เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.2567 เวลา 22.30 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมานกองปราบ ควบคุมตัวลูกเรือ 8 คน ผู้ต้องหาขโมยเรือน้ำมันเถื่อนของกลางมาสอบปากคำที่กองบังคับการปราบปราม พร้อมของกลางที่เป็น GPS นำทางในการเดินเรือ, วิทยุสื่อสาร และเสื้อผ้าที่ผู้ต้องหาสวมใส่ในวันหลบหนี มาใช้ประกอบสำนวนการสอบสวน
อ่านข่าว : ตรวจหาหลักฐานเพิ่มบนเรือน้ำมันเถื่อน 3 ลำ
ทันทีที่ผู้ต้องหาทั้ง 8 คนเดินทางมาถึงกองบังคับการปราบปราม พบว่ามีสีหน้าเคร่งเครียดและปฏิเสธที่จะตอบคำถามใดๆ ก่อนจะถูกนำตัวเข้าห้องคุมขัง
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ได้สอบปากคำผู้ต้องหา 8 คนไปแล้วส่วนหนึ่งที่ จ.สงขลา โดยผู้ต้องหาทุกคนให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี แต่หลังจากนี้จะสอบสวนเพิ่มเติมอย่างละเอียด โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการขยายผลไปถึงผู้บงการและผู้ว่าจ้าง
อ่านข่าว : จ่อออกหมายจับ "โจ้ ปัตตานี" กุนซือเอี่ยวขายน้ำมันของกลางใช้หนี้
ส่วนความคืบหน้าทางคดี ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ พร้อมด้วยตำรวจกองบังคับการปราบปราม และอัยการในคดีเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน ได้หารือร่วมกันและได้ข้อสรุปว่า คดีนี้จะยังไม่มีการออกหมายจับใครเพิ่มเติม แต่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิดผู้สั่งการ ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 8 คนจะถูกควบคุมตัวไปขออำนาจศาลอาญาฝากขังในวันที่ 20 มิ.ย.นี้
สอบปากคำ "ไต๋ก๋งเรือ" ได้ข้อมูลโยงผู้บงการหลบหนี
ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม เดินทางมาติดตามความคืบหน้าการสอบปากคำลูกเรือทั้ง 8 คน พร้อมระบุว่า การสอบปากคำไต๋ก๋งเรือ ได้ข้อมูลสำคัญเชื่อมโยงไปถึงตัวผู้บงการการหลบหนี จึงเชื่อมีคนสั่งการอย่างแน่นอนและได้วางแผนมาเป็นอย่างดี
เบื้องต้น ฝ่ายสืบสวนได้นำข้อมูลทางโทรศัพท์ของไต๋ก๋งและลูกเรือไปตรวจสอบแล้วว่ามีการพูดคุยกับใครหรือไม่ แต่จะโยงไปถึง "โจ้ ปัตตานี" ได้หรือไม่ขอให้อยู่ในสำนวน โดยเตรียมขยายพลขอหมายจับมากกว่า 1 คน
ขณะที่ลูกเรือที่หลบหนีไป 7 คนจากเรือของกลางทั้ง 3 ลำ ตำรวจมีข้อมูลมีการถ่ายน้ำมันไปส่งขายให้กับเรือลำหนึ่งแล้วมีลูกเรือหนีไปกับเรือลำนั้น แต่จะมุ่งหน้าไปทางไหนอยู่ระหว่างตรวจสอบ
ส่วนลูกเรือ 15 คนที่หลบหนีไปกับเรือของกลางทั้ง 3 ลำ ทั้งหมดถูกแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยร่วมกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป และมี 14 คน (ลูกเรือเดิม) ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันทำให้ทรัพย์สินของเจ้าพนักงานของรัฐสูญหาย ส่วนอีก 1 คนที่เป็นลูกเรือใหม่ถูกแจ้งหาช่วยเหลือผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษหรือรับโทษน้อยลง เนื่องจากพบหลักฐานเป็นคนไปซื้อเสบียงขับใส่รถซาเล้งมาส่งขึ้นไปกับเรือ
นอกจากนี้ยังมีประเด็นแชตไลน์ที่อ้างว่าเป็นของเสี่ยโจ้ คุยกับนายตำรวจอักษรย่อ “น” นั้น อยู่ระหว่างตรวจสอบ
อ่านข่าว