จับคาเขียง! ซากหัวเก้ง-เนื้อสัตว์ป่าขายจุดผ่อนปรนบ้านแจมป๋อง

วันนี้ (11 เม.ย.2567) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า กรมอุทยานฯ ร่วมกับตำรวจปทส. เจ้าหน้าที่กรมบริหารทรัพยากรสัตว์น้ำและสัตว์ป่าแห่งสหรัฐอเมริกา (USFWS ) เจ้าหน้าที่สืบสวนปราบปรามอาวุโส ร่วมกันตรวจยึดและจับกุมขบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่าบริเวณจุดผ่อนปรนบ้านแจมป๋อง หมู่ 5 ต.หล่ายงาว อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย

ผลการปฏิบัติงานสามารถตรวจยึดจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 4 คนเป็นคนสัญชาติลาว จากเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว และซากสัตว์ป่าที่ถูกล่าและชำแหละขายจำนวนมาก ได้แก่ ซากเม่นใหญ่ 13 ตัว 79 กิโลกรัม ซากเก้งชิ้น 42.5 กิโลกรัม ซากหัวเก้ง 11 หัว ซากกะรอก 31 ตัว 8.5 กิโลกรัม พญากระรอก 2 ตัว 3.5 กิโลกรัม ซากอีเห็น 13 ตัว 35 กิโลกรัม

เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาว่าผิด พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 17 และมาตรา 29 ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครอง และค้าหรือจำหน่าย ซึ่งสัตว์ป่าสงวนสัตว์คุ้มครองซากของสัตว์ป่าดังกล่าว โดยนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เวียงเเก่น อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

สำหรับการจับกุมผู้กระทำความผิดในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้มีการแฝงตัวเข้าไปในกลุ่มผู้ลักลอบค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายจนสามารถตามจับ และยึดของกลางสัตว์ป่าที่ถูกลักลอบล่ามาจำนวนมาก  

เนื่องจากการลักลอบล่าสัตว์ป่านี้ ถือเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดไฟป่า เพราะผู้กระทำความผิด อาจมีการจุดไฟเผาป่า เพื่อไล่ต้อนสัตว์ป่าแล้วดักยิง อีกทั้งการลักลอบหาของป่าผิดกฎหมาย ก็เป็นสาเหตุของการเกิดหมอกควันไฟป่า

"พัชรวาท" สั่งปูพรมเคาะประตูบ้านทุกชุมชน

นายอรรถพล นอกจากนี้ยังมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติงานป้องกันและควบคุมไฟป่า ออกปฏิบัติงานในลักษณะเคาะประตูบ้านในชุมชน และหมู่บ้านซึ่งมีพื้นที่อยู่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์หรืออยู่บริเวณแนวชายขอบ เพื่อเป็นการป้องปรามการลักลอบเข้าไปกระทำผิดในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ โดยการจุดไฟเผาป่า ลักลอบล่าสัตว์ป่า หรือเก็บหาของป่า

โดยหน่วยงานในพื้นที่ภาคสนามทุกแห่ง ปฏิบัติตามข้อสั่งการโดยการจัดชุดลาดตระเวนเคลื่อนที่เร็ว สายตรวจรถจักรยานยนต์ สายตรวจรถยนต์ ตลอดจนการเดินเท้า เพื่อเข้าไปยังพื้นที่เป้าหมายในลักษณะเคาะประตูบ้าน

ทั้งนี้ ได้รับรายงานจากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 แม่สะเรียง ว่าได้เปิดยุทธการในการออกดำเนินจัดชุดลาดลาดตระเวนเฝ้าระวังในพื้นที่ จัดชุดปฏิบัติการรถยนต์ ชุดเคลื่อนที่เร็วโดยมอเตอร์ไซด์ ในการออกปฏิบัติการ ตามสั่งการและนโยบายตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และหากตรวจพบว่ามีการกระทำผิดเกิดขึ้นในพื้นที่ ก็จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาดทุกราย