พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพระนคร จัดพิธีต้อนรับ "Golden Boy" และ ประติมากรรมสตรีคุกเข่าพนมมือ อย่างเป็นทางการ โดยหลังจากนี้กรมศิลปากรจะจัดแสดงให้ประชาชนได้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.เป็นต้นไป และยังต้องสืบค้นต่อไปว่าแหล่งที่มาโดยผู้เชี่ยวชาญอีกครั้ง
ทั้งนี้กระทรวงวัฒนธรรมโดยกรมศิลปากร ได้รับการประสานจากพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน สหรัฐอเมริกา แจ้งความประสงค์ส่งมอบโบราณวัตถุจำนวน 2 รายการ กลับคืนสู่ประเทศไทย ได้แก่ ประติมากรรมสัมฤทธิ์รูปพระศิวะ (The standing shiva) หรือ Golden Boy และประติมากรรมรูปสตรีพนมมือ (The Kneeling Female)
อ่านข่าว : ประติมากรรม "Golden Boy" กลับถึงไทยแล้ว
ซึ่งโบราณวัตถุทั้ง 2 รายการ เป็นโบราณวัตถุที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทันได้ถอดออกจากบัญชีของพิพิธภัณฑ์เนื่องจากได้ตรวจสอบแล้วพบว่าถูกลักลอบนำออกนอกราชอาณจักรไทยโดยผิดกฎหมาย จึงเห็นควรส่งคืนประเทศไทย ซึ่งพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน สหรัฐอเมริกา ได้ดำเนินการจัดส่งโบราณวัตถุ จำนวน 2 รายการ กลับถึงประเทศไทย ในวันที่ 20 พ.ค.2567
สำหรับประติมากรรมทั้ง 2 รายการ เป็นประติมากรรมสัมฤทธิ์ที่มีความสมบูรณ์ แสดงให้เห็นถึงเทคโนโลยีชั้นสูงและความก้าวหน้าในการหล่อโลหะ สะท้อนความเจริญของแผ่นดินไทยในอดีต ความงามของฝีมือช่างสามารถนำไปศึกษาเปรียบเทียบกับประติมากรรมร่วมสมัยเดียวกันชิ้นอื่นๆ ที่พบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
อ่านข่าว : รับมอบ "Golden Boy" จากสหรัฐอย่างเป็นทางการ
พระศิวะ
ศิลปะเขมรในประเทศไทย สมัยเมืองพระนคร แบบบาปวน พุทธศตวรรษที่ 16 (ประมาณ 900 ปีมาแล้ว) สำริดกะไหล่ทอง ประดับตกแต่งด้วยการฝังเงิน มีความสูง (รวมเดือย) 128.9 กว้าง 35.6 ลึก 34.3 ซม. สูงไม่รวมเดือย 105.4 ซม.
ประติมากรรมชิ้นนี้เป็นรูปสำริดที่สมบูรณ์ที่สุดที่ยังหลงเหลือจากสมัยเมืองพระนคร เป็นประติมากรรมกลุ่มเล็กๆ ที่มีการหล่อด้วยโลหะเป็นเทพในศาสนาฮินดูที่มีความเกี่ยวข้องกับธรรมเนียมของราชสำนัก พบในกัมพูชาและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย แม้ว่าประติมากรรมจะถูกติความไว้ว่าเป็นพระศิวะ แต่ท่าทางของพระหัตถ์ทั้งสองที่แตกต่างจากประติมากรรมโดยทั่วไปที่มักจะถือสัญลักษณ์ของพระศิวะ
ประติมากรรมนี้จึงอาจหมายถึงพระศิวะในภาคมนุษย์ที่ไม่ค่อยพบในศิลปะเขมรทั่วไปอาจมีความเป็นไปได้ว่าถูกสร้างขึ้นเพื่อจุดประสงค์สองอย่างคือ เป็นรูปเคารพเพื่อบูชาในศาสนสถานประจำราชวงศ์ หรือเป็นรูปเคารพของบูรพกษัตริย์
ข้อสงสัยในความเป็นของจริง
ในปี พ.ศ.2574 มีการชุดค้นพบประติมากรรมสัมฤทธิ์รูปบุรุษจากปราสาทสระกำแพงใหญ่ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ เมื่อพิจารณารูปแบบและเทคนิคการสร้าง พบว่ามีลักษณะตรงกับประติมากรรมของพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน คือมีการตกแต่งผิววัตถุ ด้วยอะไหล่ทอง และใช้เทคนิคการเจาะผิววัตถุเป็นร่องเพื่อฝังโลหะมีค่า หรืออัญมณี
ฐานข้อมูลของพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน ระบุว่าประติมากรรมชิ้นนี้ได้จาก Collection of Walter H. and Leonore Annenberg ในปี พ.ศ.2531 สันนิษฐานว่าถูกลักลอบขุดค้นจากโบราณสถานในเขต อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ และมีการลักลอบ ซื้อขายออกไปโดยผิดกฎหมาย
ในปี พ.ศ.2518 ซึ่งเป็นการได้มาก่อนการค้นพบประติมากรรมจากสระกำแพงใหญ่ จึงเชื่อได้ว่าไม่ได้เป็นการสร้างเลียนแบบ แต่เป็นประติมากรรมในกลุ่มฝีมือช่างใกล้เคียงหรือร่วมสมัยเดียวกัน
ประติมากรรมรูปสตรีนั่งชันเข่าพนมมือ
ศิลปะเขมรในประเทศไทย สมัยเมืองพระนคร แบบบาปวน พุทธศตวรรษที่ 16 (ประมาณ 900 ปีมาแล้ว) สำริด ประดับตกแต่งด้วยการฝังเงิน มีร่องรอยกะไหล่ทอง มีความสูง 43.2 ซม. กว้าง 19.7 ซม.
