รัฐเปิดประมูลข้าวเก่า ยังไร้เสียงตอบรับ "ข้าวถุง" มั่นใจคนกินแยกได้

เศรษฐกิจ
29 พ.ค. 67
17:37
521
Logo Thai PBS
รัฐเปิดประมูลข้าวเก่า ยังไร้เสียงตอบรับ "ข้าวถุง" มั่นใจคนกินแยกได้
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

สับสนอลหม่านทั่วประเทศ หลังข้าวสารมะลิ ในโครงการรับจำนำข้าวสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือข้าวเก่าเก็บ 10 ปี จำนวน 15,000 ตัน ซึ่งถูก"ภูมิธรรม เวชยชัย"รองนายกและรมว.พาณิชย์ พลิกฟื้นคืนชีพ ว่ายังมีคุณภาพและนำมาบริโภคได้ โดยมีตลาดหลัก "แอฟริกาใต้" รอรับซื้อ เนื่องจากนิยมบริโภคข้าวเก่า

ความพยายามระบายข้าวเก่าให้ตลาดแอฟริกาครั้งนี้ กลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะสื่อแอฟริกาตีข่าวว่าไทยจะส่งออกข้าวดังกล่าวไปจำหน่ายให้ชาวแอฟริกาบริโภค ส่งผลให้ทูตแอฟริกาต้องออกมาตั้งคำถามต่อรัฐบาลไทยจะส่งออกข้าว 10ปีให้แอฟริกาจริงหรือ? ส่งผลให้ "มาริษ เสงี่ยมพงษ์"รมว.ต่างประเทศ ต้องเร่งชี้แจงและขอเข้าพบทูตแอฟริกาเมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา

ขณะที่นายภูมิธรรม ยันยันว่า ข้าวที่นำออกประมูลครั้งนี้มีคุณภาพเพราะผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือได้และไม่กังวลว่าตลาดข้าวไม่ตอบรับ ซึ่งการประมูลข้าวล็อตนี้เป็นปริมาณข้าวเพียง 15,000 ตันเท่านั้น

ข้าวที่เอกชนประมูลได้ ขึ้นกับผู้ประมูลว่า จะส่งอออกหรือขายในประเทศ เพราะเป็นสิทธิ์ของผู้ชนะประมูล แต่ต้องระบุให้ชัดเจนว่าเป็นข้าวอะไร
 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์

ไทยไม่เคยมีข้าวเก่าเก็บ 10 ปี คงสภาพอยู่ได้

นายวิชัย ศรีนวกุล นายกสมาคมโรงสีข้าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นหนึ่งในผูู้เข้าร่วมฟังคำชี้แจง การระบายข้าวตามที่องค์การคลังสินค้า(อคส.) ระบุว่า ขอดูสภาพข้าวในโกดังในอคส.ในวันที่ 31 พ.ค.นี้ก่อนว่าเป็นอย่างไร ขณะนี้ยังตอบไม่ได้ว่าจะเข้าร่วมประมูลหรือไม่  แต่คาดว่าน่าจะมีเอกชน โรงสี และผู้ส่งออกสนใจที่จะเข้าร่วมประมูลพอสมควร

ผู้บริโภคไม่ต้องกังวล เพราะข้าวที่อยู่ในโกดังหลายปี ก่อนนำออกสู่ตลาดจะมีกระบวนการปรับปรุงคุณภาพให้อยู่ในเกณฑ์มาตรการในการซื้อขายและส่งออกอยู่แล้ว ส่วนที่ต่างประเทศกังวลว่าไทยเอาข้าวไม่ดีไปขายเป็นการเข้าใจผิด เพราะถ้าคนไทยกินได้คนต่างประเทศก็กินได้เหมือนกัน

นายกสมาคมโรงสีฯ บอกว่า การที่ไทยเก็บข้าวในโกดังมาถึง10 ปี แต่ยังมีคุณภาพดี จึงควรเป็นกรณีศึกษาว่าข้าวที่เก็บมา 10 ปี ทำไมถึงยังมีคุณภาพใช้ได้ เพราะไทยไม่เคยมีข้าวที่เก็บไว้ถึง 10 ปีแล้วยังคงสภาพอยู่ได้

กองข้าวที่อคส.เตรยมเปิดประมูล

กองข้าวที่อคส.เตรยมเปิดประมูล

กองข้าวที่อคส.เตรยมเปิดประมูล

สำหรับการประเมินราคาของข้าว 10 ปีนั้น ผู้ประกอบการแต่ละรายประเมินไม่เหมือนกัน บางรายอาจจะประเมินว่าคุณภาพดี บางรายมองว่าคณภาพต้องมาปรับปรุง ดังนั้นราคาอาจจะลดทอนกันไป ซึ่งราคากลาง 15 บาทที่ภาครัฐอยากได้อาจจะเป็นราคาเริ่มต้นซึ่งอาจจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงไม่มีใครตอบได้เพราะอยู่ที่คุณภาพข้าว

