เมื่อวันที่ 2 มี.ค.2567 มีภาพการใช้ความรุนแรง นร.หญิง 4 คน ระดับชั้น ป.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.นาดูน จ.มหาสารคาม ร่วมกันก่อเหตุทำร้ายร่างกายเพื่อน โดยเด็กหญิงที่ถูกทำร้ายเป็นเด็กสมาธิสั้น เรียนรู้ช้า พฤติกรรมของผู้ก่อเหตุ ฉุดกระชาก ใช้ความรุนแรง ทำให้เด็กที่ถูกทำร้ายนั่งร้องไห้ และมี 1 ใน 4 คน ที่ร่วมก่อเหตุ นำคลิปภาพเหตุการณ์ไปลงในสื่อสังคมออนไลน์ จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงการใช้ความรุนแรงภายในรั้วโรงเรียน
วันนี้ (3 มี.ค.2567) คณะครูและผู้บริหารสถานศึกษา ผู้ปกครองและนักเรียนที่ก่อเหตุ ร่วมประชุมหารือกับนายอำเภอ อ.นาดูน เจ้าหน้าที่จากบ้านพักเด็ก พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.มหาสารคาม เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง
1 ในเด็กนักเรียนที่ร่วมกันก่อเหตุ ยอมรับว่า ทำร้ายเพื่อนจริง สาเหตุมาจากคู่กรณีตามหาปากกาลบคำผิด แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุปฏิเสธไม่ได้เอาไป จึงเกิดการทะเลาะวิวาท ขณะที่ผู้ปกครองนักเรียนที่ก่อเหตุ บอกว่า เมื่อทราบข่าว รู้สึกตกใจ พร้อมกล่าวขอโทษเด็กและผู้ปกครองที่ถูกทำร้าย
นายอำเภอนาดูน สั่งกำชับผู้บริหารสถานศึกษา ดูแลเด็กนักเรียน เยียวยาสภาพจิตใจเด็กที่ถูกกระทำอย่างใกล้ชิด ส่วนผู้ปกครองของเด็กที่ก่อเหตุ ให้อบรมบุตรหลาน ไม่ให้ใช้ความรุนแรง
จากการจากการประเมินของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พบสาเหตุสถิติความรุนแรงในเด็กและเยาวชนเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยพบสาเหตุ 5 ประเด็น
- ความผิดปกติของสารเคมีในสมอง เป็นความรู้สึกนึกคิด
- ครอบครัว การเลี้ยงดู ไม่เหมาะสม ขาดการเอาใจใส่
- เรื่องสิ่งแวดล้อมในชุมชนมีความเสี่ยง ที่เด็กจะเข้าไปพัวพันกับอบายมุข หรือยาเสพติด
- รายได้และความเป็นอยู่ของครอบครัว มีความเหลื่อมล้ำ
- เรื่องในสถานศึกษาที่มีการบูลลีกัน ไม่ว่าจะเป็นทางกาย ทางวาจา หรือแม้แต่ทางไซเบอร์
อ่านข่าวอื่น :