รถกระบะทำสารเคมีรั่วไหล จ.สมุทรปราการ จนท.เร่งควบคุมสถานการณ์

วันนี้ (4 ม.ค.2567) เวลาประมาณ 19.00 น.ที่ผ่านมา เพจ "ข่าวสารเมืองปราการ v2" รายงานว่า เกิดเหตุรถกระบะบรรทุกถัง 200 ลิตรทำสารเคมีรั่วไหล ในพื้นที่ซอยพรสว่าง 12 ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ เบื้องต้นมีรายงานว่า เป็นสารเคมีที่ใช้กำจัดศัตรูพืช โดยมีกลุ่มควันลอยกระจายทั่วบริเวณ และมีกลิ่นค่อนข้างรุนแรง

อ่านข่าว : EBM คาดเหตุเบ้าลูกปืนล้อแตก ทำล้อรถไฟฟ้าสายสีเหลืองหล่น 

ขณะที่คนขับรถกระบะบรรทุกถังสารเคมีดังกล่าวแจ้งเบื้องต้นว่า เป็นสารเคมีอันตราย เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างควบคุมสถานการณ์ 

ทั้งนี้ หากยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อาจต้องอพยพชาวบ้านในพื้นที่ออกไปอยู่ในที่ปลอดภัย เพราะหากสูดดมอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ขณะเดียวกันมีการประสานผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่กู้ภัยจากหลายหน่วยเข้าช่วยระงับเหตุ 

ด้านเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกรุงเทพฯ ให้ข้อมูลว่า สารเคมีดังกล่าวเป็นสารเคมีอันตราย การเก็บกู้เบื้องต้นได้วางแผนทำบ่อทรายและเทสารเคมีลงไป ก่อนจะเก็บกู้ทีละนิด

เวลา 20.55 น. พบว่า เจ้าหน้าที่ยังคงอยู่ระหว่างควบคุมควันจากสารเคมีที่ยังคงฟุ้งกระจายออกจากถังขนาด 200 ลิตร พร้อมวางแผนเพื่อที่จะควบคุมสารเคมีให้ได้ รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่เริ่มอพยพ 

เจ้าของสารเคมี ได้เดินทางมายังพื้นที่เกิดเหตุแล้ว ล่าสุดเจ้าหน้าที่เตรียมที่จะเคลื่อนย้ายถังสารเคมีออกจากพื้นที่เพื่อนำไปกำจัดด้านนอกห่างจากชุมชน ขณะที่สาเหตุที่ควันไฟพวยพุ่ง เพราะมีการใช้น้ำดับทำให้สารเคมีปะทุ

น.ส.ปรีญาพร สุวรรณเกตุ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า ทราบเรื่องสารเคมีรั่วไหลไฟไหม้กลางชุมชนในพื้นที่ จ.สมุทรปราการแล้ว "อลูมิเนียมฟอสไฟด์" หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า "ฟอสฟีน" เป็นสารใช้ในการกำจัดแมลง ถือว่ามีความเป็นพิษ

การป้องกันเบื้องต้นต้องใส่หน้ากากป้องกันสารพิษ อย่าสัมผัสโดยตรง และต้องดูว่าควันไฟฟุ้งกระจายไปมาก-น้อยแค่ไหน ส่วนการเคลื่อนย้ายถังและปล่อยให้ระเหยด้วยตัวเองอาจไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง

เวลา 21.35 น. เจ้าหน้าที่ควบคุมกลุ่มควันที่ฟุ้งกระจายในพื้นที่ตลอด 2 ชม.ที่ผ่านมาได้แล้ว และอยู่ระหว่างการนำสารเคมีดังกล่าวไปกำจัดอย่างเหมาะสม

ขณะที่อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ระบุว่า หลังจากเจ้าหน้าที่นำทรายดับกลุ่มควันจากไฟไหม้ถือเป็นวิธีการที่ถูกต้อง หลังจากนี้ต้องนำทรายที่ปนเปื้อนสารเคมีไปกำจัดอย่างถูกวิธี

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องไม่ควรเข้าใกล้กลุ่มควันหรือในรัศมีที่มีการปฏิบัติงาน เพราะอาจเสี่ยงสูดดมควันพิษ โดยกลุ่มควบคุมส่งทีมเข้าตรวจสอบอีกครั้งเพื่อวัดค่ามลพิษและมอนิเตอร์ปัญหา 

ล่าสุดเวลา 21.55 น. เจ้าหน้าที่สามารถดับกลุ่มควันจากสารเคมีรั่วไหลที่ฟุ้งกระจายในพื้นที่ซอยพรสว่าง 12 ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ ได้แล้ว

อ่านข่าว : ระทึก! ล้อรถไฟฟ้าสายสีเหลืองตกใส่แท็กซี่เสียหาย