วันนี้ (8 ก.พ.2567) นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หอการค้าไทยและมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ร่วมหารือและติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจ ล่าสุดที่ประชุม กนง. มีมติเห็นชอบ 5 : 2 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 2.50 ต่อปี เพื่อให้สอดคล้องกับศักยภาพการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ต่ำลง จากปัจจัยเชิงโครง สร้าง ซึ่งหอการค้าฯได้รับทราบเหตุผลประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการฯแล้ว
อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนโดยที่ประชุม กกร. มองว่า แม้ภาพรวมของเศรษฐกิจไทยปีนี้จะฟื้นตัวได้จากปัจจัยหนุนภาคการท่องเที่ยว แต่ก็ยังมีความเปราะบางจากกำลังซื้อภายในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัวตามเต็มที่
ขณะที่ภาคการผลิตยังมีแนวโน้มหดตัว และยังต้องเผชิญปัญหาความเสี่ยงและความท้าทายในประเด็นภูมิรัฐศาสตร์หลายปัจจัย
จากการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในหลายประเทศ ซึ่งอาจทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนทางนโยบายสำคัญ ผลกระทบจากสงครามที่ขยายวงโดยเฉพาะอิสราเอล-ฮามาสที่ส่งผลให้ค่าระวางเรือเพิ่มและกระทบกับราคาพลังงาน ปัญหาความไม่สงบในประเทศเพื่อนบ้าน และการแข่งขันกับสินค้าจีนในประเทศเพื่อนบ้าน
นายสนั่น กล่าวอีกว่า ส่วนภาคธุรกิจก็ถูกกดดัน จากอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับสูง กระทบต้นทุนการดำเนินกิจการโดยตรง ขณะที่การกู้ยืมของประชาชนก็มีภาระหนี้สินที่อยู่ในระดับสูงเช่นกัน ท่ามกลาง ตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปที่ติดลบต่อเนื่อง 4 เดือน คาดว่า น่าจะมาจากการปรับลดเชิงเทคนิคตามนโยบายการลดภาระค่าครองชีพด้านพลังงานของภาครัฐ ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นถึงกำลังซื้อภายในประเทศที่อ่อนแอ
หอการค้าฯมีข้อเสนอแนะว่า ในระยะถัดไป กนง. ควรพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง เพื่อช่วยลดภาระประชาชน ลดต้นทุนผู้ประกอบการ ซึ่งจะส่วนลดความเสี่ยงในการเกิดหนี้เสีย และมีมาตรการใหม่ ๆ ช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการ ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้สะดวก เพื่อช่วยเพิ่มกำลังซื้อภายในประเทศ และเป็นแรงหนุนให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้ตามเป้าหมาย
อ่านข่าวเกี่ยวข้อง:
กนง. มีมติคงดอกเบี้ยนโยบาย 2.50% มีผลทันที