ความคืบหน้ากรณีเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.2567 พ.ต.อ.ธิป เข่งคุ้ม ผกก.สภ.เขาย้อย นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบศพสาวนิรนาม เสียชีวิตอยู่ในพงหญ้าที่บริเวณริมถนนเพชรเกษม ฝั่งขาล่องใต้ หลัก กม.ที่ 144 อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ต่อมาทราบว่า ผู้เสียชีวิต คือ น.ส.เบญจรัตน์ หรือน้องครีม อายุ 21 ปี ชาว จ.หนองคาย ซึ่งญาติได้โพสต์ประกาศออกตามหาก่อนหน้านี้
วันนี้ (10 มิ.ย.2567) เวลา 09.43 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาย้อย ควบคุมตัวนายอนุวัฒน์ อายุ 20 ปี ผู้ต้องหา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณจุดพบศพ จุดกลับรถ และปั๊มน้ำมัน
ภายหลังเมื่อวานนี้ (9 มิ.ย.) เวลา 22.50 น. ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลจังหวัดเพชรบุรีออกหมายจับ และเข้าจับกุมนายอนุวัฒน์ได้ในพื้นที่ ต.บ้านกรูด จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะพาหญิงสาวอีกคนไปกินอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง และควบคุมตัวมาทำการสอบสวน โดยอนุวัฒน์ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุฆ่า น.ส.เบญจรัตน์จริง นอกจากนี้ได้นำภาพและข้อมูลรถกระบะไปลงขายผ่านทางหน้าเพจออนไลน์กลุ่มซื้อขายรถในพื้นที่ภาคใต้ เบื้องต้นแจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน, ลอบฝังศพ ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย หรือสาเหตุแห่งการตาย
จากการสอบสวนนายอนุวัฒน์ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนเองรู้จักกับ น.ส.เบญจรัตน์ ในแอปพลิเคชันหาคู่มาระยะหนึ่งแล้ว โดยช่วงก่อนเกิดเหตุได้นั่งเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปลงที่สนามบินภูเก็ต เพื่อไปหาผู้เสียชีวิต และเข้าพักที่รีสอร์ทในพื้นที่ จ.ภูเก็ต จากนั้นวันรุ่งขึ้นก็ให้ น.ส.เบญจรัตน์ เดินทางมารับ เพื่อเดินทางนำรถกระบะไปคืนนายเค แฟนเก่า ในพื้นที่กรุงเทพฯ
กระทั่งเดินทางเข้าพื้นที่เขต อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ แฟนสาวของนายอนุวัฒน์ได้โทรศัพท์เข้ามาหานายอนุวัฒน์ โดย น.ส.เบญจรัตน์ พยายามพูดจาส่งเสียงดัง เพื่อให้แฟนของนายอนุวัฒน์ทราบว่าอยู่ด้วยกัน จากนั้น น.ส.เบญจรัตน์ ได้ตบหน้านายอนุวัฒน์ ทำให้โมโหและลงมือบีบคอจนเสียชีวิตในรถ โดยขับรถมาเรื่อย ๆ และนำศพมาทิ้งในบริเวณดังกล่าว
คดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบพบศพสภาพเน่าเปื่อย ไม่สามารถยืนยันตัวตนได้ โดยสวมนาฬิกาที่ข้อมือซ้าย สวมแหวนทอง 1 วง และที่ข้อมือขาวสวมสร้อยลูกปัด 1 เส้น และที่หัวไหล่ด้านซ้ายมีรอยสัก 1 แห่ง ต่อมาได้รับการยืนยันว่า ผู้เสียชีวิต คือ น.ส.เบญจรัตน์
ตำรวจติดตามเบาะแสจากภาพกล้องวงจรปิดเส้นทางต่าง ๆ ซึ่งในช่วงเวลา 02.01 น.ของวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา กล้องจับภาพรถต้องสงสัยขณะวิ่งอยู่บนถนน ห่างจากจุดเกิดเหตุ 200 เมตร และมีภาพชายต้องสงสัยปรากฏอยู่ภายในรถคันดังกล่าว