“การตรวจต้องตรวจทางกายภาพและทางเคมีของผู้ประกอบการซึ่งผู้ประกอบการทุกรายจะมีวิธีการตรวจอยู่แล้ว ข้าวที่คงสภาพและเป็นเมล็ด ไม่ถูกน้ำ จะไม่เกิดเชื้อรา มีฝุ่นบ้าง เพราะข้าวถึงแม้จะเป็นข้าวที่เราเก็บไว้ที่บ้านจะเห็นว่าอยู่ในถุงก็ยังมีฝุ่นเล็ก ๆ แต่ถ้าปล่อยให้มอดแมลง เข้าไปอยู่บ้างจะมีกลิ่นแมลง หรือกลิ่นสาบ ดังนั้นข้าว 10ปี ย่อมมีสิ่งปนเปื้อน แต่ก็จะมีกระบวนการปรับปรุงขัดสีใหม่ขัดผิวออกใหม่เพื่อให้กลิ่นหาย”

ส่วนการปนเปื้อนสารเคมี เชื่อว่า สารเคมีอาจไม่ได้ซึมเข้าไปในตัวของเมล็ดมากมาย เพราะข้าวมีความชื้นแค่ 11 % แล้วความชื้นข้าวที่เก็บไว้ขณะนี้ไม่ใช่ที่ 15 -16 % เพราะข้าวสารไม่มีเก็บความชื้นที่ 16 %

ข้าวใน 1 ใน2 โกดังที่เตรียมเปิดประมูล

ข้าวใน 1 ใน2 โกดังที่เตรียมเปิดประมูล

ข้าวใน 1 ใน2 โกดังที่เตรียมเปิดประมูล

ขณะที่เชื้อราอัลฟ่าทอกซินจะขึ้นกับอาหารที่เป็นโปรตีน เช่น ถั่ว ข้าวโพด แต่ในคาร์โบไฮเดรต แป้งเชื้อรา มีโอกาสขึ้นน้อยมากเพราะความชื้นไม่มากไม่ได้โดนน้ำ แต่ถ้าโดนน้ำก็จะมีอัลฟ่าทอกซิน แต่ข้าวที่อยู่ในโกดังดูจากภาพก็ไม่ได้เปียกน้ำ

จะให้ฝ่ายจัดซื้อของโรงงานเข้าไปดูและประเมินว่าควรจะซื้อหรือไม่ซื้อได้ระดับราคาที่เท่าใด แต่เบื้องต้นบริโภคได้ก็มีโอกาสที่จะมายื่นเสนอราคา

สำหรับการคัดเม็ดข้าวที่ดีและเสียออกจากกัน ปัจจุบันผู้ประกอบการที่บรรจุข้าวถุง จะมีเครื่องจักรในการแยกข้าวเม็ดดีเม็ดเสียออก แม้แต่ข้าวที่มีจุดดำเชื้อรา เครื่องจักรก็สามารถคัดแยกออกได้ เพราะเครื่องจักรปัจจุบันมีความละเอียดมากในการคัดแยก

มาตรฐานข้าวที่เราจำหน่ายอยู่ทุกวันนี้มีมาตรฐานสูงขึ้นมาก เพราะในระบบการปรับปรุงและเครื่องจักรที่มีในประเทศไทยเป็นถือว่าทันสมัยระดับโลกไม่น่าห่วงเรื่องคุณภาพข้าวที่จะออกมา ซึ่ง TOR ที่ออกมายังไม่มีอะไรติดใจเป็นปกติทั่วไปแต่ตนยังดูข้อความข้อความทั้งหมด

ผู้ส่งออกชี้ไม่ง่าย-ขายข้าวเก่าถุงในประเทศ

 "ไทยพีบีเอสออนไลน์"ลงพื้นที่สัมภาษณ์ ผู้ส่งออกข้าวรายหนึ่ง ระบุว่า การที่รมว.พาณิชย์ อ้างว่า เป็นสิทธิ์ของผู้ประมูลที่ชนะการประมูลว่าจะนำข้าวไปทำอะไร ทั้งส่งออกหรือขายในประเทศ มองว่า การขายในประเทศแบบบรรจุถุงขายน่าจะยาก เพราะสังคมจับตามองดูว่าใครจะเป็นผุ้ชนะและถ้านำมาบรรจุถุงขายอาจจะสงผลต่อความเชื่อมั่นในแบรนด์สินค้าได้ คิดว่าไม่น่าจะมีใครกล้าซื้อ

