จากกรณีนางสาวเอ อายุ 30 ปี อาชีพนักธุรกิจ เข้าร้องเรียนกับเพจสายไหมต้องรอดว่า ถูกหมอดูชื่อดังที่รู้จักผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดีย และมีสำนักดูดวงอยู่ที่ จ.กาญจนบุรี หลอกลวงว่า เธอถูกทำคุณไสยใส่ และสามีของเธอกำลังจะนอกใจ โดยหลอกให้มีเพศสัมพันธ์ด้วยเพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์ และเรียกเงินค่าประกอบพิธีและค่าดูดวงหลายครั้ง สูญเสียเงินกว่า 14 ล้านบาท อีกทั้งมีผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงลักษณะเดียวกันกว่าร้อยรายนั้น
ทีมข่าวไทยพีบีเอส ลงพื้นที่สำนักดูดวงของหมอดูคนดังกล่าว ซึ่งอยู่ในพื้นที่ ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี พบว่า ปิดประตูด้านหน้าไว้ และติดตั้งกล้องวงจรปิดที่บริเวณประตูหน้า 2 ตัว สอบถามลูกศิษย์ที่อยู่ในสำนักทราบเพียงว่า อาจารย์เดินทางไปทำธุระที่ต่างจังหวัดหลายวันแล้ว และไม่มีเบอร์ติดต่อ
ขณะที่ชาวบ้านที่อยู่ละแวกใกล้เคียงกับสำนักดูดวง ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า สำนักดูดวงแห่งนี้เปิดมาเป็นเวลากว่า 10 ปี โดยอาจารย์หนึ่งเป็นคนหนุ่ม อายุประมาณ 40 ปี ไม่ค่อยที่จะสุงสิงกับชาวบ้านในพื้นที่
ต่อมาช่วงเย็นวานนี้ (27 พ.ย.2566) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าม่วง ลงพื้นที่ไปที่สำนักปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากจากสำนักดูดวง โดยเชิญพระจากวัดดังกล่าวว่าให้ปากคำที่โรงพัก ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรกับหมอดูคนดังกล่าว ซึ่งพระให้ข้อมูลว่า ก็รู้จักกับหมอดูคนนี้ เนื่องจากเคยมาบวชอยู่ที่สำนักปฏิบัติธรรมเมื่อปีที่แล้ว ส่วนการทำพิธีนั้นไม่ได้ช่วยอะไร เพียงแต่ปฏิบัติธรรมสวดมนต์ไหว้พระเท่านั้น