อ่าน : เปิด 8 เมนูอาหารมงคล ต้องกินใน "วันตรุษจีน"
ตรุษจีน 2567 ตรงกับวันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันที่ 1 เดือน 1 ตามปฏิทินจีน เป็นวันแรกของฤดูใบไม้ผลิ ถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ หรือ วันตรุษจีน โดยในช่วงเทศกาลตรุษจีนของไทยจะมีสิ่งที่ปฏิบัติกัน คือ วันจ่าย วันไหว้ และวันเที่ยว โดย "วันไหว้" ซึ่งถือเป็นวันสิ้นปีเก่า ปีนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ 9 ก.พ. มีการทำพิธิอะไรบ้าง การจัดโต๊ะ - ของไหว้ตรุษจีน ที่ต้องมี
อ่าน : เฮงรับปีมะโรง เปิดประวัติ "ตรุษจีน" ปี 2567 ความสำคัญ - พิธีไหว้
ช่วงเวลา - ขั้นตอนการไหว้ "ตรุษจีน 2567"
วันตรุษจีน ถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีนทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทย โดยมีกิจกรรมการตั้งโต๊ะสักการะบรรพบุรุษ และเทพเจ้า โดยสามารถแยกการตั้งโต๊ะไหว้ตรุษจีน 2567 เป็น 4 ช่วง ดังนี้
เริ่มจากช่วงเช้า เวลา 06.00 - 07.00 น. จะทำการไหว้เทพยาดา ฟ้า ดิน และไหว้เจ้าที่เจ้าทาง คือ "ตี่จู๋เอี๊ยะ" และเทพเจ้าที่ชาวจีนนับถือ โดยตั้งโต๊ะไหว้เตรียมของไหว้ ซาแซ เช่น เป็ด หมู ไก่
เวลา 10.00-11.00 น. "ไหว้บรรพบุรุษ" จะไหว้บรรพบุรุษด้วยเนื้อสัตว์ กับข้าว ขนมหวาน ผลไม้ เครื่องดื่ม รวมถึงการเผากระดาษเงิน กระดาษทอง และเสื้อกระดาษกงเต๊กให้กับบรรพบุรุษ
หลังจากไหว้บรรพบุรุษเสร็จแล้ว เมื่อธูปดับจนหมด ก็จะเริ่มนำของไหว้มาทานร่วมกันทั้งครอบครัว
ต่อมาก็ไหว้ผีไม่มีญาติ หรือเรียกว่า "ฮอเตียตี้" ในเวลา 14.00 - 16.00 น. จะไหว้ด้วยข้าวสวย กับข้าว และขนมหวาน เช่น ขนมเข่ง ขนมเทียน และกระดาษเงินกระดาษทอง เมื่อไหว้เสร็จแล้วให้จุดประทัด เพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกไป ซึ่งการไหว้ผีไม่มีญาติบางบ้านก็ไหว้เป็นปกติทุกปี บางบ้านก็ไม่นิยมไหว้
ช่วงสุดท้ายของพิธีไหว้ คือ การไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภ เวลา 23.00 - 01.00 น. ของคืนวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อเป็นการขอโชคลาภจาก "เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย" ที่ลงมา ซึ่งเกิดขึ้นปีละครั้ง
และของไหว้ควรมี น้ำชา 5 ถ้วย ขนมอี๊ (สาคูแดงต้มสุก) 5 ถ้วย ผลไม้มงคล 5 อย่าง เจไฉ่ (อาหารเจ) 5 ชนิด ขนมจันอับ 1 จาน และกระดาษเงินกระดาษทอง
อ่าน : รู้ไหม? ตรุษจีนไม่ได้ฉลองแค่ "วันจ่าย-ไหว้-เที่ยว"
ผลไม้ที่ใช้ไหว้ตรุษจีน ส้ม องุ่น สับปะรด กล้วย
การจัดโต๊ะ - ของไหว้ตรุษจีน
การจัดโต๊ะไหว้ตรุษจีน
การจัดโต๊ะไหว้ตรุษจีน แต่ละบ้านอาจจะจัดวางไม่เหมือนกัน โดยอาจจัดวาง ดังนี้
จุดที่ 1 : วางโต๊ะไหว้ไว้ด้านหน้าเทวรูปหรือแท่นบูชา
จุดที่ 2 : วางกระถางธูปไว้หน้าเทวรูปหรือแท่นบูชา
จุดที่ 3 : วางเชิงเทียนและแจกันดอกไม้ ขนาบทั้งข้างซ้ายและขวาของกระถางธูป
จุดที่ 4 : วางชามข้าวสวยพร้อมช้อนและตะเกียบ
จุดที่ 5 : วางถ้วยน้ำชาหรือถ้วยเหล้าจีน
จุดที่ 6 : วางถ้วยน้ำดื่ม
จุดที่ 7 : วางเนื้อสัตว์และเมนูอาหาร
จุดที่ 8 : วางขนมหวาน ขนมมงคล และผลไม้
จุดที่ 9 : วางเครื่องไหว้อื่น ๆ พวกกระดาษเงิน, กระดาษทอง, เสื้อผ้ากระดาษกงเต็ก, ใบเบิกทางบรรพบุรุษให้มารับของไหว้ (อ่วงแซจี๊) และแบงก์กงเต็ก (อิมกังจัวยี่)
