการศึกษาสาขาย่อย เพื่อร่วมกันพัฒนาระบบการศึกษาในการผลิตช่างที่มีคุณภาพ ช่วยผลักดันโยบายซอฟต์พาวเวอร์ พร้อมให้ มทร.ตะวันออกหาที่ดินให้เพียงพอต่อการขยายการศึกษา โดยทางเลือกนี้ทุกฝ่ายเห็นด้วย แต่จำเป็นต้องกำหนดรูปแบบและวิธีการอีกครั้ง
และ 2 ขอให้จุฬาฯ ยกที่ดิน 22 ไร่กลับคืนให้อุเทนถวายเป็นผู้ดูแลเอง เพื่อการจัดระบบการศึกษาและพัฒนาช่างที่มีคุณภาพ ซึ่งทางเลือกนี้ยังไม่มีการพูดถึง เนื่องจากมีความเป็นนิตินัย ขณะที่ตัวแทนนักศึกษาอุเทนถวาย เปิดเผยว่า จะเพ่งเล็งถึงการอยู่ร่วมกันให้ได้และพร้อมเดินหน้าไปด้วยกัน โดยยังยืนยันคำเดิมว่าอุเทนจะต้องอยู่ที่เดิม
อ่านข่าวอื่นๆ
ภารกิจสุดหิน! สารพัดวิธีจับ “อิกัวนาเขียว” บุกเมืองละโว้