วันนี้ (30 เม.ย.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ก่อเหตุคดีเมาแล้วขับและทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานฯ ในพื้นที่ สน.ประเวศ มีประวัติเคยถูกดำเนินคดีในข้อหาเมาแล้วขับ มาแล้วเมื่อปี 2565 และคดีความยังค้างที่ สน.ประเวศ ยังไม่มีการส่งฟ้องต่อศาลฯ
พ.ต.อ.สุรพงษ์ พุฒขาว ผกก.สน.ประเวศ เปิดเผยถึงกรณีนี้ว่า ตรวจสอบคดีความในสารบบของ สน.ประเวศ พบมีคดีความค้างอยู่จริง 1 คดี โดยเป็นเหตุเมาแล้วขับเมื่อวันที่ 17 ส.ค.2565 ร้อยเวรเจ้าของคดีในขณะนั้นได้สรุปสำนวนคดีเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ได้ส่งฟ้อง เนื่องจากมีการโยกย้ายไปสังกัดใหม่เสียก่อน
ขณะที่วันนี้ได้มอบหมายคดีความให้พนักงานสอบสวนรับผิดชอบคดีต่อแล้ว และนัดหมายส่งฟ้องต่อศาลอาญาพระโขนงในวันที่ 10 พ.ค.นี้
พ.ต.อ.สุรพงษ์ เปิดเผยรายละเอียดสำนวนคดีในเบื้องต้นว่า ผู้ถูกกล่าวหาให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่ามีการใช้สเปรย์แอลกอฮอล์ฉีดพ่นทั่วบริเวณภายในรถยนต์และทั่วฝ่ามือเป็นประจำ เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผู้ต้องหาจึงเชื่อว่าเป็นเหตุที่ทำให้ผลตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายพบ 69 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์
จากข้อโต้แย้งดังกล่าว พนักงานสอบสวนได้นำสเปรย์แอลกอฮอล์ที่ผู้ถูกกล่าวหาอ้างถึง ส่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบเพื่อพิสูจน์ยืนยันและได้รวมเข้าไปในสำนคดีเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่อาจเปิดเผยได้เพราะส่งผลต่อการสู้คดีความ
ส่วนคดีที่เกิดขึ้นล่าสุดเมื่อวันที่ 24 เม.ย.2567 พนักงานสอบสวนได้แจ้งความดำเนินคดี 3 ข้อหาคือ เมาแล้วขับ, ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานขณะปฎิบัติหน้าที่ เบื้องต้นผู้ก่อเหตุรับสารภาพในข้อหาเมาแล้วขับ แต่ปฏิเสธอีก 2 ข้อหา และได้นัดหมายพนักงานสอบสวนพร้อมทนายความ เข้าให้ปากคำและรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 3 พ.ค.นี้
พ.ต.อ.สุรพงษ์ ยืนยันว่า ในคดีล่าสุด พนักงานสอบสวนจะสรุปสำนวนคดีให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับจากวันที่แจ้งความดำเนินคดี เพื่อส่งฟ้องผู้ต้องหาตามกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนดอย่างแน่นอน
อ่านข่าว
นักธุรกิจให้ปากคำ ยืนยันไม่เจตนาทำร้ายร่างกาย ตร.ตั้งด่าน
บิ๊กแบ็กแคดเมียมแตก! โซ่ขนขาด-ปรับแผนขนย้ายเข้าโกดัง
"ทนายตั้ม" ยื่น ปปง.อายัดทรัพย์สิน "ภรรยาบิ๊กตำรวจ" อ้างจ่อหนีออกนอกประเทศ