เชื่อว่าผู้ประกอบการข้าวถุงคงไม่เอาแบรนด์ตัวเองมาเสี่ยงกับเรื่องแบบนี้เพราะจะกระทบกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ส่วนจะส่งออกก็ต้องดูว่าขายใคร และราคาเท่าไหร่ และต้องมีใบรับรองคุณภาพข้าวที่ยอมรับของตลาดต่างประเทศด้วย

นอกจากนี้ราคาที่จะขายให้กับตลาดข้าวเก่าจะต้องไม่สูงกว่าข้าวใหม่ เช่น ราคาข้าวในตลาดอยู่ที่ 620 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน ราคาข้าวเก่าที่จะขายต้องต่ำกว่า อาจจะ 470-480 ดอลลาร์สกรัฐฯต่อตันถึงจะมีคนซื้อ แต่ถ้าขายใกล้เคียงกับราคาข้าวใหม่ที่ 550 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน เชื่อว่าตลาดไม่ซื้อ สิ่งสำคัญ คือการสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดข้าว

แหล่งข่าวรายเดิม ย้ำว่า สำหรับตลาดส่งออกข้าวไทยยังไม่กระทบ เนื่องจากปริมาณข้าวที่ประมูลเพียง 15,000 ตัน หลังจากปรับปรุงแล้วอาจจะเหลือ 12,000-13,000 ตัน ถือว่าเล็กน้อยมาก แต่อาจจะกระทบเรื่องความเชื่อมั่นในตลาดที่บริโภคข้าวเก่า อย่าง แอฟริกา เบนิน ไนจีเรีย ที่ทางทูตแอฟริกาส่งสัญญาณแสดงความกังวลว่าไทยเอาข้าวไม่ดีไปขายให้เขาหรือไม่

มีวงในบอกว่ามีเอกชนบางรายไปเจรจาขอให้โบรกเกอร์ช่วยซื้อข้าวล็อตนี้ ซึ่งทางโบรกเกอร์ก็แบ่งรับแบ่งสู้เพราะรู้ว่าข้าวล็อตนี้มีปัญหาเรื่องคุณภาพแต่เชื่อว่าเขาน่าจะมีทางออกไว้สำหรับข้าวล็อตนี้ อย่างตลาดแอฟริกามองว่าเป็นเรื่องการเมืองเพราะไปพูดเยอะจนฝั่งเขารู้สึกไม่สบายใจ เหมือนไปดูถูกเขาเอาข้าวไม่ดีไปให้เขากิน

ส่วนตลาดส่งออกข้าวในเอเชีย ยุโรป หรือฝั่ง สหรัฐฯ ไม่ส่งผลกระทบเพราะเป็นกลุ่มลูกค้าที่นิยมบริโภคข้าวใหม่ ซึ่งภาพรวมของตลาดส่งออกข้าวไม่มีผลกระทบ ผู้ซื้อแยกเยอะออกว่าข้าวไหน คือ ข้าวใหม่ ข้าวเก่า

การประมูลครั้งนี้น่าจะไม่คึกคัก แม้ว่าจะมีหลายคนสนใจจะเข้าประมูล เพราะปริมาณข้าวไม่ได้มากและมีไม่มีรายที่แสดงตัวว่าสนใจ

นางวิชุดา อัครเมธาทิพย์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงพริทอเรีย แอฟริกาใต้ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ค้าในแอฟริกาใต้ยังไม่มีความกังวลหรือเข้ามาหารือกับสำนักงานเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว การค้าขายยังปกติ

ข้อมูลจากสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เผยว่า ปี2565-2566 แอฟริกาใต้นำเข้าข้าวไทย กว่า 1.67 ล้านตัน แบ่งเป็น ปี 2565 มีปริมาณ 785,560 ตัน และปี2566 ปริมาณ 885,117 ตัน เพิ่มขึ้น12.7% 

ตลาดข้าวถุง"ไม่วิตก" เชื่อผู้บริโภคแยกได้

นายธีรินทร์ ธัญญวัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สุนทรธัญทรัพย์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวสารตราไก่แจ้ และข้าวสารตรากระเช้า กล่าวว่า ธุรกิจการค้าข้าวมีการแข่งขันสูง แต่ข้อดี คือ มีการแข่งขันที่เสรี ดังนั้นขีดความสามารถแข่งขันสำคัญ ต้องทำสินค้าที่มีคุณภาพเพื่อสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง ถือเป็นหลักการสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจ ผ่านความท้าทายทางการค้าในปัจจุบัได้

