ความคืบหน้ากรณีนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกันจอมพลัง ลงพื้นที่ สภ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อติดตามคดีพระสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งใน อ.กุฉินารายณ์ แอบมีสัมพันธ์กับหญิงสาววัย 48 ปี แล้วถ่ายคลิปแบล็คเมล์ ส่งภาพโป๊เปลือยให้คนในครอบครัว และรวมถึงสามี
นอกจากนี้ พระยังมีอาวุธปืน โดยจะใช้ปืนประกอบพิธีลองของ ยิงใส่หลังคนที่มาร่วมพิธี และพระเคยใช้อาวุธปืนตบเข้าที่บริเวณใบหน้าของหญิง และยิงถากไปที่แขน รวมทั้งบังคับให้หญิงบอกเลิกกับสามี ถ้าไม่ยอมมาอยู่ด้วยก็ขู่จะฆ่าและจะยิงสามี อีกทั้งมีพฤติกรรมเสพยา กระทั่งหญิงแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ. กุฉินารายณ์ และลูกสาวส่งเรื่องมาขอความช่วยเหลือกับกันจอมพลัง
ล่าสุดชุดสืบสวนภาค 4 ชุดสืบสวน ภ.จว.กาฬสินธุ์ และชุดสืบสวน สภ.กุฉินารายณ์ ได้จับกุมตัวพระชัยชนะ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ลงวันที่ 19 มี.ค.2567 ข้อหาข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายเสรีภาพชื่อเสียงฯ จนผู้ถูกข่มขืนใจยินยอมโดยมีอาวุธ พร้อมของกลางอาวุธปืนและยาบ้าจำนวน 51 เม็ด ได้ที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี ก่อนคุมตัวไปลาสิกขาบท และนำตัวมาสอบปากคำที่ สภ.กุฉินารายณ์ เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา
วันที่ 1 เม.ย.2567 พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าของของคดี โดยพ.ต.อ.เมธาพงษ์ บุญศรี ผกก.สภ.กุฉินารายณ์ พ.ต.ท.ฐิติพันธ์ นิติธรรมสาร รอง ผกก.สอบสวน สภ.กุฉินารายณ์ รายงานความคืบหน้าของคดี พร้อมทั้งคุมตัวอดีตพระชัยชนะ ไปค้นกุฏิที่พัก และบริเวณภายในสำนักสงฆ์ฯ ต.เหล่าใหญ่ อ.กุฉินารายณ์ โดยมีชาวบ้านมาดูเหตการณ์จำนวนมาก
จากการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ในกฏิเบื้องต้นพบอาวุธปืนแบลงค์กัน 4 กระบอก ยาบ้า 14 เม็ด และลูกกระสุนปืนอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน พร้อมคุมตัวอดีตพระชัยชนะ ไปสอบปากคำที่โรงพัก
ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามอดีตพระชัยชนะถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งอดีตพระชัยชนะไม่ให้สัมภาษณ์ บอกเพียงสั้น ๆ ว่า “มันเป็นกรรม” จะให้การในชั้นศาล และรอให้ทนายความเป็นคนให้ข้อมูล
ด้าน ผกก.สภ.กุฉินารายณ์ ระบุว่า เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การภาคเสธ จะขอให้การในชั้นศาล ขณะนี้อยู่ระหว่างให้พี่ชายแต่งตั้งทนายมาสู้คดี เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนจะได้แจ้งข้อหาข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายเสรีภาพชื่อเสียงของคู่ถูกข่มขืนใจหรือของผู้อื่นจนผู้ถูกข่มขืนใจยินยอมโดยมีอาวุธ ซึ่งเป็นข้อหาตามหมายจับไปก่อน ส่วนข้อหาอื่น ๆ ทั้งยาเสพติด และอาวุธปืน จะมีการรวบรวมพยานหลักฐานและข้อหาเพิ่มต่อไป ทั้งนี้หลังจากสอบปากคำจะส่งไปฝากขัง และพนักงานสอบสวนจะคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากมีพฤติกรรมข่มขู่ผู้เสียหาย และหลบหนี