เมื่อวันที่ 3 ม.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.00 น. เกิดเหตุระทึกบ้านทาวน์เฮ้าส์ 4 หลังที่หมู่บ้านพักครูสารสาสน์ หมู่ที่ 4 ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ทรุดตัวลงได้รับความเสียหาย
เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบว่ามีบ้านทรุดตัวถึง 4 หลัง ลักษณะเป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ปลูกติดกัน 50 หลัง แบ่งเป็น 2 ฝั่งๆ ละ 25 หลัง โดยหลังบ้าน พบว่า ห้องครัว ห้องน้ำ พังลงมา ส่วนหน้าบ้านกำแพงบ้าน หน้าต่าง มีรอยแตก แยกออกจากกันจนเอียง ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือสูญหาย เนื่องจากเจ้าของบ้านหนีออกมาได้ทัน
รอยแตกบริเวณผนังบ้านหลังทรุดตัว
รอยแตกบริเวณผนังบ้านหลังทรุดตัว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านคลองสวน ปิดกั้นที่เกิดเหตุ ห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเจ้าของบ้าน เข้าไปในบ้าน เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย หากการทรุดตัวขยายวงเพิ่มขึ้น
นายเล็ก ต้นสน เจ้าของบ้านที่ทรุดตัว เล่าว่า ซื้อบ้านจากเจ้าของเดิม เมื่อ 20 ปีก่อน โดยพักอาศัยอยู่เพียงลำพัง เนื่องจากภรรยาและลูก แยกตัวไปซื้อบ้านอยู่อีกหลังโดย 3 เดือนก่อนหน้านี้ เริ่มได้ยินเสียงปูนลั่นจากบ้านที่อยู่ติดกัน แต่ไม่มีผู้พักอาศัย และยังไม่มีผลกระทบ จึงนิ่งเฉย
กระทั่งช่วงค่ำวานนี้ ขณะนั่งดูทีวีอยู่ชั้นล่างได้ยินเสียงปูนลั่นอีก ครั้งนี้เป็นบ้านของตนเอง จึงเดินสำรวจพบว่าปูนหลังบ้านเริ่มหล่นตกลงมา เพื่อนบ้านจึงตะโกนเรียกให้รีบหนีออกมา
เสียงปูนลั่นก็เกิดขึ้นต่อเนื่อง จึงรีบกระโดดออกทางหน้าต่าง หนีออกมาด้านนอก ได้รับบาดเจ็บข้อเท้าขวาแพลง นึกขึ้นได้ว่าลืมโทรศัพท์ จึงวิ่งกลับเข้าไปเอา โชคดีที่ตัวบ้านไม่ถล่มลงมา
นายเล็ก ต้นสน เจ้าของบ้านที่ทรุดตัว เล่านาทีหนีตายกระโดดหน้าต่างหนี
นายเล็ก ต้นสน เจ้าของบ้านที่ทรุดตัว เล่านาทีหนีตายกระโดดหน้าต่างหนี
ห้ามเข้าใกล้บ้าน-ห่วงทรุดเพิ่ม
ด้านนายพินิจ เติมบุญ นายกอบต.บ้านคลองสวน กล่าวว่า เบื้องต้นประกาศให้จุดเกิดเหตุเป็นพื้นที่อันตราย ปิดกั้นห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเจ้าของบ้าน เข้าไป เพื่อความปลอดภัย พร้อมประสานตำรวจภูธรบ้านคลองสวน เข้ามาอำนวยความสะดวก ป้องกันมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามา
โดยช่วงวันนี้จะประสาน โยธาธิการจังหวัดสมุทรปราการ และผู้เกี่ยวข้อง เร่งเข้าตรวจสอบโดยเร็ว เพื่อป้องกันเหตุซ้ำซ้อน อีกทั้งจัดตั้งจุดลงทะเบียนเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ตามเงื่อนไขของทางราชการ
วิศวกรรมสถาน คาดฐานล่างบ้านทรุด
ดร.ธเนศ วีระศิริ ที่ปรึกษา วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ เข้าสำรวจจุดเกิดเหตุ เบื้องต้นสันนิษฐานสาเหตุคาดว่าน่าจะเกิดจากฐานล่างของตัวบ้าน เกิดการทรุดตัว
โดยช่วงสายวันนี้ จะนำอุปกรณ์มาตรวจสอบระดับการทรุดตัวของตัวบ้านว่า มีโอกาสจะทรุดตัวเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ ซึ่งได้เน้นย้ำห้ามไม่ให้เจ้าของบ้านเข้าไปในตัวบ้านโดยเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัย
วิศวกรรมสถาน เข้าตรวจสอบเบื้องต้นคาดฐานรากบ้านทรุด
วิศวกรรมสถาน เข้าตรวจสอบเบื้องต้นคาดฐานรากบ้านทรุด
แนวโน้มเสี่ยงทรุดขยายวงกว้าง
ล่าสุด นายธเนศ ระบุความคืบหน้า เหตุบ้านทรุดใน จ.สมุทรปราการ หลังพบว่ามีบ้าน 3 หลัง ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เกิดการทรุดตัวเป็นเหตุให้บ้านที่อยู่ติดกันอีกหนึ่งหลังได้รับผลกระทบไปด้วยรวมเป็น 4 หลังเนื่องจากหมู่บ้านเป็นลักษณะทาวน์เฮาส์ ทำให้โครงสร้างทั้งหมดเชื่อมต่อกัน
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นคาดว่า มาจากการทรุดตัวของฐานราก ซึ่งอาจจะมาจากการที่ฐานรากหลุดจากหัวเข็ม หรือเสาเข็มยาวไม่เพียงพอ ที่บริเวณบ้าน 3 หลัง ด้านริม ส่วนหลังที่ 4 ซึ่งตั้งติดกันแม้จะยังไม่เกิดการทรุดตัว แต่เจ้าหน้าที่ก็ต้องให้เจ้าของบ้านอพยพออกมาเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะเกิดการทรุดตัวเพิ่มขึ้น ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้มีการนำเครื่องมือ เช่น กล้องระดับ เข้าไปตรวจวัดค่าการทรุดตัว ว่ามีการขยับในอัตราการทรุดตัวที่เท่าใด
ขณะที่แนวโน้มการทรุดตัวของอาคารมีโอกาสทรุดตัวมากขึ้นหรือต่อเนื่องไปยังบ้านหลังอื่น ๆ ที่อยู่ในแนวเดียวกันหรือไม่ ที่ปรึกษาสภาวิศวกรรม ระบุว่า ส่วนนี้ต้องรอการตรวจสอบอย่างละเอียด ด้วยกล้องและเครื่องมือทางวิศวกรรม โดยจะต้องอาศัยการคำนวณค่าการทรุดตัวว่ามีทั้งหมดกี่ฐาน หรือตัวฐานรากหลุดจากหัวเข็มหรือไม่หากหลุดจากหัวเข็มการทรุดตัวจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปอีกระยะเวลาหนึ่ง
ส่วนตัวมองว่ามีแนวโน้มจะเกิดการทรุดตัวของบ้านในละแวกเดียวกัน แต่ความชัดเจน หรือแม่นยำต้องรอผลการตรวจสอบซึ่งจะใช้ ระยะเวลา 2-3 วัน โดยปัจจุบันยังไม่อนุญาตให้เจ้าของบ้านเข้าพื้นที่ไปเก็บของเนื่องจากยังถือเป็นพื้นที่อันตราย ประกอบกับเมื่อช่วงคืนที่ผ่านมายังพบเสียงลั่นของตัวอาคารอย่างต่อเนื่อง
จากการตรวจสอบพบว่า บ้านทั้งหมดถูกสร้างมาหลายปีแล้ว จึงมีข้อสังเกตว่าเหตุใดจึงอยู่มาได้ในระยะเวลานานโดยไม่เกิดปัญหา
เบื้องต้นยอมรับว่า การจะซ่อมแซมค่อนข้างเป็นไปได้ยาก จึงขึ้นอยู่กับเจ้าของอาคารว่าจะมีการประสานวิศวกรส่วนตัว ให้เข้ามาวิเคราะห์พื้นที่ เพื่อปรับปรุงแก้ไขหรือไม่ แต่ส่วนตัวมองว่า ที่ดินตรงจุดดังกล่าว ค่อนข้างทรุดตัวลงไปเยอะ ส่วนหลังอื่น ๆ ในบริเวณเดียวกันควรมีการตรวจสอบสภาพอาคาร เพื่อยืนยันความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย
อ่านข่าวอื่นๆ
"ครูมานิตย์" พร้อมทำหน้าที่องครักษ์พิทักษ์ "ทักษิณ" หลังถูกพาดพิงในสภาฯ
อัปเดต "แร้งดำหิมาลัย" ไม่บาดเจ็บแต่อ่อนแรง เร่งสร้างกล้ามเนื้อ