ติดประกาศห้ามเข้า "ตึก" ถูกรถพ่วงชน แจ้ง 2 ข้อหาคนขับ

อาชญากรรม
7 เม.ย. 67
12:56
705
Logo Thai PBS
ติดประกาศห้ามเข้า "ตึก" ถูกรถพ่วงชน แจ้ง 2 ข้อหาคนขับ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
เขตตลิ่งชัน ติดประกาศห้ามเข้าอาคาร 5 คูหา ในซอยสวนผัก 32 หลังเคลื่อนย้ายตู้คอนเทนเนอร์ออกจากอาคาร 3 ชั้นสำเร็จ เบื้องต้นแจ้ง 2 ข้อหาคนขับรถ พร้อมลงพื้นที่ประเมินความเสียหาย-โครงสร้างอาคารอีกครั้ง 9 เม.ย.นี้ เบื้องต้นไม่พบรอยแตกร้าวเพิ่มเติม

วันนี้ (7 เม.ย.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตตลิ่งชัน นำป้ายประกาศห้ามใช้อาคารมาติดไว้บริเวณด้านหน้าตึกแถว 5 คูหา ภายในซอยสวนผัก 32 แขวงและเขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ หลังเมื่อคืนที่ผ่านมาสามารถเคลื่อนย้ายตู้คอนเทนเนอร์ออกจากอาคาร 3 ชั้นได้สำเร็จ

เจ้าพนักงานเทศกิจชำนาญการ สำนักเขตตลิ่งชัน กล่าวว่า เบื้องต้นสำนักงานเขตฯ นำประกาศมาติดไว้เพื่อแจ้งให้เจ้าของอาคารทั้ง 5 คูหา เฝ้าระวังอันตรายและห้ามเข้าพื้นที่ในระยะเวลา 30 วันนับจากวันที่ 5 เม.ย.2567 จนกว่าจะมีการประสานมายังเจ้าหน้าที่ เพื่อลงพื้นที่พร้อมกัน และในวันอังคารที่ 9 เม.ย.นี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายวิศวกรรม และเจ้าของบ้านที่ถูกรถเทลเลอร์ถอยชน จะลงพื้นที่มาประเมินความเสียหาย และตรวจสอบโครงสร้างอีกครั้ง ส่วนในระยะนี้จะมีเจ้าหน้าที่เทศกิจมาคอยดูแลความปลอดภัย ป้องกันไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่อาคารดังกล่าว รวมถึงตักเตือนรถบรรทุกไม่ให้วิ่งผ่านขึ้นสะพานกรุงนนท์

พ.ต.อ.มนต์ชัย อรุณส่องแสงดี ผกก.สน.ตลิ่งชัน กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้ขับขี่รถบรรทุกให้การว่า ขับรถมาตามระบบ GPS เพื่อจะนำเครื่องจักรเข้ามาส่งในซอยดังกล่าว เมื่อมาถึงสะพาน รถไม่สามารถขับขี่ผ่านขึ้นไปได้จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งในวันที่ 9 เม.ย. จะเรียกผู้ขับขี่มาสอบปากคำ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาอีกครั้ง

เบื้องต้นมี 2 ประเด็นที่จะต้องพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหา คือ ข้อหาขับขี่โดยประมาท และฝ่าฝืนป้ายจราจรที่ห้ามรถบรรทุกผ่าน หากพบว่ามีความผิดให้ดำเนินคดีอย่างเต็มที่ ส่วนความเสียหายขณะนี้ทราบว่ารถบรรทุกมีประกันวินาศภัย วงเงิน 600,000 บาท ถึง 1,000,000 บาท โดยฝ่ายเจ้าของรถบรรทุกและเจ้าของอาคารที่ได้รับความเสียหาย จะเจรจาไกล่เกลี่ยเรื่องค่าเสียหายอีกครั้ง

ทีมข่าวไทยพีบีเอส ลงพื้นที่สำรวจพบว่า ภายในซอยดังกล่าวติดป้ายประกาศห้ามรถบรรทุกผ่าน และขึ้นสะพาน เนื่องจากต่อม่อพังเสียหาย สอดคล้องกับสภาพของสะพานที่ปรากฏรอยแตกชำรุด แต่ชาวบ้านในพื้นที่ให้ข้อมูลว่า ที่ผ่านมามักมีรถบรรทุกขนาดใหญ่ใช้เส้นทางนี้ในการผ่านเข้า-ออก ทำให้เกิดความกังวลเรื่องความปลอดภัย และต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้มาตรการดูแลอย่างจริงจัง เกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย

สำหรับการจราจรภายในซอยแห่งนี้ ล่าสุดพบว่าสามารถกลับมาเปิดใช้ได้ตามปกติ

ตรวจสอบไม่พบรอยแตกร้าวเพิ่มเติม

ด้านนายธเนศ วีระศิริ นายกสภาวิศวกร กล่าวว่า เมื่อช่วงเวลา 05.00 น.วันนี้ ทีมของวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) ได้ลงพื้นที่วางแนวทางนำตู้คอนเทนเนอร์ออกจากตัวอาคาร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ใช้เหล็กเอชบีม H-Beam หน้าตัด มาค้ำยันเสริมตัวอาคารก่อนแล้วจึงค่อย ๆ ยกตู้คอนเทนเนอร์ออก ทำให้ดำเนินการได้อย่างปลอดภัย ขณะเดียวกันได้ตรวจสอบอาคารติดกันอีก 4 คูหา ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีความเสี่ยงที่จะเกิดการถล่ม เนื่องจากไม่พบรอยแตกร้าวเพิ่มเติม

สำหรับบ้านที่ได้รับความเสียหายนั้น หากเจ้าของบ้านจะปรับปรุงซ่อมแซม เชื่อว่าจะไม่เกิดอันตรายในอนาคต เพราะได้ทำการเสริมโครงสร้างไว้รองรับแล้ว

ส่วนสะพานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุ จากการตรวจสอบไม่พบรอยแตกร้าวเพิ่มเติม แต่มีข้อแนะนำว่าสะพานลักษณะนี้ไม่ได้ถูกก่อสร้างมาเพื่อรองรับรถบรรทุกขนาดใหญ่ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ปิดกั้นไม่ให้รถบรรทุกน้ำหนักมากสัญจรผ่าน เพราะมีความเสี่ยงเกิดอันตราย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ยังเคลื่อนย้ายไม่ได้ รถพ่วงไหลชนตึกแถว ตร.เตรียมแจ้งข้อหาขับรถ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง