วันนี้ (20 ก.พ.2567) นายธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อให้ข้อมูลกรณีเคยถูกกลุ่มนายศรีสุวรรณ จรรยา และนายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก เรียกรับผลประโยชน์ลักษณะเดียวกับอธิบดีกรมการข้าว โดยนายศรีสุวรรณเคยนำเรื่องโครงการเช่าซื้อกำไล EM ของกรมราชทัณฑ์ มาร้องเรียนกับ รมว.ยุติธรรม เมื่อปี 2566
นายธนกฤต กล่าวว่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ติดต่อตนเองมาให้ข้อมูลประกอบการทำสำนวนคดีขบวนการรีดทรัพย์ เบื้องต้นขอหารือรายละเอียดแนวทางคดีก่อน ส่วนแผนประทุษกรรมมีลักษณะคล้ายกันกับเคสอธิบดีกรมการข้าว แต่ไม่ได้พูดถึงตัวเลขเงิน อย่างไรก็ตามการศึกษาข้อกฎหมายว่าเป็นการ "เรียกรับ" ซึ่งกรณีตนเองเกิดขึ้นในปี 2565 และปี 2567 โดยได้เล่าให้ตำรวจฟังว่ามีเหตุการณ์อะไรบ้าง พร้อมนำพยานเป็นทีมกฎหมาย และคณะทำงานร่วมให้ข้อมูลด้วย
นายธนกฤต กล่าวว่า ตนเองไม่รู้จักกับนายยศวริศมาก่อน กระทั่งช่วงปี 2565 บุคคลดังกล่าวได้โทรศัพท์มาหาเพื่อพูดคุยประเด็นเรื่องส่วนตัว หลังจากนั้นได้ติดต่อขอเข้าพบโดยมาที่ห้องทำงานกระทรวงยุติธรรม ซึ่งปกติเวลาคุย หรือมีคนเข้าพบ ตนเองจะไม่ปิดประตูห้องทำงาน ในวันนั้นทีมงานจึงได้ยินประโยคที่มีการพูดคุยกัน นอกจากนี้ในวันนั้นยังมีอีก 1 บุคคลมาพร้อมกับนายยศวริศ แต่รออยู่ที่จอดรถด้านล่าง โดยยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด ซึ่งจะให้ข้อมูลและหลักฐานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ส่วนสาเหตุที่ไม่ให้ข้อมูลก่อนจะเป็นข่าวนั้น นายธนกฤต กล่าวว่า เนื่องจากตนเองอยู่ในฐานะอดีตเลขานุการ รมว.ยุติธรรม เมื่อมีผู้มาร้องเรียนในประเด็นการทุจริตโครงการกำไล EM โดยมีการยื่นเรื่องให้กระทรวงตรวจสอบในปี 2565 รวมทั้งยื่นกรรมาธิการด้วย และต่อมาผลการตรวจสอบเป็นที่ยุติแล้ว จึงไม่ได้คิดเรื่องของการดำเนินคดี
กระทั่งในปี 2567 เมื่อเกิดเรื่องขึ้นกับอธิบดีกรมการข้าว จึงต้องพูดในสังคมเข้าใจว่าตนเองเป็นผู้ที่ถูกกระทำด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการร้องเรียน หรือตรวจสอบเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องอยู่ในกรอบมืออาชีพ เป็นนักร้องในระบบอย่างถูกต้อง ไม่ใช่กลั่นแกล้งทำให้คนอื่นเดือดร้อน เพราะบางคนขาดโอกาสเติบโตในหน้าที่การงาน เพราะมีเรื่องถูกตรวจสอบค้างอยู่
สิ่งที่มาวันนี้ ตรงไหนมีรูเดี๋ยวอุดให้ เป็นกรณีศึกษาว่าถ้าประตูช่องออกถูกปิดอยู่ก็ออกไม่ได้ อย่าอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ หรือไม่เป็นเจ้าหน้าที่
ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า กลุ่มผู้ต้องหามีแผนประทุษกรรมเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะสอบพฤติกรรมต่าง ๆ ซึ่งจะมีความชัดเจน โดยขอให้เป็นเรื่องของเนื้่อหาสำนวนการสอบสวนว่า เข้าข่ายความผิดในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หรืออาญา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
"บิ๊กเต่า" เผยออกหมายเรียก "ภรรยา" ศรีสุวรรณ ให้ปากคำ 15 ก.พ.
"อธิบดีกรมการข้าว" ร้องเจอชายปริศนาป้วนเปี้ยน-โดรนวนรอบบ้าน
"อัจฉริยะ" ร้อง "บิ๊กเต่า" สอบ 2 ขรก.อ้างส่งข้อมูลทุจริตให้เอกปากน้ำ