จัดโต๊ะไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย
จุดที่ 1 : รูปภาพ/รูปปั้นองค์ไฉ่ซิงเอี้ย
จุดที่ 2 : เชิงเทียนและแจกันดอกไม้ อย่างละ 1 คู่
จุดที่ 3 : กระถางธูป 1 ใบ
จุดที่ 4 : ถ้วยน้ำชา 5 ถ้วย
จุดที่ 5 : ขนมอี๊ (สาคูแดงต้มสุก) 5 ถ้วย
จุดที่ 6 : ผลไม้มงคล และ เจไฉ่ (อาหารเจ เช่น เห็ดหอม เห็ดหูหนู ดอกไม้จีน วุ้นเส้น ฟองเต้าหู้) อย่างละ 5 อย่าง รวมถึงขนมจันอับ 1 จาน
จุดที่ 7 : กระดาษเงินกระดาษทอง
การจัดของไหว้
หากจัดใหญ่ นิยมเป็นตัวเลข 5 คือ มีของคาว 5 อย่าง เรียกว่า "โหงวแซ" ประกอบด้วย หมู ไก่ ตับ ปลา และกุ้งมังกร แต่เนื่องจากกุ้งมังกร นั้นแพงและหาไม่ง่าย จึงนิยมไหว้ "เป็ด" หรือ "ปลาหมึกแห้ง" แทน
ส่วนของหวาน 5 อย่าง เรียกว่า "โหงวเปี้ย" อาจเป็น ซาลาเปาไส้หวาน ขนมไข่ ขนมถ้วยฟู ขนม กุ่ยช่าย และขนมจันอับ ผลไม้ 5 อย่าง เรียกว่า "โหงวก้วย"
หากจัดเล็ก ก็เป็นชุดละ 3 อย่าง มีของคาว 3 อย่าง เรียกว่า "ซาแซ" ของหวาน 3 อย่าง เรียกว่า "ซาเปี้ย" ผลไม้ 3 อย่าง เรียกว่า "ซาก้วย" หรือจะมีเพียงแค่อย่างเดียวก็ได้
ไหว้ตรุษจีน ใช้ธูปกี่ดอก
1. ไหว้เทพเจ้า รวมถึงเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย : ใช้ธูป 3 ดอก
2. ไหว้บรรพบุรุษ : ใช้ธูป 3 ดอก
3. ไหว้สัมภเวสี ผีไร้ญาติ : ใช้ธูป 1 ดอก
อ่าน : ปักหมุดเที่ยว "ตรุษจีน 2567" ปีนี้ที่ไหน มีไฮไลท์อะไรบ้าง
ผลไม้ที่ใช้ไหว้ตรุษจีน
จะนิยมเลือกชนิดที่มีความหมายเป็นมงคลอยู่ในตัว
- ส้ม หมายถึง มีความสุข เรียกว่า "ไต้กิก" แปลว่า โชคดี
- องุ่น เรียกว่า "พู่ท้อ" แปลว่า งอกงาม
- สับปะรด เรียกว่า "อั้งไล้" มีโชคมาหา
- กล้วย หมายถึง การมีลูกมีหลานสืบสกุล
ที่ในกระถางธูปที่ใช้ไหว้เจ้า บางคนนิยมใส่ "โหงวจี้" สำหรับปักธูป ประกอบด้วย เมล็ด 5 อย่าง คือ ข้าวสาร ข้าวเหนียว ถั่วเขียว ถั่วดำ และเชื้อแป้ง (ยีสต์) โดยถือว่าเมล็ดทั้ง 5 คือ บ่อเกิดของการเจริญ รุ่งเรืองเติบโต อุปมาอุปไมยให้การไหว้เจ้านี้นำมาซึ่ง ความเจริญรุ่งเรือง
แต่การใช้โหงวจี้ปักธูป มีข้อจำกัดว่าใช้ได้ แต่ในบ้าน ถ้าเป็นการไหว้นอกบ้าน ต้องใช้ข้าวสาร หรือทราย มิฉะนั้นเชื้อแป้งเมื่อถูกความชื้น เช่น ฝน หรือน้ำค้าง จะทำให้แข็งตัวแล้วปักธูปไม่ลง
เมื่อไหว้เจ้าเสร็จก็เผากระดาษเงิน กระดาษทอง เป็นการปิดท้ายรายการ
หลังจากสิ้นสุดวันที่ 9 ก.พ.2567 จะเป็นวันขึ้นปีใหม่ หรือ วันตรุษจีน 2567 ของชาวจีนทั่วโลกรวมถึงคนไทยเชื้อสายจีน ซึ่งตรงกับวันที่ 10 ก.พ. โดยในวันนี้จะมีการ แต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีสันสดใส และพากันออกไปท่องเที่ยวกับคนในครอบครัว
คำลาของไหว้ตรุษจีน
เมื่อธูปหมดดอกให้ดับเทียน และใช้มือจับที่พานหรือภาชนะ แล้วกล่าวคำลาว่า "ขอแดนขอชานให้ลูกให้หลานกิน เพื่อความเป็นสิริมงคล" หรือบางบ้านจะกล่าวว่า "ขอเดนขอทานให้ลูกหลานได้กิน เพื่อความเป็นสิริมงคล"
หรือ การตั้งจิต ประนมมือ ตั้งนะโม 3 จบ แล้วพูดว่า "เสสัง มังคะลา ยาจามิ" ลูกขอส่วนที่เหลืออันเป็นมงคล เพื่อยังประโยชน์เพื่อความสุขความเจริญแก่ลูกด้วยเถิด
อ่านข่าวอื่น ๆ
ส่งท้ายปีใหม่จีน "เทศกาลโคมไฟ" และชื่อเรียกวันตรุษจีนแต่ละประเทศ
"สารทจีน - เช็งเม้ง - ตรุษจีน" มีความหมายและสำคัญอย่างไร
วันหยุดกุมภาพันธ์ 2567 : วันสำคัญ วันหยุดยาว เช็กให้ชัวร์ก่อนวางแพลนท่องเที่ยว