วันนี้ (16 ก.พ.2567) นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า รัฐบาลได้มีนโยบายปราบปรามยาเสพติดทั้งการผลิต การนำเข้า การนำผ่าน และการลักลอบจำหน่าย โดยสั่งให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่อปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มงวดและเร่งด่วน
ล่าสุด เมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ศุลกากรสำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมกับเจ้าหน้าที่กองสืบสวนและปราบปรามได้ตรวจพบผู้โดยสารชาย สัญชาติอเมริกา ลักลอบลำเลียงยาเสพติดออกนอกราชอาณาจักร เดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ปลายทางท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ จึงเข้าตรวจค้น
ผลปรากฏว่า พบยาเสพติดให้โทษ ประเภทที่ 1 เฮโรอีน ซุกซ่อนอยู่ในขวดน้ำหอมภายในกระเป๋าสัมภาระ น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม ประมาณ 1,100 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 3,300,000 บาท โดยชุดปฏิบัติการ AITF จะดำเนินการขยายผลต่อไป
เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังการลักลอบนำเข้าและส่งออกยาเสพติด ปัจจุบันผู้กระทำความผิดมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนวิธีการลักลอบนำเข้าและส่งออกยาเสพติดหลากหลายรูปแบบและลดปริมาณให้น้อยลง เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่
จากการวิเคราะห์ข้อมูลของสถิติการจับกุมยาเสพติดทางอากาศยานในช่วงที่ผ่านมา ตามโครงการสกัดกั้นยาเสพติดทางท่าอากาศยาน (Airport Interdiction Task Force : AITF) หรือ หน่วยสกัดกั้นยาเสพติดทางท่าอากาศยานนานาชาติ ที่ จึงได้เฝ้าระวังการลักลอบนำเข้าและส่งออกยาเสพติดทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ซุกซ่อนมากับพัสดุไปรษณีย์ หรือซุกซ่อนมากับผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาและออกไปนอกประเทศ
โฆษกกรมศุลกากร กล่าวต่ออีกว่า กรณีดังกล่าว เป็นความผิดตามมาตรา 242 และมาตรา 252 ประกอบมาตรา 166 และมาตรา 167 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 และประมวลกฎหมายยาเสพติด สำหรับสถิติการจับกุมยาเสพติด ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (1 ต.ค.2566-15 ก.พ.2567) มีทั้งหมด 59 ราย มูลค่ารวมประมาณ 342,619,580 บาท
อ่านข่าวอื่นๆ:
"ชะตากรรม"ข้าวไทย ในเงื้อมมือรัฐ ขาดทุน หนุน-พัฒนาสายพันธุ์
วอนชาวนางดทำนาปรังรอบ 2 เกษตรฯแนะปลูกพืชทนแล้งทดแทน
"แบงค์ออมสิน" ขานรับแก้หนี้ทั้งระบบ ปล่อยกู้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