นายธีรินทร์ ธัญญวัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สุนทรธัญทรัพย์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวสารตราไก่แจ้และข้าวสารตรากระเช้า

นายธีรินทร์ ธัญญวัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สุนทรธัญทรัพย์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวสารตราไก่แจ้และข้าวสารตรากระเช้า

นายธีรินทร์ ธัญญวัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สุนทรธัญทรัพย์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวสารตราไก่แจ้และข้าวสารตรากระเช้า

ยอมรับว่า ขณะนี้ราคาข้าวยังผันผวนและทรงตัวสูง การบริหารจัดการสต๊อกและการบริหารราคาในท้องตลาดเป็นสิ่งสำคัญ ต้นปีที่ผ่านมาต้องปรับราคาข้าวถุง 5-10% แต่ไม่ได้ปรับทุกรายการสินค้าเพราะจะใช้กลยุทธ์การบริหารจัดการโปรโมชั่นแทน เช่น หากต้นทุนสูงจะลดจัดโปรโปรชั่นเพื่อไม่ต้องปรับขึ้นราคาและลดผลกระทบต่อผู้บริโภคให้มากที่สุด

ส่วนกรณีการประมูลข้าวในสต๊อกรัฐบาล ที่มีหลายฝ่ายกังวลว่าจะมีการทำเป็นข้าวถุง เพื่อขายใยประเทศนั้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริ โภค เพราะกระบวนการผลิตข้าวของเอกชน มีขั้นตอนที่ละเอียดมีการตรวจสอบคุณภาพข้าวจากห้องแล็บที่ได้มาตรฐานซึ่งข้าวที่จะไปถึงมือผู้บริโภคจะเป็นข้าวที่มีคุณภาพมาก

ข้าวถุงที่วางจำหน่ายทั่วประเทศทั้งร้านค้าปลีก-ส่ง

ข้าวถุงที่วางจำหน่ายทั่วประเทศทั้งร้านค้าปลีก-ส่ง

ข้าวถุงที่วางจำหน่ายทั่วประเทศทั้งร้านค้าปลีก-ส่ง

สิ่งสำคัญ ผู้บริโภคจะบอกเองว่า ข้าวดี หรือมีคุณภาพนั้นเป็นอย่างไร แต่เชื่อว่าข้าวเก่าที่มีประเด็นขณะนี้ จะไม่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของตลาดข้าวถุงในประเทศ

นายธีรินทร์ กล่าวอีกว่า พฤติกรรมการบริโภคส่วนใหญ่ ยังคำนึงถึงราคาเป็นหลัก แต่เรื่องของคุณภาพก็เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการทำธุรกิจของแบรนด์อยู่แล้ว สำหรับบริษัทเน้นจำหน่ายในประเทศ 70 % ที่เหลือเป็นการส่งออก คาดว่าปีนี้รายได้จะเพิ่มเป็น 3,000 ล้านบาทแม้ว่าเศรษฐกิจจะยังซึมๆอยู่แต่ก็ดีขึ้นกว่าปีก่อนหน้านี้อย่างมีนัยสำคัญ

สำหรับปัญหาอุปสรรคธุรกิจค้าข้าวคือการแข่งขันที่สูง ขณะที่ต้นทุนซึ่งมีราคาข้าวในท้องตลาดเป็นเกณฑ์สำคัญแม้จะทำให้ส่วนต่างกำไรไม่สูงมาก

ทั้งนี้ด้านต้นทุนหลัก คือ ข้าว ซึ่งผู้ประกอบการทุกรายจะมีต้นทุนใกล้เคียงกัน อยู่ที่การบริหารต้นทุนและการผลิตซึ่งบริษัทมีโรงงานปรับปรุงคุณภาพที่จะใช้แลปวิเคราะห์คุณภาพข้าวจนแน่ใจว่าข้าวทุกเมล็ดของไก่แจ้เป็นข้าวที่มีคุณภาพตามที่กำหนดไว้

