วันนี้ (29 พ.ค.2567) เวลาประมาณ 07.50 น. เกิดเหตุการณ์ "จิงโจ้" หลุดจากส่วนจัดแสดงสัตว์ภายในสวนสัตว์เชียงใหม่ จำนวน 1 ตัว เบื้องต้น เจ้าหน้าที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ได้เร่งติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมได้ประสานงานกับทีมสัตวแพทย์ และรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับอย่างเร่งด่วน หลังปรากฏในสื่อออนไลน์นำเสนอคลิปภาพจิงโจ้ ที่ประชาชนแจ้งพบ บริเวณทางขึ้นดอยสุเทพ
ด้านนายอรรถพร ศรีเหรัญ ผอ.องค์การสวนสัตว์ เปิดเผยกับไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า ยอมรับว่า "จิงโจ้" จากสวนสัตว์เชียงใหม่หลุดจริง แต่ จนท.สามารถรับมือได้เนื่องจากซ้อมแผนเผชิญเหตุสัตว์หลุดประจำปีไว้ทุกปีอยู่แล้ว สาเหตุที่จิงโจ้หลุดในครั้งนี้คาดว่ามาจากเจ้าหน้าที่ในสวนสัตว์เผลอขณะให้ดูแลในช่วงเช้า แต่ยังไงก็ต้องสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้ง แต่เมื่อรู้ว่าจิงโจ้หลุดออกมาจากส่วนจัดแสดง ก็รีบตามตัวทันที
จากสถานที่ที่ปรากฏในคลิปอยู่บริเวณ ถ.ศรีวิชัย ทางขึ้นดอยสุเทพ พบจิงโจ้อยู่ห่างจากสวนสัตว์ประมาณ 1 กม. ผอ.องค์การสวนสัตว์เชื่อมั่นว่าจะรีบจับจิงโจ้กลับมาได้ เพราะมีแผนเผชิญเหตุรองรับ และ จนท.มีทักษะเนื่องจากซ้อมมาทุกปี ส่วนจิงโจ้เอง ด้วยความเป็นสัตว์ที่ถูกเลี้ยงมา ยังไงก็ไม่หนีเตลิดเข้าป่าไปไกล สัตว์ยังต้องกินอาหาร กินน้ำ และไม่ใช่สัตว์ที่คุ้นเคยกับสภาพป่าแบบนี้ เชื่อว่ายังไงก็ตามจับตัวได้ไม่ยาก
ตอนนี้จิงโจ้อยู่ในอาการตื่นตกใจที่ได้ออกจากกรงเลี้ยง พอออกไปเจอรถราก็เตลิดตกใจเพิ่ม หนีเข้าป่าก็จะไปซ่อนตัวอีก
เปิดแผนเผชิญเหตุสถานการณ์สัตว์หลุด
ผอ.องค์การสวนสัตว์เปิดเผยว่า สำหรับแผนเผชิญเหตุเมื่อมีสัตว์หลุดจากส่วนจัดแสดงนั้น ทางสวนสัตว์ทั่วประเทศมีแผนซักซ้อมเป็นประจำทุกปี โดยใช้หุ่นมาสคอร์ตเสือ เป็นตัวแทนของสัตว์หลุด มีมาตรการขั้นร้ายแรงที่สุดคือทำให้ตายถ้าอยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมไม่ได้ เช่น ทำร้ายมนุษย์ แต่สำหรับกรณีนี้ไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการขั้นสุดขนาดนั้น อาจใช้วิธีการล้อมจับแทน
ผอ.องค์การสวนสัตว์อธิบายเพิ่มเติมว่า ในส่วนท้ายคลิปที่มีการเผยแพร่ออกไป พบว่ามีสุนัขวิ่งเข้าหาจิงโจ้นั้น ตามสัณชาตญาณสัตว์จะหลบ ไม่ปะทะ จิงโจ้ไม่ใช่สัตว์ดุร้ายที่เจอมนุษย์ เจอสัตว์อื่น ๆ แล้ววิ่งเข้าชน
เชื่อว่าตอนนี้ จิงโจ้ ตัวนี้ยังหลบซ่อนตัว เพราะตกใจกับโลกภายนอก สิ่งแวดล้อมที่ไม่ปกติ
ตามมาตรการต้องจับให้ได้ไวที่หลังหลังเกิดเหตุ ตอนนี้ จนท.พยายามตามหาให้เจอตัว จากนั้นจะค่อย ๆ ใช้อาหารล่อให้ออกมา ส่วนตัว นายอรรถพร มองว่าเรื่องนี้เป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครต้องการให้เกิดขึ้น จากนี้ก็ให้เวลา จนท.ตามจับตัวจิงโจ้ตัวนี้ให้ได้ไวที่สุด จากนั้นค่อยดำเนินการสอบสวนถึงสาเหตุที่แท้จริงต่อไป เพื่อถอดบทเรียนไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นอีก
พบร่องรอยจิงโจ้แดง ยังจับตัวไม่ได้
เวลาต่อมา ทางสวนสัตว์เชียงใหม่ได้แถลงข่าวกรณีจิงโจ้แดงเพศเมียหลุดออกจากส่วนจัดแสดงบริเวณคอกกักด้านหลัง
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ผู้เลี้ยงทราบว่า จิงโจ้แดงอายุ 2 ปี ได้เดินสวนทางกับพนักงานเลี้ยงที่กำลังจะเปิดประตูคอกกักเข้าไปในส่วนจัดแสดง หลังจากนั้นได้ออกประตูหลังคอกกักวิ่งกระโดดไปด้านหลังเข้าสู่ถนนด้านหน้าส่วนจัดแสดงบริเวณลิงไทย และโซนสัตว์ออสเตรเลีย
เจ้าหน้าที่สวนสัตว์เชียงใหม่ได้ติดตามไปเป็นระยะ ๆ ทำการกั้นบริเวณ แต่จิงโจ้แดงได้กระโดดและวิ่งออกนอกสวนสัตว์เชียงใหม่ วิ่งขึ้นดอยสุเทพตามเส้นทางถนนเข้าหมู่บ้านห้วยแก้ว ไปยังสถานีวัดความสั่นสะเทือน จ.เชียงใหม่ กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ
นายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ พร้อมด้วยนายภูพิชิต ช่วยบำรุง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ได้มอบหมายเจ้าหน้าที่สวนสัตว์เชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่จากอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย พร้อมได้รับการสนับสนุนเจ้าหน้าที่จากสถานีวัดความสั่นสะเทือน จ.เชียงใหม่ ระดมกำลังตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงปัจจุบัน
ล่าสุดพบร่องรอยของจิงโจ้แดงอยู่ในป่าบริเวณสถานีวัดความสั่นสะเทือนฯ เขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย แต่ยังไม่สามารถจับได้
อย่างไรก็ตาม สวนสัตว์เชียงใหม่ได้จัดเจ้าหน้าที่ค้นหาอย่างต่อเนื่องพร้อมจัดรถพยาบาล ทีมสัตวแพทย์เตรียมการบริเวณพื้นที่โดยรอบบริเวณสถานีวัดความสั่นสะเทือนฯ จนกว่าจะพบตัว
เน้นย้ำผู้ช่วยผู้อำนวยการ หัวหน้าฝ่าย หัวหน้างาน ที่รับผิดชอบให้ทำงานด้วยความละเอียด รอบคอบ มากยิ่งขึ้น ส่วนจิงโจ้แดงที่หลุดไป จะพยายามค้นหาอย่างเต็มกำลังความสามารถของเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่องจนกว่าจะได้ตัวจิงโจ้แดงเพศเมียตัวนี้กลับมา
ในเบื้องต้น สวนสัตว์เชียงใหม่ ได้รายงานไปยังองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นที่เรียบร้อย พร้อมได้รับการสั่งการให้ติดตามอย่างต่อเนื่องด้วยการทำงานที่ปลอดภัยและละเอียดรอบคอบต่อไป
ปัจจุบันจิงโจ้แดงภายในสวนสัตว์เชียงใหม่ มี 23 ตัว เพศผู้ 3 ตัว เพศเมีย 15 ตัว ไม่ทราบเพศอีก 5 ตัว เนื่องจากเป็นรุ่นลูก สวนสัตว์เชียงใหม่ สามารถเพาะขยายพันธุ์ได้จำนวน 2-4 ตัวต่อปี