พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยว่าจากความร่วมมือระหว่างสปป.ลาว เมื่อวันที่ 28-30 พ.ย.2566 กรมตำรวจสกัดกั้นและต้านยาเสพติด สปป.ลาว ได้ยึดยาบ้า 14,850,000 เม็ด ที่นครเวียงจันทร์ เตรียมนำส่งข้ามชายแดนเข้าไทยทางด้านจังหวัดหนองคาย และจับผู้ต้องหา 5 คน โดยเป็นชาวลาว 4 คนและชาวไทย 1 คน
จับยาบ้า 14 ล้านเม็ด เตรียมส่งเข้าไทย
และขณะนี้ทั้งสองหน่วยงานกำลังร่วมมือกันสืบสวนเพื่อขยายผลจับผู้อยู่เบื้องหลังการกระทำผิดในครั้งนี้ ซึ่งเชื่อว่าอีกไม่นานจะสามารถจับกุมได้และจะแถลงความคืบหน้าให้ทราบ
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า นโยบายของรัฐบาลที่จะลดปัญหายาเสพติดให้ได้เป็นรูปธรรรมในเวลา 1 ปี ที่เน้นให้มีการยกระดับความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกประเทศ ในการป้องกันและปราบปรามนักค้ายาเสพติด
จับยาบ้า 14 ล้านเม็ด เตรียมส่งเข้าไทย
ความจริงที่ว่าในไทยไม่มีแหล่งผลิตยาเสพติด แต่จะถูกนำเข้ามาจากแหล่งผลิตในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งพบว่านอกจากขบวนการค้าจะลักลอบนำเข้าทางชายแดนภาคเหนือแล้ว ยังลักลอบนำเข้าทางชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพิ่มมากขึ้น
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวอีกว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้ให้ ป.ป.ส. เสนอที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ใช้อำนาจตามมาตรา 5 (10) ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 กำหนดพื้นที่ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
จับยาบ้า 14 ล้านเม็ด เตรียมส่งเข้าไทย
โดยกำหนดให้พื้นที่ ภาคเหนือ 11 อำเภอ ในจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 อำเภอ ในจังหวัดนครพนม เป็นพื้นที่ปฏิบัติการเพื่อการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น
และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บูรณาการหน่วยงานในพื้นที่เข้าร่วมแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ดังกล่าวที่มีข้อมูลบ่งชี้ว่ามีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้าไทยจำนวนมากมาอย่างต่อเนื่อง
แม้ ป.ป.ส. และหน่วยงานภาคีจะร่วมมือกันในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดไม่ถูกนำเข้ามาในประเทศ แต่การป้องกันและแก้ไขปัญหา ส่วนสำคัญขึ้นอยู่กับประชาชนที่จะต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตาด้วย