วันนี้ (26 เม.ย.2567) พ.ต.ท.ดาราธร ขจรศิลป์ รองผู้กำกับ กองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจจราจร เปิดเผย กรณีที่ถูกหญิงคนหนึ่งถูกแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ ขณะตั้งด่านตรวจบริเวณเรียบทางด่วนมอเตอร์เวย์ มุ่งหน้าสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อช่วงเที่ยงคืน วันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา จึงแจ้งให้หยุดรถก่อนจะให้เป่าเครื่องวัดแอลกอฮอล์ และพบว่ามีปริมาณสูงเกินกฎหมายกำหนด หรือประมาณ 104 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
หลังจากนั้นจึงได้เชิญตัวขึ้นรถของเจ้าหน้าที่เพื่อส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สน.ประเวศ ดำเนินคดีข้อหาเมาแล้วขับ แต่ระหว่างกำลังนำตัวเข้าไปในรถผู้ต้องหามีพฤการณ์คล้ายขัดขืน ช่วงบริเวณขาของผู้ต้องหาได้ยื่นออกมาจากประตูรถ จึงพยายามดันให้เข้าไปอยู่ด้านในเพื่อให้ปิดประตูรถได้ จังหวะนั้นผู้ต้องหาใช้เท้าถีบเข้าที่ใบหน้า โดยยืนยันว่า วิธีการและขั้นตอนในการเจรจาเป็นไปตามกฎหมาย และมีหลักฐานเป็นคลิปที่บันทึกได้ขณะทำการจับกุม
พ.ต.ท.ดาราธร ยืนยันว่า การจับกุมไม่ทราบมาก่อนว่าผู้ต้องหาเป็นบุคคลใด และก็ปฏิบัติหน้าที่ตามขั้นตอน แต่ผู้ต้องหากลับไม่ให้เกียรติเจ้าหน้าที่ใช้คำพูดกับผู้ใต้บังคับบัญชาของตัวเองขณะปฏิบัติหน้าที่ว่า "ชั้นต่ำ" และส่งผลให้ตำรวจนายนั้นได้รับผลกระทบทางจิตใจ จึงพยายามปลอบใจ เผื่อให้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ได้เหมือนเดิม พร้อมทั้งเตรียมรวบรวมหลักฐานพิจารณา เพื่อดำเนินคดีผู้ต้องหาเพิ่มในข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่
เบื้องต้น ตำรวจได้แจ้งข้อหาขับในขณะเมา ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน และทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานฯ จากการตรวจสอบประวัติยังพบว่า ผู้ต้องหาคนนี้เคยถูกดำเนินคดีเมาแล้วขับ มาแล้ว 1 ครั้ง และเป็นจุดที่ตั้งด่านเดียวกัน
พ.ต.ท.ดาราธร ขจรศิลป์
รองผู้กำกับ กองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจจราจร ฝากถึงประชาชนที่เมาแล้วขับ ว่าปัจจุบันสาเหตุของอุบัติเหตุบนท้องถนน มากที่สุด เกิดจากการเมาแล้วขับ ส่งผลให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต บางคนป่วยเป็นทุพพลภาพที่จะต้องดูแลกันไปตลอดชีวิต
พร้อมทั้งฝากถึงผู้ที่คอมเมนต์ทางโซเชียลมีเดีย สนับสนุน หรือเห็นด้วยในการกระทำของผู้ต้องหา ขอเตือนควรใช้สติในการให้ความเห็น เพราะผู้ต้องหากระทำผิดกฎหมายที่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน
อ่านข่าว :
สู้ยิบตา “บิ๊กโจ๊ก” I Will Come Back
"บิ๊กต่าย" ยืนยันคำสั่งให้ "บิ๊กโจ๊ก" ออกราชการ ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