ประติมากรรมนี้ สันนิษฐานว่าเป็นพระราชเทวี หรือสตรีชั้นสูงในราชสำนักสวมเครื่องประดับ ประทับชันเข่าพนมมือแสดงความเคารพแด่เทพเจ้า ที่ดวงตาและคิ้วมีร่องรอยการฝังด้วยวัตถุที่น่าจะเป็นแก้วสีดำ
ประติมากรรมสตรี (สันนิษฐานว่าเป็นสตรีชั้นสูง) นั่งชันเข่าขวาและพับขาซ้าย ยกมือทั้งสองขึ้นเหนือศีรษะในท่าอัญชลีมุทรา หรือนมัสการ (พนมมือ) อันเป็นท่าแสดงความเคารพ ลักษณะใบหน้าเหลี่ยม คิ้วโก่ง ตามองตรง คิ้วเซาะเป็นร่องและนัยน์ตาเซาะเป็นช่องกลม
เมื่อพิจารณาจากทรงผมหวีรวบไม่สวมกระบังหน้า ประติมากรรมทำเอวคอด รูปทรงสมส่วน ขอบผ้านุ่งด้านหน้าเว้ามาก ขมวดเป็นปมมีชายขมวดหนึ่งชาย ชายผ้าด้านล่างคลี่ออกเป็นรูปทางปลา เป็นรูปแบบของประติมากรรมสัมฤทธิ์ที่นิยมในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ราว 1,000 ปีมาแล้ว
รูปแบบเครื่องประดับและเครื่องแต่งกายของประติมากรรมสตรี รวมถึงเทคนิควิธีการหล่อโลหะมีความสอดคล้องกับประติมากรรม "โกลเด้นบอย" และประติมากรรมสัมฤทธิ์ที่พบที่ปราสาทสระกำแพงใหญ่ ซึ่งเป็นสัมฤทธิ์ตกแต่งด้วยกะไหล่ทอง มีการเจาะผิววัตถุเป็นร่องเพื่อฝังโลหะมีค่าหรืออัญมณี เช่นเดียวกัน
ไทม์ไลน์ส่งมอบโบราณวัตถุ 2 รายการ แก่ประเทศไทย
ลำดับเหตุการณ์พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน สหรัฐอเมริกาส่งมอบโบราณวัตถุ 2 รายการ แก่ประเทศไทย
- วันที่ 12 ธันวาคม 2566 พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน สหรัฐอเมริกา มีหนังสือถึงกรมศิลปากร แจ้งส่งมอบโบราณวัตถุกลับคืนสู่ประเทศไทย จำนวน 2 รายการ ได้แก่
- ประติมากรรมรูปพระศิวะ
- ประติมากรรมสตรีพนมมือ
- วันที่ 16 ธันวาคม 2566
ผู้แทนพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน เข้าพบอธิบดีกรมศิลปากร แจ้งขั้นตอนการส่งโบราณวัตถุทั้ง 2 รายการ กลับประเทศไทย
- 21 ธันวาคม 2566 อธิบดีกรมศิลปากรมีหนังสือถึงอธิบดีกรมสารนิเทศ แจ้งขอความอนุเคราะห์สถานกงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์ก เตรียมการรับมอบโบราณวัตถุทั้ง 2 รายการ
- วันที่ 5 มกราคม 2567 พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน มีหนังสือเชิญผู้เชี่ยวชาญจากกรมศิลปากรร่วมตรวจสอบโบราณวัตถุทั้ง 2 รายการ
- วันที่ 24 เมษายน 2567 ผู้อำนวยการสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ผู้แทนกรมศิลปากร ตรวจสอบโบราณวัตถุ ร่วมกับนักอนุรักษ์ และนักวิทยาศาสตร์ของพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน
- วันที่ 20 พฤษภาคม 2567 พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน ดำเนินการจัดส่งโบราณวัตถุ 2 รายการจากประเทศสหรัฐอเมริกา ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 07.05 น.ดำเนินการเคลื่อนย้ายโบราณวัตถุมาที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ทำการเปิดหีบห่อและตรวจสอบสภาพโบราณวัตถุ
- วันที่ 21 พฤษภาคม 2567 พิธีรับมอบโบราณวัตถุ ณ พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
- วันที่ 22 พฤษภาคม 2567 นำประติมากรรมทั้ง 2 รายการเคลื่อนย้ายไปจัดแสดง ณ ห้องศิลปะลพบุรี อาคารมหาสุรสิงหนาท พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
- 23 พฤษภาคม 2567 เปิดให้ประชาชนเข้าชม
อ่านข่าว :
อยากไปถูกกฎหมาย แต่ 'หนี้' รอไม่ได้ คนไทยไปทำงานญี่ปุ่นผ่านช่องทางไหน?