เมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.2567) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง โพสต์เฟซบุ๊ก หลังการเดินทางไปประเทศศรีลังกา และร่วมลงนามความตกลงการค้าเสรีไทย – ศรีลังกา (Thailand - Sri Lanka Free Trade Agreement)โดยระบุว่า ไทย และศรีลังกามีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดผ่านพื้นฐานทางพระพุทธศาสนามายาวนาน และการลงนามความตกลงการค้าเสรีของเรา 2 ประเทศวันนี้ เป็นการลงนามฉบับแรกของรัฐบาลชุดนี้ และเป็นฉบับที่ 2 ของไทยในภูมิภาคเอเชียใต้ โดยไทยสามารถใช้ประโยชน์จาก FTA กับศรีลังกาไปยังตลาดอื่นในเอเชียใต้ ขณะที่ศรีลังกาก็สามารถใช้ไทยไปยังประเทศอื่นในอาเซียนเช่นกัน
อ่านข่าว : "เศรษฐา" เยือนศรีลังกาลงนาม FTA ฉบับแรก 3-4 ก.พ.
มีบริษัทไทยจำนวนมากครับที่เข้ามาดำเนินธุรกิจในศรีลังกา นี่คือโอกาสของเอกชนไทยที่จะใช้ประโยชน์จากโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานที่กำลังเติบโตของศรีลังกา และความได้เปรียบทางภาษีในตลาดต่างประเทศ และการเชื่อมโยงทางทะเล ไทยและศรีลังกาจะจับมือกันให้แน่นขึ้นกว่าเดิม เพื่อผลักดันการค้าการลงทุนระหว่างสองประเทศ ประเทศไทยจะเป็นประตูสู่อาเซียนให้กับศรีลังกา ในขณะที่ศรีลังกาจะเป็นยุทธศาสตร์สำคัญให้ไทยเชื่อมโยงไปยังเอเชียใต้
ทั้งนี้ การลงนามข้อตกลงการค้าเสรี FTA ซึ่งครอบคลุมเรื่องอัญมณี ซึ่งมี MOU ด้านความร่วมมือการวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับซึ่งจะส่งผลดีต่อทั้ง 2 ประเทศ
นอกจากนี้ ยังมีการลงนามความตกลงด้านบริการการเดินอากาศระหว่างกัน และผลักดันการยกเว้น Visa ให้ชาวไทย-ศรีลังกา เดินทางไปมาได้สะดวกขึ้น ซึ่งจะเป็นแรงส่งให้การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวของทั้ง 2 ประเทศพัฒนาไปได้เร็วขึ้นด้วย
บริษัทการบินไทยจะเริ่มเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-โคลัมโบ ในวันที่ 31 มี.ค.2567 นี้ และไทยยินดีสนับสนุนการพัฒนาการประมงของศรีลังกาที่มุ่งสู่ความทันสมัย เพิ่มความร่วมมือด้านพลังงานสะอาดและจะจับมือกันเพิ่มศักยภาพด้านการเดินทะเล ความมั่นคงทางทะเล และการป้องกันประเทศด้วย
อ่านข่าวอื่น ๆ
“ภูมิธรรม” บินลัดฟ้าลงนาม FTA ไทย – ศรีลังกา ดันการค้า 2 ฝ่าย