เหตุการณ์สู้รบระหว่างรัฐบาลเมียนมากับกลุ่มต่อต้านกะเหรี่ยง KNU บุกยึดเมืองเมียวดี ติดกับ อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งมีมูลค่าการค้าชายแดนสูงกว่า 100,000 ล้านบาท
วันนี้ (10 เม.ย.2567) นายเกรียงไกร เธียรนุกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ระบุว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นยังไม่มีรายงานเอกชนถอนการลงทุนแต่อย่างใด ซึ่งอาจกระทบต่อสายการผลิตชะลอตัวไปบ้าง แต่ไม่ถึงขั้นหยุดชะงัก จึงไม่กระทบการค้าชายแดนและระบบการชำระเงิน ซึ่งใช้สกุลเงินท้องถิ่นอยู่แล้ว
แต่ปัญหาความไม่สงบในเมียนมา ทำให้นายเลิศมงคล วราเวณุชย์ อุปนายกและเลขาธิการสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2566 ชาวเมียนมาที่มีศักยภาพสูง รวมทั้งคนรุ่นใหม่จำนวนมาก อพยพย้ายถิ่นฐานและลงทุนซื้อคอนโดฯ ในไทยเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด จึงเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนเกณฑ์การถือครองอสังหาฯ ชาวต่างชาติในไทย เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์และสภาพตลาด
ขณะที่ข้อมูลศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ รายงานว่า แม้ชาวจีนเป็นกลุ่มโอนกรรมสิทธิ์คอนโดฯ ทั่วประเทศมากกว่า 6,614 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 45.8 ของหน่วยขายทั้งหมด แต่ชาวไต้หวันและชาวเมียนมา เป็นชาวต่างชาติที่มีอัตราการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาฯ สะสมต่อเนื่องเพิ่มขึ้น จนติด 5 อันดับแรกที่มีการเปลี่ยนแปลงสูงสุด โดยเฉพาะชาวเมียนมาที่ซื้อคอนโดฯ ในราคาเฉลี่ยแพงที่สุดที่หน่วยละ 6,600,000 บาท
อ่านข่าวอื่นๆ