เมื่อวันที่ 19 มี.ค.2567 ตำรวจ สภ.เกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี เชิญตัว นางเอเลนา สัญชาติรัสเซีย มาให้ปากคำ หลังจากหญิงสาวซึ่งกำลังตั้งครรภ์ 8 เดือน เจ้าของร้านสมุนไพรเข้าแจ้งความว่า ถูกหญิงรัสเซียทำร้ายร่างกาย โดยใช้เท้าถีบบริเวณขา เนื่องจากไม่พอใจ ที่ถูกสั่งห้ามไม่ให้ใส่รองเท้าเข้ามาในร้าน
หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุได้ขอโทษผู้เสียหาย ซึ่งเธอยอมรับคำขอโทษ แต่ยืนยันว่าจะดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้กับใครอีก พ.ต.ต.เกียรติขจร อำลอย สารวัตรสอบสวน บอกว่า ะสอบสวนผู้เสียหายอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน ว่าเพียงพอต่อการแจ้งขอกล่าวหากับนางเอเลน่าในข้อหาทำร้ายร่างกายหรือไม่
"เกิดไม่บ่อย" ต่างชาติทำร้ายคนไทย
กรณีนักท่องเที่ยวชาวนิวซีแลนด์ 2 คน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังถูกเรียกตรวจ เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร มีคลิปที่เผยให้เห็นถึงพฤติกรรมอย่างชัดเจน และก่อนหน้านี้ ยังมีกรณีชาวสวิตเซอร์แลนด์ทำร้ายแพทย์หญิง หลังไปนั่งที่บันไดของวิลลา หน้าหาดยามู จนเป็นข่าวใหญ่
มีความเห็นจาก นายธเนศ ตันติพิริยะกิจ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต (ส.ท.ภ.) ที่มองว่า เหตุชาวต่างชาติทำร้ายคนไทยหรือเจ้าหน้าที่รัฐ จริงๆ ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยเมื่อเทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาใน จ.ภูเก็ต แต่เมื่อจุดที่เกิดเรื่องเป็นพื้นที่ท่องเที่ยว จึงกลายเป็นข่าวดัง
เบื้องต้นประเมินว่าจากเหตุต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่น่าจะกระทบกับความรู้สึกของคนที่กำลังวางแผนจะเดินทางมาท่องเที่ยว
นายธเนศ ยังมองว่า กรณีนักท่องเที่ยวชาวนิวซีแลนด์ ยังอาจเป็นโอกาสที่ดี ที่ผู้เกี่ยวข้องจะหันมาตระหนักถึงปัญหา "รถเช่า" เพราะปัจจุบันมีการเช่ารถ โดยที่ไม่เข้มงวด บางรายใช้หลักฐานเพียงแค่พาสปอร์ตเท่านั้น สอดคล้องกับตำรวจที่มองว่า ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยว ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้กฎหมายตามไม่ทัน ควรมีกฎหมายที่บังคับใช้ หรือควบคุมการให้เช่ารถโดยเฉพาะ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
พ.ต.อ.เอกรัตน์ พลายด้วง ผกก.สภ.ฉลอง ระบุว่า ปัจจุบันตำรวจได้ใช้มาตรการเก็บประวัติ เช่น ร้านเช่ารถ A ปล่อยให้นักท่องเที่ยว B เช่ารถ หากไปกระทำผิดก็จะออกหมายเรียก ให้เจ้าของรถเช่ามารับทราบข้อกล่าวหาด้วย
การควบคุมดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติใน จ.ภูเก็ต เป็นความท้าทายของผู้ปฏิบัติงานจริงๆ นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผวจ.ภูเก็ต ยอมรับว่าปัจจุบัน ภารกิจดูแลนักท่องเที่ยวค่อนข้างซับซ้อน ทั้งเรื่องของการสื่อสารให้นักท่องเที่ยวหลากหลายสัญชาติให้เข้าใจ และอีกส่วนคือจำนวนของเจ้าหน้าที่
ในปัจจุบัน มีผู้ที่มีชื่อตามทะเบียนบ้านจริงๆ ใน จ.ภูเก็ต อยู่ประมาณ 420,000 คน ส่วนคนต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงานมีประมาณ 500,000 คน และมีนักท่องเที่ยวอีกประมาณ 500,000 - 600,000 คน
ดังนั้นคนใน จ.ภูเก็ต จะอยู่ที่ประมาณ 1,200,000 - 1,500,000 คน แต่เวลาได้รับการจัดสรรกำลังเจ้าหน้าที่ในการบริหารงานจากส่วนกลาง จะคิดจากฐาน 420,000 คน ซึ่งไม่เพียงพอ
ผวจ.ภูเก็ต บอกว่า แนวคิดหนึ่งในตอนนี้คืออาจต้องเพิ่มจำนวนสถานีตำรวจ เพื่อเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ในการดูแลให้ครอบคลุม เพราะตอนนี้ก็ต้องอาศัยกำลังจากภาคประชาชนมาช่วยดูแล ล่าสุดมีการตั้งศูนย์ขึ้นมา 1 แห่ง ที่จะรวมทุกหน่วยงานด้านปกครองเพื่อทำงานร่วมกัน ขณะเดียวกันในทุกๆ เดือนก็จะมีการพูดคุยกับตัวแทนของแต่ละประเทศ ผ่านสถานกงสุลที่มีอยู่ใน จ.ภูเก็ตรวม 27 ประเทศ เพื่อให้ช่วยประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศของตนเอง
อ่านข่าวอื่น :
สภาพอากาศวันนี้ กทม.ฉ่ำแต่เช้า พายุฤดูร้อนทำฝนตกทั่วประเทศ
จับบ่อนใหญ่นนทบุรี เงินหมุนเวียนวันละ 100 ล้าน พบเจ้าของเคยถูกจับปี 61