ภรรยา "บิ๊กกรมการข้าว" อ้างถูกขู่รีดเงิน สู้ปกป้องศักดิ์ศรี

จากกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา นายเจ๋ง ดอกจิก และน.ส.พิมณัฏฐา ได้รับการประกันตัววงเงินประกันคนละ 400,000 บาท หลังถูกซ้อนแผนจับข้อหาข่มขู่เรียกเงินอธิบดีกรมการข้าว

เมื่อวันที่ 27 ม.ค.2567  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันนายศรีสุวรรณ ยังเก็บตัวเงียบในบ้านพัก ระหว่างวัน มีชายสูงวัย ขับรถยนต์มาจอดแล้วเดินนำไปต้นไม้ใส่ถุงไปไว้แขวนไว้ที่ประตูบ้าน พร้อมเขียนข้อความให้กำลังใจนายศรีสุวรรณ เพราะรู้จักกัน และเอาของมาฝาก

เหตุการณ์วันตำรวจหลายหน่วยงานเข้าซ้อนแผนจับที่บ้านนายศรีสุวรรณ

ส่วน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ยืนยันว่า มีพยานหลักฐานที่เห็นความสัมพันธ์ของผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 คนอย่างชัดเจน นำไปสู่การขอหมายจับ ทั้งพยานหลักฐานเส้นเงิน คลิปเสียง รวมถึงพยานหลักฐานอื่นๆ ตอนนี้อยู่ระหว่างการขยายผล

ซึ่งจากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทั้ง 3 คน และยังไม่ขอให้รายละเอียดอะไรมาก โดยจะขอกลับไปทำคำชี้แจงโดยละเอียดมาส่งให้ภายหลัง ซึ่งตามหลักการประมาณ 15 วัน

ตำรวจมีพยานหลักฐานแน่นหนาในการออกข้อหาร่วมกันเรียกรับเงิน ตอนนี้อยู่ระหว่างขยายผลสอบว่ามีคนอื่นร่วมด้วยหรือไม่ ต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ทำงานก่อน

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

อ่านข่าว ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนจับ “ศรีสุวรรณ” เรียกรับ 1.5 ล้าน “อธิบดีกรมการข้าว” แลกไม่ยื่นร้องเรียน

ภรรยาบิ๊กกรมการข้าว อ้างถูกข่มขู่มาตลอด

ด้านนางธัญญรัตน์ ไชยศิริคุณากร ภรรยาอธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า ตั้งแต่สามีรับตำแหน่งอธิบดีกรมการข้าว ก็ถูกกลุ่มผู้ต้องหาร้องเรียนมาโดยตลอด ทั้งที่เคยชี้แจงไปแล้วว่า ไม่เป็นความจริง แต่ผู้ต้องหายังพยายามเกลี้ยกล่อมให้ยอมจ่ายเงิน แลกกับการยุติการร้องเรียนเช่นเดิม

มีข้อมูลว่า นางธัญญรัตน์ มีหลักฐานเป็นคลิป การเจรจาเรียกเงินพยายามให้จ่ายเงิน โดยผู้ต้องหาพยายามให้เหตุผลว่า ถึงจะไม่เป็นเรื่องจริง แต่กว่าจะตรวจสอบพิสูจน์ความจริงได้ ต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 ปี ถึงตอนนั้นก็กลายเป็นข่าวเผยแพร่ตามสื่อ ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ถ้ายอมทุกอย่างเรื่องก็จะได้จบ

นายศรีสุวรรณ จรรยา หลังถูกจับและได้รับการประกันตัววงเงิน 400,000 บาท

นางธัญญรัตน์ เชื่อว่า นอกจากสามีแล้วน่าจะยังมีบุคคลอื่นถูกกระทำในลักษณะเช่นเดียวกัน ส่วนคำถามที่สังคมสงสัยว่า ถ้าไม่ผิดจริงแล้วจ่ายเงินทำไม นางธัญญรัตน์ ชี้แจงว่า

ตอนแรก ก็เป็นทุกข์มาก แต่เมื่อฉุกคิดได้ว่า เมื่อไม่ผิดทำไมไม่ลุกขึ้นมาสู้ปกป้องศักดิ์ศรีตัวเอง หรือสู้ให้คนอื่นรู้ว่าความจริง

"สมชัย" ชี้ปมโครงการกรมการข้าวที่มาแผนข่มขู่

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตเลขา กกต.โพสต์เฟชบุ๊ก สมชัย ศรีสุทธิยากรข้อความพร้อมเอกสาร ระบุว่า นายศรีสุวรรณ ร้องอะไร พร้อมอธิบายว่า ประเด็นที่นายศรีสุวรรณ ร้องให้มีการตรวจสอบคือการใช้งบกรมการข้าว 19,609 ล้านบาท

มีรายการหลักคือโครงการสนับสนุนลดต้นทุนการผลิตด้านการเกษตรสำหรับ เกษตรกรผู้ปลูกข้าว 15,260 ล้านบาท

ซึ่งรายการดังกล่าว นายสมชัย เคยตั้งข้อสังเกตในการประชุม กมธ.งบประมาณ 2566 ว่า เป็นงบที่เพิ่มมาแบบผิดปกติ เป็นการจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการเกษตรให้แก่ศูนย์ข้าวชุมชน 5,000 แห่งๆ ละ 3 ล้านบาท ทั้ง ๆ ที่ศูนย์ข้าวชุมชนในขณะนั้นมีเพียง 2,400 แห่งเศษ และที่เข้มแข็งจริงมีไม่ถึง 1,000 แห่ง

อ่านข่าว

"ศรีสุวรรณ" พร้อม "เจ๋ง ดอกจิก-พิมณัฏฐา" ได้ประกันตัว ยันไม่ได้รีดเงิน

 

รายการดังกล่าวจึงถูกยกเลิก และโอนไปให้กระทรวงพาณิชย์ เพื่อสมทบเงินช่วยเหลือชาวนารายย่อย ไร่ละ 1,000 บาท ตามมติ ครม. 15 พฤศจิกายน 2665 แทน

กรมการข้าว จึงได้จ่ายเงิน 15,225 ล้านบาทให้ ธกส. เพื่อไปแจกจ่ายชาวนา เท่ากับ กรมการข้าว มีแค่ตัวเลขงบประมาณ แต่เงินถูกไปบริหารโดย ธกส. ดังนั้น อธิบดีกรมการข้าวจึงไม่รู้สึกว่า ทำไมตนต้องเดือดร้อน จึงเป็นที่มาของการวางแผนจับกุม

นายมานะ นิมิตมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน
ด้าน เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน(ประเทศไทย) สะท้อนว่า ที่ผ่านมาประชาชนมักจะพบเห็นการคอร์รัปชันในระบบราชการไทย หรือนักการเมือง เมื่อมีภาคประชาชน หรือบุคคลที่มีชื่อเสียง มีตำแหน่ง ออกมาเคลื่อนไหว ก็ไว้ใจ แต่คนกลุ่มนี้ไม่ควรใช้ช่องว่างการมีชื่อเสียง หาผลประโยชน์

กลไกสำคัญ ที่จะตัดวงจร ทำลายต้นตอการคอร์รัปชันได้คือ หน่วยงานภาครัฐ ควรเปิดเผยข้อมูลเพื่อความโปร่งใส และต้องหลีกเลี่ยงการเจรจาลับหลัง กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

มานะ นิมิตมงคล/ เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน