วันนี้ (9 เม.ย.2567) น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบเอกสารนำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม “สงขลาและชุมชนที่เกี่ยวเนื่องริมทะเลสาบสงขลา” ภายใต้ชื่อ Songkhla and its Associated Lagoon Settlements เข้าสู่บัญชีรายชื่อเบื้องต้นของศูนย์มรดกโลก ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เสนอ
“สงขลาและชุมชนที่เกี่ยวเนื่องริมทะเลสาบสงขลา” อยู่ในพื้นที่ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ได้แก่ อ.ระโนด, อ.สทิงพระ, อ.สิงหนคร และ อ.เมืองสงขลา โดยทะเลสาบสงขลาเป็นทะเลสาบน้ำกร่อยเพียงแห่งเดียวของประเทศ และเป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งที่มีการตั้งถิ่นฐานรอบทะเลสาบที่มีความสำคัญทางวัฒนธรรมสูงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และในโลก นอกจากนี้ยังถือเป็นต้นกำเนิดของวิถีการดำรงชีวิตที่เกี่ยวข้องกับน้ำกร่อย ความเชื่อ ประเพณี การตั้งถิ่นฐานและเมืองต่างๆ มาตั้งแต่สมัยโบราณ
ทะเลสาบสงขลา ถือเป็นทะเลสาบแบบลากูน โดยเป็นทะเลสาบน้ำกร่อยตามธรรมชาติที่อยู่บริเวณชายฝั่งและเปิดเชื่อมต่อสู่ทะเล ซึ่งเป็นระบบนิเวศธรรมชาติที่มีความหลากหลายซับซ้อน และก่อให้เกิดเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม นอกจากนั้นการตั้งถิ่นฐานหรือชุมชนหลายแห่งที่พบในบริเวณรอบทะเลสาบสงขลา มีการปรับตัวให้เหมาะสมกับระบบนิเวศทะเลสาบและการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ส่งผลให้การตั้งถิ่นฐานนั้นพัฒนาจนกลายเป็นชุมชนและเมืองที่มีลักษณะเฉพาะ
นอกจากนี้ สิ่งก่อสร้างที่เหลืออยู่จากชุมชนเมืองโบราณที่อยู่ริมทะเลสาบสงขลาและสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ได้รับการปกป้องคุ้มครองไว้อย่างดี ปรากฎหลักฐานทางโบราณคดีจำนวนมาก
พื้นที่องค์ประกอบ ประกอบด้วย 4 พื้นที่ คือ 1.เมืองโบราณพังยาง เมืองโบราณพะโคะ และเมืองโบราณสีหยัง, 2.เมืองโบราณสทิงพระ, 3.เมืองป้อมค่ายซิงกอร่า และ 4.เมืองเก่าสงขลา บ่อยาง โดยแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมสงขลาฯ สามารถเข้าหลักเกณฑ์เพื่อประกอบการนำเสนอ ดังนี้
- เกณฑ์ข้อที่ 2 เป็นพื้นที่แสดงความสำคัญของการแลกเปลี่ยนคุณค่าของมนุษย์ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง
- เกณฑ์ข้อที่ 4 เป็นสิ่งก่อสร้างที่มีการพัฒนาด้านวัฒนธรรม สังคม ศิลปกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี หรืออุตสาหกรรม
- เกณฑ์ข้อที่ 5 เป็นตัวอย่างของขนบธรรมเนียมประเพณีแห่งสถาปัตยกรรมหรือการตั้งถิ่นฐานมนุษย์
ทั้งนี้ ไม่มีแหล่งมรดกในบัญชีรายชื่อมรดกโลกที่เป็นทะเลสาบแบบลากูน และมีการตั้งถิ่นฐานที่แสดงให้เห็นถึงการแลกเปลี่ยนที่สำคัญกับอารยธรรมอื่น และเป็นตัวอย่างของการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์แบบดั้งเดิมที่สัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม ทส. เห็นว่า การนำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมสงขลาฯ เป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม จะทำให้ไทยได้รับประโยชน์ เช่น กระตุ้นให้เกิดการอนุรักษ์และความหวงแหนมรดกทางวัฒนธรรมในพื้นที่เมืองเก่าสงขลา และชุมชนที่เกี่ยวเนื่องริมทะเลสาบสงขลา และส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยวทั้งทางตรงและทางอ้อมให้กับประเทศทั้งในระดับท้องถิ่นและในระดับชาติ
อ่านข่าวอื่นๆ
ครม.อนุมัติงบกองทุนบัตรทอง ปี 68 รวม 2.3 แสนล้าน