“ไม่เคยเข้าร่วมประมูลในโครงการรัฐ แต่เรามีคอนแท็คฟาร์มมิ่งกับชาวนา และโรงสี ในการผลิตข้าวให้ ซึ่งมีทั้งข้าวข้าวหอมมะลิ ข้าวขาว ข้าวเหนียว และข้าวญี่ปุ่น เดิมเป็นโรงงานเล็ก ๆ ขายในไม่กี่อำเภอในจ.ชลบุรี แต่ตอนนี้ โรงงานมีกำลังการผลิต 300,000 ตันต่อปี ปัจจุบันใช้กำลังผลิตสัดส่วน 30-40 % บริษัทยังมั่นใจ และให้ความมั่นกับลูกค้าได้ว่า สินค้าที่ออกมาจากแบรนด์มีมาตรการสินค้าทุกล็อต ก่อนที่สินค้าจะออกสู่ตลาดต้องผ่านการตรวจสอบและมาตรฐานทุกครั้ง จึงไม่มีความกังวลจากกระแสที่เกิดขึ้น”

ข้าวถุงที่วางขายตามห้างสรรพสินค้าทั่่วไป

ข้าวถุงที่วางขายตามห้างสรรพสินค้าทั่่วไป

ข้าวถุงที่วางขายตามห้างสรรพสินค้าทั่่วไป

เมินฟังอคส.ชี้แจงทีโออาร์ข้าวโกดัง 10 ปี

นายกฤณรักษ์ ใจดี รักษาการแทนผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า(อคส.) ระบุว่า การระบายข้าวครั้งนี้เป็นการประมูลทั่วไปครั้งที่ 1/2567 ในลักษณะแบบยกคลังตามสภาพข้าวที่เก็บรักษา โดยอคส.จะเปิดให้ผู้สนใจสามารถดูข้าวได้ที่คลังสินค้าจังหวัดสุรินทร์ ระหว่างวันที่ 31พ.ค.-7มิ.ย.2567 (ยกเว้นวันที่3 มิ.ย.2567)ตั้งแต่เวลา 9.00-16.00 น.

หลังจากให้ผู้สนใจดูตัวอย่างข้าวแล้ว จะเปิดให้เอกชนที่สนใจยื่นซองเอกสารคุณสมบัติในวันที่ 10 มิ.ย.2567และจะประกาศรายชื่อผู้เสนอซื้อที่ผ่านคุณสมบัติในวันที่ 13มิ.ย.2567 จากนั้นจะเปิดให้ยื่นซองเสนอราคาซื้อได้ในวันที่ 17 มิ.ย.2567 และเวลา 13.00 น.จะเปิดซองเสนอราคา วันเดียวกัน

สำหรับบรรยากาศในการเข้ารับฟังคำชี้แจงพบว่า มีผู้สนใจรับฟังไม่ถึง 10ราย แต่อคส.ยังคงมั่นใจว่าข้าวล็อตนี้จะมีผู้สนใจเข้าร่วมประมูลแน่นอน

สำหรับข้าวที่จะนำมาประมูลจะเป็นการเปิดประมูลทั่วไปแบบยกโกดังทั้งหมดมี 2 โกดัง คือ 1. คลังกิตติชัย หลัง 2 (ข้าวหอมมะลิ 100%) รับมอบข้าวสารตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค. 2557 ถึง 10 มี.8.2557 เก็บข้าวแล้ว 10 ปี 2 เดือน รวมปริมาณทั้งสิ้น 26,094 ตัน หรือ 258,106 กระสอบจาก 24 โรงสี และได้มีการระบายข้าวสารแล้ว 3 ครั้ง คงเหลือ 11,656 ตัน หรือ 112,711 กระสอบ

2. คลัง บจก.พูนผลเทรดดิ้ง หลัง 4 (ข้าวหอมมะลิ 100%) รับมอบข้าวสารตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค. 2557 ถึง 29 เม.ย. 2557 เก็บข้าวแล้ว 10 ปี 7 วัน มีปริมาณรวมทั้งสิ้น 9,567 ตัน หรือ 94,637 กระสอบ จาก 6 โรงสี ซึ่งระบายข้าวสารแล้ว 4 ครั้ง คงเหลือ 3,356 ตัน หรือ 32,879 กระสอบเป็นต้น

นับจากนี้ คงต้องจับตาดูว่า ใครจะเป็นผู้ได้ข้าวจำนวน 15,000 ตันไป และจะถูกส่งออกไปยังตลาดไหน หรือจะแอบแฝงขายเป็นข้าวถุงในประเทศให้คนไทยได้กินข้าว 10ปีกันคงต้องลุ้นกันในวันที่ 17 มิ.ย.2567

 อ่านข่าว:

ย้อนรอย มหากาพย์ "โครงการจำนำข้าว" ปิดฉากฟอกข้าว 10 ปี

แกะรอย มหกรรมโชว์กินข้าว 10 ปี กินได้จริงหรือ? ฤาหาทางลง

 "ข้าวไทย" ค้างโกดัง 10 ปี ส่งออกความกังวลสู่ "ไนจีเรีย"

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง