ผบ.ตร.เชื่อ 14 นศ.ได้ปรับทัศนคติ-ยันไม่ส่งสันติบาลประกบ
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเชื่อว่ากลุ่ม 14 นักศึกษาขบวนการประชาธิปไตยใหม่ได้ปรับทัศนคติ พร้อมยืนยันไม่ส่งตำรวจสันติบาลตามประกบ ระบุมีคนอยู่เบื้องหลังปลุกปั่นนักศึกษาเป็นเครื่องมือก่อนลอยแพ โดยเตือนให้ห่วงอนาคตและพ่อแม่ รวมทั้งอย่าทำผิดกฎหมายอีก
วันนี้ (8 ก.ค.2558) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่กลุ่ม 14 นักศึกษาขบวนการประชาธิปไตยใหม่รับการปล่อยตัว และยังคงมีความเคลื่อนไหวทางการเมืองว่า ทราบดี และคิดว่าทั้งนักศึกษาและประชาชนทุกคนล้วนทราบดีว่ากฎหมายเป็นอย่างไร การกระทำใดที่ผิดกฎหมายจำเป็นที่เจ้าหน้าที่ของรัฐจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยวิธีการที่จะปฏิบัติและการบังคับใช้กฎหมายกับนักศึกษาหรือผู้กระทำความผิดนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังยึดนโยบายของรัฐบาลว่าปฏิบัติจากเบาไปหาหนัก และปฏิบัติกับประชาด้วยความสุภาพอ่อนโยน หลีกเลี่ยงการใช้กำลังกระทบกระทั่ง ซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาบานปลาย ตร.สนองนโยบายรัฐบาลตลอด
อย่างไรก็ตาม คงไม่ต้องถึงขนาดส่งกำลังตำรวจสันติบาลตามประกบ เชื่อว่านักศึกษามีความเข้าใจ แต่ด้วยความคิด ความคึกคะนองถูกยุแหย่ ปลุกปั่นจึงหลงผิด แต่คิดว่าจะมีการพูดคุยทำความเข้าใจ มีหน่วยงานรัฐเข้าไปพูดคุยทำความเข้าใจแล้ว คนไทยพูดคุยกันได้ ที่สำคัญคือนักศึกษาจำนวนเท่านี้มีความเห็นแตกต่างจากคนไทยกว่า 70 ล้านคน เราไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่คิดกัน ถือว่าการพิจารณาหรือดำเนินการใดๆ ต้องฟังเสียงคนส่วนใหญ่
ทั้งนี้ ความขัดแย้งในอดีตปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจทรุดตัวรอบด้านโดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว แต่เมื่อรัฐบาลนี้เข้ามาบริหารตนกล้าพิสูจน์ได้ว่าธุรกิจท่องเที่ยวดีขึ้นมาก คนไทยต้องพิจารณาว่าจะเอาแบบไหนระหว่าง 1 ปีกว่าที่ผ่านมาที่ดีขึ้นกับย้อนไปก่อนหน้านั้น หากเรามีประชาธิปไตยแล้วทะเลาะกัน มันเกิดประโยชน์กับประเทศชาติหรือไม่ ประชาชนที่ไม่ได้เข้าไปอยู่ในความขัดแย้งเขารับไม่ได้หรอก
ส่วนจะมีผู้อยู่เบื้องหลังนักศึกษากลุ่มนี้หรือไม่ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ไม่อยากให้ร้ายปรามาสความคิดของนักศึกษา เขาอาจมีความคิดเป็นของตัวเองส่วนหนึ่ง แต่บางส่วนบางกลุ่มถูกปลุกปั่น ยุยงให้กระทำในสิ่งไม่ถูกต้อง แต่บุคคลที่อยู่ข้างหลังใช้กุศโลบายยุยงทำให้นักศึกษาทำในสิ่งที่เป็นความผิด เมื่อผิดกฎหมายมีประวัติติดตัวต่อไปไปทำงานลำบาก แต่คนที่อยู่เบื้องหลังเขาไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบอะไรเลย เขาแค่สะใจ ใช้นิสิตนักศึกษาเป็นเครื่องมือ วันข้างหน้าเขาคงไม่มาเหลียวแล พอเขาใช้ประโยชน์สมประโยชน์แล้วก็ไม่กลับมาเหลียวแลอีก นักศึกษาต้องห่วงตัวเอง และครอบครัวพ่อแม่ เพราะว่าในวันข้างหน้าต้องดำเนินชีวิตต่อจะอยู่อย่างไรเมื่อมีประวัติติดตัวเช่นนี้ ต้องฝากวิงวอนไปยังนักศึกษาให้ใคร่ครวญ ไตร่ตรองดีๆ ว่าจะทำอะไร ถ้าเป็นเรื่องการแสดงความคิด ให้แสดงออกอย่างไรก็ได้อย่าให้ผิดกฎหมาย ไปศึกษากฎหมายดีๆ
สำหรับการที่ข้อมูลของตำรวจสอดคล้องกับที่มี สนช.ออกมาระบุว่ามีองค์กรในต่างประเทศอยู่เบื้องหลัง สนับสุนน ให้ข้อมูลที่ผิดแก่กลุ่มนักศึกษาหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่ามีองค์กรต่างประเทศสนับสนุนหรือไม่ แต่การเคลื่อนไหวขององค์กรต่างที่แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ ตนคิดว่าองค์กรเหล่านั้นไม่เข้าใจวิถีชีวิตคนไทย
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ฝรั่งไม่รู้จักนิสัยใจคอคนไทย คนไทยเราทะเลาะกันให้ตายอย่างไรก็ไม่ฆ่าแกงกัน ถ้ารัฐบาลนี้ ถ้า คสช.ไม่เข้ามา ไม่อาจคาดเดาว่าไทยจะเป็นเหมือนอิรัก ซีเรีย หรือประเทศที่รบราฆ่าฟันกันหรือไม่ แต่เราทำแบบไทยๆ กับทำตามความรู้สึกนึกคิดฝรั่งแล้ว เราทะเลาะกันจะเอาแบบไหน คนไทยคิดเป็น ฝรั่งไม่ต้องมาชี้นำคนไทย เพราะคุณไม่ใช่คนไทย หากการชี้นำทำในขอบข่ายของคุณ ไม่ต้องมาชี้ว่าคนไทยต้องทำอย่างไร เราไม่ใช่ทาสฝรั่ง